- 09 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่9 กุมภาพันธ์ 61 เวลา10.00 น. ที่หอประชุมของเทศบาลตำบลนาดี อ.หนองแสง จ.อุดรธานี นายบุญเลิศ วรวงศ์ นายอำเภอหนองแสง ได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมร่วมกันระหว่างเทศบาลตำบลนาดี โดย น.ส.เจษฏา พรหมสว่างนายกเทศมนตรี และตัวแทนชาวบ้านผู้ใหญ่บ้าน9 หมู่บ้าน ยกเว้นหมู่ที่ 3 ซึ่งมีการทำน้ำประปาหมู่บ้านใช้เอง และ ร.ต.ประหยัด จันทะบุญ หน.ชป.กลล.รส.จังหวัดอุดรธานี(อ.หนองแสง)เพื่อหาทางแก้ไขปัญหากรณีการเก็บ ค่าน้ำประปาของเทศบาลตำบลนาดีซึ่งมีปัญหามาเป็นเวลาหลาย ปี ชาวบ้านได้นำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็หาข้อยุติยังไม่ได้
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเกิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 และได้มีการตรวจพบในปี พ.ศ.2558 พบว่ามีพนักงานเก็บค่าน้ำประปาของเทศบาลตำบลนาดี มีการทุจริตต่อหน้าที่ ไม่มีการออกไปทำหน้าที่จดมิเตอร์น้ำประปา และจดตัวเลขค่าน้ำประปาลงในใบเสร็จรับเงินน้อยกว่าความเป็นเท็จ เป็นเหตุให้ชาวบ้านที่ใช้น้ำประปาของเทศบาลตำบลนาดี มีภาวะในการค้างจ่ายค่าน้ำประปาสะสมกันทั้ง 9 หมู่บ้านดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 1 ปี
นายบุญเลิศ วรวงศ์ นายอำเภอหนองแสง เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ตนยังไม่ได้ย้ายมาประจำที่ อ.หนองแสง จากการสอบถามนายกเทศมนตรี รับว่าปัญหาเริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 สมัยนายกเทศมนตรีคนก่อน เนื่องจากพนักงานเก็บเงินค่าน้ำประปา ทำการทุจริตต่อหน้าที่ ไม่ได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบ ลงค่าน้ำประปาไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้เงินค่าใช้น้ำประปาน้อยกว่าความเป็นจริง ซึ่งทางเทศบาลฯตรวจสอบแล้ว จึงมีการเก็บเงินค่าน้ำประปาที่ชาวบ้านใช้ไปให้เป็นปัจจุบัน โดยเป็นการเรียกเก็บส่วนต่างค่าน้ำ ย้อนหลัง ทำให้ชาวบ้านไปร้องเรียนต่อหลายหน่วยงาน เพื่อให้เทศบาลยกเว้นเก็บค่าน้ำประปาที่ค้างอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุจริตเอาไว้ โดย ชาวบ้านอ้างว่า ไม่ได้เป็นความผิดของชาวบ้าน แต่เป็นความผิดของเทศบาลตำบลนาดี และเจ้าหน้าที่เก็บเงินค่าน้ำประปา ต้องการให้เทศบาลฯยกหนี้ที่ทำการผิดพลาดให้ชาวบ้าน
ตนเองในฐานะที่เป็นผู้แทนจังหวัด ได้หาทางออกให้ทั้งสองฝ่าย คือ ทางเทศบาลฯเองต้องทำรายละเอียดของค่าน้ำประปาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ เกิดจากการทุจริตของพนักงานฯ ให้ชัดเจน และสามารถชี้แจงกับชาวบ้านที่เกิดสงสัยได้ทุกราย ต้องมีการชี้แจง และตอบข้อสงสัยกับชาวบ้าน ที่มีปัญหาได้ทุกประเด็น และต้องหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ตามหน้าที่ของผู้แทนชาวบ้านที่เลือกตั้งมา ส่วนชาวบ้านเองก็ต้องชำระเงินค่าน้ำประปาที่ยังไม่ได้จ่าย เพราะก็เป็นหน้าที่ของชาวบ้านด้วยเช่นกัน อย่าง ไรก็ตามตนเองในฐานะนายอำเภอไม่ได้มีอำนาจสั่งการเทศบาลได้ จะรายงานไปยังผู้ว่าราชการเพื่อทราบและพิจารณาต่อข้อเรียกร้องของชาวบ้าน
น.ส.เจษฏา พรหมสว่าง นายกเทศบาลตำบลนาดี กล่าวยอมรับว่า เรื่องความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เก็บค่าน้ำประปา เพราะ ตนเองพบว่า พนักงานฯคนดังกล่าว ไม่ได้ออกไปทำหน้าที่จด เก็บค่าน้ำประปา บางครั้งก็ออกไปทำงานกับหน่วยอื่น ตนเคยสอบถามว่า ทำไมไม่ออกไปหาจดมิเตอร์น้ำ และเก็บเงิน พนักงานคนดังกล่าวก็อ้างเหตุผลไปจดมิเตอร์และเก็บค่าน้ำ ไม่ได้ เพราะชาวบ้านออกไปทำนา และมิเตอร์ติดตั้งอยู่ภายในบริเวณบ้าน ซึ่งในเขตเทศบาลตำบลนาดีมีผู้ใช้น้ำประปาจำนวน 1,218 ราย จาก 9 หมู่บ้าน
