- 26 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนพระเดช กิจวิบูลย์ อายุ 75 ปี พระลูกวัดของวัดมธุรสติยาราม ใน ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง จนมรณภาพ ขณะข้ามถนนเพื่อไปบิณฑบาต เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย (ขาเข้ากรุงเทพฯ) หมู่ที่ 5 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง เหตุเกิดเมื่อเวลา 05.30 น. ของวันที่ 22 ม.ค. 61 ซึ่งจากอุบัติเหตุดังกล่าวสื่อมวลชนหลายแขนงต่างนำเสนอข่าวกันเกือบทุกสำนัก เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น เป็นจุดเสี่ยงที่ประชาชน พระ นักเรียนนักศึกษา ในละแวกต่างต้องเสี่ยงชีวิตวิ่งข้ามถนนซึ่งเป็นถนนสายหลัก มีหลายช่องทางการจราจร หลังจากที่สะพานลอยคนข้ามที่เคยใช้กันได้ถูกรถเทลเลอร์บรรทุกรถแบคโฮชนจนทำให้หักพังทลายลงมาทับรถสัญจรบนถนนเสียหาย 2 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เหตุเกิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยหลังเกิดอุบัติดังกล่าวทำให้ประชาชนต่างวิพากวิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานาถึงการทำงานที่ล่าของหน่วยราชการจนทำให้มีผู้เสียชีวิต
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (26 ม.ค. 61) ที่หมวดทางหลวงอ่างทอง ริมถนนสายเอเชีย ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่จากแขวงการทางอ่างทอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง ได้ร่วมกันประชุมวางแผนเกี่ยวกับการปิดถนนเพื่อจะทำการเคลื่อนย้ายคานสะพานลอยขึ้นติดตั้งบนตอม่อสะพานดังกล่าว ซึ่งจำเป็นต้องปิดการจราจรบนถนนสายเอเซียบางจุดเพื่อให้รถรถเทลเลอร์และรถยกได้ทำการเคลื่อนย้ายคานสะพานขึ้นติดตั้งได้สะดวก ซึ่งหลังจากการประชุมวางแผนก็ได้แบ่งกำลังกันไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนด
ซึ่งจากการสอบถามนายสมบัติ ทองเนื้อแปด นายช่างโยธาชำนาญงาน หัวหน้าหมวดทางหลวงอ่างทอง ซึ่งดูแลเรื่องการเคลื่อนย้ายคานสะพานขึ้นติดตั้งบนสะพาน กล่าวว่า ในวันนี้ทางหมวดทางหลวงได้ร่วมกับหลายหน่วยงานดำเนินการเคลื่อนย้ายคานสะพานขึ้นติดตั้งบนตอม่อ โดยในการปิดถนนบริเวณช่องการจราจรหลัก และให้ใช้เส้นทางคู่ขนานแทน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงจึงจะแล้วเสร็จ
ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการปิดถนนเพื่อให้รถเทลเลอร์บรรทุกคานสะพานที่มีจำนวน 2 คาน น้ำหนักประมาณอันละ 30 ตัน เคลื่อนเข้ามาก่อนที่จะใช้รถยกทำการยกคานขึ้นติดตั้งบนตอม่อ ซึ่งระหว่างนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ทางหลวงต่างช่วยกันอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยให้เลี่ยงจากทางหลักไปใช้ทางคู่ขนานแทน โดยในการปฏิบัติงานมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาติดตามการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด
นาย ปฏิเวชวุฒิศักย์ สุขขี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอ่างทอง เปิดเผยว่า หลังจากการวางคานสะพานขึ้นตั้งบนตอม่อสะพานลอยแล้ว ในขั้นตอนต่อไปผู้รับเหมาก็จะทำการเทพื้นสะพานและดำเนินการจนแล้วเสร็จซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งทางทุกภาคส่วนเห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน ก็ต่างเร่งดำเนินการให้สะพานลอยนี้กลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตามก็ต้องขออภัยในความไม่สะดวก ซึ่งสะพานลอยจะกลับมาใช้ได้ในเร็ววันนี้
ส่วนนายณรงค์ ตาบประดับ อายุ 69 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง กล่าวว่า ตนก็รู้สึกดีใจที่สะพานลอยจะกลับมาใช้ได้เร็วดังเดิม แต่ก็ยังอดที่จะติติงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไม่ได้ที่ไม่เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพราะสะพานลอยนั้นพังมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว นี่ก็จะครบปีแล้ว หากไม่เกิดอุบัติเหตุที่มีพระถูกรถชนจนมรณภาพก็คงไม่มีใครหันมาใส่ใจ แต่อย่างไรก็ตามก็ขอให้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะประชาชน นักเรียน นักศึกษา คนงาน พระ ต่างเดือดร้อนกันมานาน ที่สำคัญชาวบ้านในละแวกนี่ไม่ได้เข้าวัดเข้าวาทำบุญมานานแล้ว ทำได้เพียงแต่ใส่บาตรหน้าบ้านเท่านั้น เนื่องจากวัดที่จะทำบุญอีกอีกฟากถนน การข้ามนั้นลำบาก เพราะถนนเป็นถนนใหญ่มีหลายเลนข้ามลำบากและเดือดร้อนมาก
ภาพ/ข่าว สุรศักดิ์ หริ่มสืบ ผูุ้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดอ่างทอง