ภาพสุดน่ารักวิถีชีวิตแบบบ้านๆ ! ปิดเทอมเด็กๆ ออกล่าหา "กะปอม" มาทำอาหารและขายสร้างรายได้ช่วยเหลือผู้ปกครอง

เมื่อเวลา 14.00 น วันวันที่ 24 เม.ย.ผู้สื่อข่าว รายงานจากจังหวัดบึงกาฬว่า ในช่วงวันหยุดหรือปิดภาคเรียนก่อนเลื่อนชั้นของทุกปี เด็กนักเรียนที่อาศัยอยู่ตามชนบทจะออกจากบ้าน ไปล่าหากะปอมหรือกิ้งก่าตามตอไม้ ต้นไม้หรือเสารั้วข้างทางมาขาย และประกอบอาหารเปิบพิสดาร เช่นก้อยหรือลาบกะปอม หรือกิ้งก่า หากเหลือก็จะนำไปขายตัวละ 2-5 บาท แล้วแต่ขนาดเล็กหรือใหญ่ๆ มากก็ตัวละ 10 บาทสร้างรายได้ ช่วยเหลือผู้ปกครอง ในระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ถือว่าเป็น เทศกาลตามล่าหากะปอมหรือกิ้งก่าก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลปิดภาคเรียนของเด็กๆ เป็นการเสริมสร้างทักษะให้กับนักเรียน  

 

 

 

 

เช้าวันนี้ เด็กชายพีรพล ยวนนาอายุ 9 ขวบนักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านโพธิ์ ตำบลศรีชมพู อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ได้ชักชวนเด็กชายออมสิน ธนศักดิ์ชินคำ อายุ 7 ปีโรงเรียนอนุบาลเลิศปัญญา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลปากคาด ซึ่งเป็นญาติบ้านใกล้เคียงกัน ได้ปั่นจักรยานซ้อนท้ายกันถือไม้ยาวประมาณ 2 เมตรติดบ่วงที่ปลายใช้สำหรับคล้องกะปอม และถุงตาข่ายสีฟ้าเพื่อใส่กะปอม โดยทั้งสองคนได้ปั่นจักรยานไปตามถนนระหว่างบ้านโพธิ์-บ้านนาขาม เพื่อมองหากะปอมที่จับอยู่บนต้นไม้  ข้างต้นไม้ เสารั้ว และตอไม้ตามสองข้างทาง เมื่อเจอตัวกะปอมก็หาที่ยืนอยู่คนละข้างป้องกันไม่ให้วิ่งหนีพลาดสายตา หลังจากใช้บวงคล้องคอกะปอมได้แล้วก็จะ ตะหวัดไม้เพื่อให้ห่วงรัดคอกะปอม

            เด็กชายพีรพล  เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตัวเองเป็นลูกกำพร้าพ่อตายตั้งแต่เล็ก ส่วนแม่ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดจึงได้อาศัยกับป้าเป็นผู้เลี้ยงดูและส่งเสียให้เรียนหนังสือ และให้เงินไปโรงเรียนเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อขนม จึงอยากมีเงินเป็นของตนเองได้ชักชวนกับเด็กชายออมสินมาคล้องกะปอม เพื่อไปทำอาหารและขายตัวละประมาณ 2 ถึง 5 บาท ใหญ่มากเช่นกะท่าง (กิ้งก่า) ตัวสีเขียวๆ ปนฟ้า ตัวละ 10 บาท แล้วแต่ขนาดเล็กและใหญ่ จะได้เงินประมาณวันลพ 50-70 บาทก็เก็บไว้ซื้อขนมทุกวันโดยไม่เดือดร้อนเงินป้า-ลุง

 

 

กะปอมหรือกิ้งก่าจะมีให้เห็นมากในช่วงหน้าแล้งนี้  เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการผสมพันธุ์และวางไข่ของกะปอมตัวเมีย จะออกหากินหรือผสมพันธุ์กันในช่วงเช้าที่มีแสงแดดไปจนถึงช่วงเย็น และอาหารของกะปอมช่วงนี้จะมีชุกชุมมากเนื่องจากแมลงปีกหรือแมลงตัวเล็กๆ เช่น จักจั่นและแมงกินูน ซึ่งออกหากินใบอ่อนของต้นไม้ที่ผลิใบในช่วงปลายฝนต้นหนาวหรือเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง กะปอมที่มีสีเขียนปนฟ้าจากหัวลงมาหาลำตัว คนอีสานเรียกว่า กะท่าง ตัวก็จะใหญ่กว่ากะปอมตัวผู้ที่เป็นสีแดงอมส้มตัวนี้ก็ซื้อขายกันตัวละประมาณ 10 บาท

            ส่วนการนำไปประกอบอาหารนั้น บางคนก็จะนำไปย่างไฟทั้งตัว เมื่อศุกร์แล้วก็จะขอดเกล็ดออก เอาไส้เอาพุงออกแล้วก็มาสับให้ละเอียดหรือไปตำใส่ครกแล้วเติมเครื่องปรุงรส พริกข้าวขั้วหอมน้ำปลามะนาว และมีบางคนก็ลอกหนังออกแล้วนำไปย่างไฟสุกพอหอมๆ เหลืองๆ จึงมาสับให้ละเอียดแล้วไปคลุกเคล้าหรือละคนเข้ากับมะม่วงกะสอที่สับปรุงรสตามชอบใจ ก็จะได้ก้อยหรือลาบกะปอมแซ่บอร่อยถูกปากถูกใจ.

 

ภาพ/ข่าว นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.บึงกาฬ