ตนจึงเรียกเอกสารมาตรวจสอบการทำงานและจัดเก็บเงินค่าน้ำประปา พร้อมสั่งให้พนักงานเก็บน้ำฯคนดังกล่าวเขียนรายงานข้อเท็จจริง และ พบว่ามีสิ่งผิดปกติ เช่น ค่าจัดเก็บน้ำประปารายได้ลดน้อยลง จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมกามรขึ้นมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งพนักงานฯคนดังกล่าวก็ให้การรับสารภาพกับคณะกรรมการสอบสวนฯ ว่า ได้รับการสั่งสอน มาจากพนักงานเก็บค่าน้ำประปา คนก่อนๆ จึงไล่ออกจากหน้าที่และให้หาเงินจำนวน 59,000 บาทเศษมาชดใช้คืน ก็ถือว่าจบสิ้น เพราะถือว่าเป็นการนำเงินรายได้ใน ความรับผิดชอบส่งเข้ากองคลังล่าช้าไม่ตรงตามกำหนดเวลา ส่วนการลงโทษไล่ออก ก็ถือว่าเป็นโทษสูงสุดตามอำนาจนายกฯแล้ว และถือว่าสิ้นสุดแล้ว
ส่วน การช่วยเหลือชาวบ้าน ก็จะให้มีการเก็บควบคู่ไปกับใบเสร็จปัจจุบัน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ทุกเดือนเป็นเวลา 12 เดือน และการเก็บสองเดือนควบก็จะไม่เกิน 500 บาทต่อ สองใบเสร็จ ส่วนการยกเลิกการเก็บทางตนในฐานะนายกเทศมนตรี จะทำหนังสือทำการปรึกษาไปยังจังหวัด เพื่อขอให้จังหวัดเป็นผู้พิจารณา
ทางด้านนายจำรัส เพิ่มสุทา อายุ 55ปี บ้านเลขที่ 117 ม.8 บ้านนาดี ต.นาดี อ.หนองแสง จ.อุดรธานี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของเทศบาลตำบลนาดี และเจ้าหน้าที่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลนาดี กล่าวว่า ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำดังกล่าว มาตั้งแต่ปี 2560 เพราะทางเทศบาลจะขอเก็บเงินที่ค้างกับชาวบ้านว่า เป็นค่าน้ำประปาที่ชาวบ้านใช้ไปแล้ว แต่ตนเห็นว่าเป็นการเก็บย้อนหลัง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ความผิดของชาวบ้าน เทศบาลน่าที่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวด้วย ดังนั้นพวกตนได้ตั้งตัวแทนขึ้นมา ไปทำการร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ,จังหวัด และ มทบ.24 ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้มีการประชุมหาทางออกและแก้ไขปัญหาดังกล่าวหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติกันได้
นายจำรัสฯ กล่าวต่อว่า นายกเทศมนตรีในฐานะของนักการเมือง น่าที่จะต้องทำการชี้แจงรายละเอียดกับชาวบ้านที่เกิดความเดือดร้อนและมีปัญหา ไม่ใช่จะอ้างแต่ข้อกฎหมาย และทำตามระเบียบกฎหมาย ชาวบ้านเขาไม่รู้กฎหมาย นายกเทศมนตรีที่เป็นนักการเมือง ก็ควรหาทางช่วยเหลือชาวบ้าน อย่าใช้แต่ข้อกฎหมาย อย่างเดียว
โดยมีรายงานว่าที่ประชุมครั้งล่าสุดนี้ สามารถหาข้อยุติในปัญหาค่าน้ำประปาของชาวบ้านลงได้ โดยใช้วิธีการของ นายกเทศมนตรี โดยให้เก็บค่าน้ำตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2560 ควบคู่ของเดือนมกราคม 2561 ไปจนกว่าจะเป็นปัจจุบัน หรือ 12 เดือน ส่วนชาวบ้านรายใดที่เสียของเดือนมากราคมไปแล้ว ให้เก็บกุมภาพันธุ์และ มีนาคม 2560 ก็ให้เริ่มเสียควบคู่ในเดือนเมษายน 2561 จนกว่าจะครบดังกล่าว
นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ภูมิภาค สำนักข่าว ทีนิวส์
ภาพ/ข่าว นาย กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์