- 22 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากรณีที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับ Thai Fight และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกันจัดการแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT เมืองคอน” ในวันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2561 ณ บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครศรีธรรมราช ซึ่งนับเป็นประวัติศาสตร์แห่งวงการมวยของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีนักมวยไทยลูกหลานชาวนครศรีธรรมราช ได้ขึ้นเวทีชกกับนักมวยฝรั่งด้วย โดยคาดว่าจะมีชาวนครศรีธรรมราช พี่น้องประชาชนจังหวัดใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศร่วมชมและเชียร์การแข่งขันอย่างเนืองแน่นแน่นอน ชมฟรี ไม่มีเก็บค่าผ่านประตู สามารถรับบัตรเข้าชมฟรีได้ที่หน้าสนามมวยตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป ตามที่เสนอข่าวมาตามลำดับแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากจะมีคู่มวยไทยขึ้นชกกับนักมวยฝรั่งแล้วยังมีคู่มวยที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนมวยทั่วโลกอีก 1 คู่ ซึ่งจะเป็นคู่มวยกิตติมศักดิ์ที่จะชกกัน 3 ยก ระหว่างนายจิมมี่ ชวาลา อายุ 58 ปีคหบดีมหาเศรษฐีใจบุญที่เคยบริจาคเงินช่วยเหลือสาธารณกุศลอย่างต่อเนื่อง จนเป็นข่าวโด่งดังมาตลอด โดยเฉพาะการบริจาคเงินจำนวน 28 ล้านบาท เพื่อซื้อทองคำสำหรับบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช และบริจาคเงินอีก 16 ล้านบาทให้ “ตูน บอดี้สแลม”ในนามชาวนครศรีธรรมราช เพื่อร่วมโครงการ “ก้าวคนละก้าว”เพื่อโรงพยาบาล 11 แห่งทั่วประเทศ จะขึ้นชกเป็นมวยคู่เปิดรายการกับนายยงยุทธ เลอวิศิษฎ์ หรือ “โกลาย” นักธุรกิจเจ้าของค่ายมวย “เกียรติยงยุทธ” ซึ่งมีภูมิลำเนาเดิมเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช และใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือสังคมมาตลอดเช่นกัน และทั้งนายจิมมี่และนายยงยุทธ มีอายุ 58 ปีเท่ากัน
สำหรับนายจิมมี่ เป็นคนสัญชาติอินเดีย บิดาชื่อนายราม ชวาลา บิดาชาวอินเดียซึ่งนายราม และนายชม บิดานายราม (คุณปู่นายจิมมี่) ได้เดินทางมาจากประเทศอินเดีย เข้ามาปักหลักทำมาหากินในเมืองนครศรีธรรมราช โดยค้าขายผ้า ต่อมาได้เปิดเป็นร้านขายผ้าชื่อ “ร้านนายชม” ใน ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในขณะที่นายรามบิดานายจิมมี่ นอกจากจะขายผ้าแล้วยังชื่นชอบ”มวยไทย” ศิลปะการต่อสู้ของเมืองไทยจึงได้ฝึกฝนและชกมวยเป็นอาชีพ โดยชื่อ “รามซิง ศิษย์สุริยะ” จนมีโอกาสเข้าไปชกในเวทีราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร จนมีชื่อเสียงโด่งดังระดับแนวหน้าคนหนึ่งเมื่อกว่า 40 ปีก่อน
โดยนายราม หันมาเปิดร้านค้าผ้าในตลาดท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราชอย่างเต็มตัวจนธุรกิจรุ่งเรือง เป็นที่รู้จักกันดีของชาวนครศรีธรรมราช ต่อมาในปี 2518 นายจิมมี่ ได้เดินทางจากประเทศอินเดียเข้ามาช่วยดูแลร้านขายผ้าของนายราม บิดาและนายจิมมี่ ได้ฝึกฝนวิชามวยไทยจากนายราม และขึ้นชกมวยในท้องถิ่นหลายครั้ง กระทั้งนายราม บิดาได้เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 59 ปี นาย นายจิมมี่ ชวาลา จึงได้สืบทอดธุรกิจค้าผ้าต่อจากนายรามบิดา โดยปรับปรุงและเปิดเปิดร้านค้าผ้าใหม่ชื่อร้าน “จิมมี่ คลังผ้า” บริเวณริมถนนราชดำสีนิน ใกล้สี่แยกท่าวัง ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จนธุรกิจค่าผ้าเจริญรุ่งเรือง เติบโตมาจนถึงปัจจุบัน และยังให้การสนับสนุนเปิดค่ายมวย “จิมมมี่คลังผ้า” มีนักมวยที่มีชื่อเสียงในระดับท้องถิ่นหลายคน อาทิ มิ่งขวัญ จิมมี่คลังผ้า เมืองลิกอร์ จิมมี่คลังผ้า หนึ่งเดียว จิมมี่คลังผ้า เป็นต้น
ทางด้านนายยงยทธ เลอวิศิษฎ์ หรือ “โกลาย” เป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช โดยกำเนิด ปัจจุบันนักธุรกิจชื่อดังในกรุงเทพและเป็นเจ้าของค่ายมวย “เกียรติยงยุทธ” มีนักมวยระดับแนวหน้าของเมืองไทยจำนนมาก อาทิ น้องบี เกียรติยงยุทธ ,เพชรเอก เกียรติยงยุทธ เป็นต้น ซึ่งทั้งนายจิมมี่ และยายยงยุทธ ได้เริ่มเข้าค่ายฟิตซ้อมอย่างต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว
ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วยนายนายพงศ์ปพนธ์ วงศ์สัมพันธ์ ที่ปรึกษา Thai Fight และผู้ประสานงานจัดการแข่งขัน Thai Fight นครศรีธรรมราช ได้เข้าพบและสัมภาษณ์นายจิมมี่ ชวาลา ที่ร้านจิมมี่นคร หรือร้านจิมมี่ คลังผ้า ตลาดท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยนายจิมมี่ กล่าวว่า พ่อผมเป็นนักมวยชื่อดังเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในชื่อ “รามซิงค์ ศิษย์สุริยะ” ผมได้มีโอกาสฝึกมวยไทยกับคุณพ่อ จนสามารถชกมวยไทยได้เป็นอย่างดี การที่ได้รับเชิญให้ขึ้นชกกับคุณยงยุทธ เลอวิศิษฎ์ หรือ “โกลาย “เจ้าของค่ายมวยดัง “เกียรติยงยุทธ ในศึกมวยไทยโลก “Thai Fight เมืองคอน” ในครั้งนี้นับเป็นเกียรติและเป็นการทำเพื่อบ้านเพื่อเมือง แม้ผมจะไม่ได้ฝึกซ้อมมวยมานานเกือบ 40 ปี แต่ตอนนี้ก็เริ่มเข้าค่ายฝึกซ้อมแล้ว ไม่แน่ใจว่าร่างกายจะฟิตจนสามารถต้านเพลงมวยของนายยงยุทธ ได้ครบ 3 ยกหรือไม่ ยังไงเสียขอฝากไปยังโกลายขอให้เพลา ๆ มือให้ผมหน่อย อย่าเอาผมจนให้ผมหลับนะครับ นายจิมมี่ กล่าวฝากถึงโกลาย คู่ชกในที่สุด.
ภาพ/ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ข่าว / ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช