- 25 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 25 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสื่อสังคมโซเชียลมีเดียมีการแชร์ต่อจากเฟซบุ๊กผู้ใช้ชื่อว่า Yuwatida Thomrongnisakron โดยใจความที่โพสต์เขียนว่า “หนูอยากเรียนต่อค่ะ เด็กคนนี้ไม่มีใบเกิดไม่สามารถจะเรียนหนังสือต่อได้ ทางโรงเรียนต้องการเลข 13 หลักของตัวเด็ก แต่ตัวเด็กไม่มีใบเกิดเพราะแม่เด็กไม่ยอมไปแจ้งเกิดให้ลูก ตอนนี้เด็กอายุ 11 ปี แล้วกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 มีหนทางที่จะพอช่วยเด็กคนนี้ได้บ้างค่ะ ตอนนี้เด็กอาศัยอยู่กับย่าที่พิการ มีแต่เด็กคนนี้ที่ช่วยดูแลย่าทุกอย่าง เด็กอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 12/2 ม. 2 ต. เนินเพิ่ม ต. นครไทย จ. พิษณุโลก เด็กมีผลการเรียนดีสอบได้ที่ 6 ของห้อง ช่วยกันแชร์ต่อหน่อยนะค่ะคิดว่าสงสารเด็ก ใครพอจะรู้หนทางที่จะช่วยเด็กได้บอกด้วยนะค่ะ ซึ่งหลังจากโพสต์ลงไปทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมแชร์ต่อไปเป็นจำนวนมากจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับนายสมเดช เพชรบูรณ์ปี้ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านเนินเพิ่ม พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีนางประเสริฐ คงหนองลาน อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ป่วยพิการอัมพาตไม่สามารถลุกเดินไปไหนมาไหนได้อยู่ภายในบ้านกับ ด.ญ.การะเกด ทิพรักษ์ หรือน้องแพน อายุ 11 ปี หลานสาว ซึ่งกำลังขึ้นเรียนในระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ของโรงเรียนชุมชน 8 ราษฎร์อุทิศพิทยา แต่ไม่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ที่ทางโรงเรียนจะต้องนำไปใช้กรอกลงในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อดำเนินการในเรื่องของเอกสารใบอนุมัติจบการศึกษา ขณะนี้ได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก เพราะสงสารหลานอยากให้ได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น
ด้าน นายเอกลักษณ์ คงหนองลาน อายุ 34 ปี พ่อเลี้ยงของน้องแพน เปิดเผยว่า น้องแพนเป็นลูกติดที่เกิดกับ นางเกดทิพ ทิพรักษ์ อายุ 28 ปี แฟนเก่า แต่ได้เลิกรากันไปนานแล้วตั้งแต่ตนไปทำงานอยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ต่อมาแม่ของเด็กได้ทิ้งไปขณะยังแบเบาะและไม่ได้เดินทางไปแจ้งเกิดเอาไว้กับทางทะเบียนราษฎร ด้วยความสงสารจึงรับเลี้ยงดูเรื่อยมาจนกลับมาทำงานอยู่ที่ จ.พิษณุโลก ปัจจุบันยึดอาชีพขายเนื้อหมูร่วมกับนางยุวธิดา ธำรงนิศากร อายุ 42 ปี แฟนสาว ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของน้องแพนเช่นกัน แต่ก็รักและดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ให้ความรักความอบอุ่นเหมือนกับลูกแท้ๆ ซึ่งทุกคนในบ้านล้วนรักเอ็นดูน้องแพนเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเด็กขยันขันแข็งชอบช่วยเหลือทำงานบ้าน คอยดูแลปรนนิบัติคุณย่าระหว่างที่พ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงออกไปขายของอีกด้วย
ที่ผ่านมาเป็นเวลาถึง 4 ปี ทางครอบครัวได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือยังหน่วยงานราชการต่างๆ พร้อมขอคำแนะนำเพื่อให้น้องแพนมีเลขบัตรประจำตัวประชาชนแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ อาทิ เดินทางไปติดต่อขอใบรับรองการเกิดจากโรงพยาบาลปากช่องนานา จ.นครราชสีมา หรือยื่นคำร้องกับงานทะเบียนราษฎร สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองปากช่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำว่าจะต้องให้บิดาหรือมารดาตัวจริงมาเซ็นเอกสาร หรือต้องมีการตรวจดีเอ็นเอ จึงจะออกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ให้ได้ตามกฎหมาย จึงได้พยายามติดต่อไปยังแม่น้องแพนที่ทราบข่าวว่าทำงานอยู่ กทม. และรับปากว่าจะมาดำเนินเรื่องให้แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ไม่มาตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับลูก เพราะมาทราบภายหลังว่านางเกดทิพ ทิพรักษ์ แม่น้องแพน ก็ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนเช่นกัน จึงต้องตัดสินใจโพสต์ขอความช่วยเหลือลงไปในสื่อโซเชียลมีเดียดังกล่าว ทั้งนี้หลังจากปรากฏว่าเป็นที่สนใจในสื่อโซเชียลมีเดีย ก็มีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก และ สำนักงานยุติธรรม จ.พิษณุโลก เตรียมลงพื้นที่พร้อมประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางช่วยเหลือน้องแพนโดยเร็วที่สุดต่อไป
กรรณิการ์ สิงหะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดพิษณุโลก