สมาพันธ์ฯกุ้งไทยทุบโต๊ะราคากลางกุ้งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งพร้อมหนุนการบริโภคในประเทศผลักดันอาหารเมนูกุ้งไปสู่จังหวัดท่องเที่ยว(ชมคลิป)

วันที่ 20 พฤษภาคม 2561 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา จังหวัดตรัง สหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจังหวัดตรัง จัดกิจกรรมประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560 และสัมมนาทางวิชาการ ครั้งที่ 2 โดยมี ดร.ชำนาญ พงษ์ศรี รองอธิบดีกรมประมง นายบัญชา สุขแก้ว ผอ.กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กรมประมง นายบรรจง นิสภวาณิชย์ นายกสมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย พร้อมสมาชิกสมาพันธ์ ,สมาคม,ชมรม,สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ร่วมประชุมเสวนากว่า 500 คน โดยมี นายวสันต์ ถนอมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายเกียรติศักดิ์ เกษมพันธุ์กุล ประมงจังหวัดตรัง นายบุญเจือ สมทิพย์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง ให้การต้อนรับ

นายบรรจง นิสภวาณฺชย์ นายกสมาพันธ์เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทย กล่าวว่าถึง แนวทางการแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำกว่า วันนี้ทางสมาพันธ์ฯ,สมาคม,ชมรม, สหกรณ์ ผู้เลี้ยงกุ้ง การผลึกกำลังกันในอันที่จะร่วมกันนำพาอุตสาหกรรมกุ้งไทยให้ผ่านพ้นวิกฤติไปให้จงได้ เนื่องจากที่ผ่านมาอุตสาหกรรมกุ้งไทยประสบปัญหาราคากุ้งตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งประสบปัญหาขาดทุน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม สมาพันธ์เกษตรเกษตรผู้เลี้ยงกุ้งไทย สมาคม,ชมรม, สหกรณ์ได้มีการประชุม มีมติขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมกุ้งไทยสู่แนวทางที่ดี เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั้งประเทศได้รับการดูแล นอกจากกรมประมง กระทรวงพาณิชย์จะมีแนวทางให้ความช่วยเหลือแล้วก็ตาม ที่ผ่านมาเราเป็นผู้ผลิตกุ้ง เป็นเกษตรกรซึ่งไม่สามารถกำหนดราคาได้เลย ผู้กำหนดราคาคือผู้ซื้อ โปรกเกอร์ เพราะฉะนั้นวันนี้ในนามสมาพันธ์ฯและผู้เลี้ยงกุ้งทั้งประเทศ ขอประกาศราคากลางบริโภคกุ้งในประเทศ เพื่อให้เกษตรกรขายกุ้งให้กับพ่อค้าแม่ค้า คือตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม ขนาดกุ้ง 100ตัวราคา 130 บาท 90 ตัว 140 บาท 80ตัว 150  บาท 70ตัว 160บาท 50 ตัว 190 บาท 40 ตัว210 บาท เป็นราคากลางสมาพันธ์ฯ โดยจะมีการประกาศ ทุกวันและในแต่ละจังหวัดให้เป็นราคาตั้ง ขอประกาศร่วมกันและขอความร่วมมือ อีกประการจะต้องสนับสนุนการบริโภคในประเทศให้มากที่สุด เปิดช่องทางตลาดต่างประเทศให้มากที่สุด ซึ่งต้องให้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยมีแนวทางแผนการมีหลายอย่าง ซึ่งได้ประสานหลายๆที่ โมเดิร์นเทรด และห้างแมคโคร ได้ตอบรับมาว่า เกษตรกรสามารถที่จะไปตั้ง มีพื้นที่ให้ขาย และอีกส่วนหนึ่งก็ได้ติดต่อกรมการค้าภายใน ที่จะส่งสินค้าไปแต่ละพื้นที่จังหวัด ที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว เป็นการสนับสนุนการบริโภคในประเทศ และที่กำลังจะทำก็คือ ไปกระทรวงการท่องเที่ยวฯเพื่อขอให้กระทรวงท่องเที่ยวฯขอความร่วมมือสมาคมโรงแรม เอาสินค้ากุ้งไปผลิตเป็นเมนูกุ้ง ก็จะทำให้กุ้งในประเทศถูกลดปริมาณการผลิตลง และจะได้ราคาตามที่อยากจะได้ ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่ง

 ด้าน นายบัญชา สุขแก้ว ผอ.กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กรมประมง กล่าวว่า ปัจจุบันถือว่าปัญหาราคากุ้งตกต่ำเป็นวิกฤตร่วม ดังนั้นสมาพันธ์ฯซึ่งเป็นองค์กรหลักในการรวมตัวกลุ่มสมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งซึ่งประกอบด้วย สมาคม,ชมรม,สหกรณ์วิสาหกิจ และกลุ่มเกษตรกร 5 ประเภทซึ่งรวมกันเป็นสมาพันธ์ฯ มีสมาชิกทั้งประเทศกว่า 1หมื่นคน ได้มาร่วมกันช่วยแก้วิกฤตกุ้ง การแก้ปัญหาย่างมีส่วนร่วมถือว่าเดินทางแนวทางที่เป็นไปได้ และขอเรียนว่า ตลอดวิกฤตเดือนเมษายน กรมประมงร่วมกับหลายภาคส่วน 1สมาคม 3 สมาพันธ์ฯ แนวทางการแก้ปัญหาระยะสั้นคือ ปัญหาเรื่องลดต้นทุน ทั้งเรื่องลูกพันธุ์ ราคา 3 สตางค์ต่อ 1 ตัว ปัจจัยการผลิตอื่นๆอาทิ ปูน จุลินทรีย์ที่ใช้เป็นปัจจัยการผลิตลดลงมาประมาณ 10% และเรื่องอาหารกุ้งที่ลดลงมากระสอบละ 25 บาท ในห้วงระยะเวลา 2 เดือน ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเพาะเลี้ยงสามารถยืนอยู่ได้ รวมทั้งสมาคมแช่เยือกแข็งไทยได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรที่จะรับซื้อราคานำตลาดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงระยะสั้น เพื่อดึงผลผลิตให้สูงขึ้น โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งสมัครมาจำนวนกว่า 5 พันกว่าตัน จำนวน 600 กว่าราย ซึ่งหมื่นตันก็น่าจะอยู่ในเป้าหมาย การที่ทางสมาพันธ์ฯออกมาประกาศถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีไม่มีวิกฤตใดที่แก้ได้โดยลำพัง เพราะฉะนั้นสมาพันธ์ฯในฐานะตัวแทนที่ประกาศบนเวทีก็ถือว่าเป็นสัญญาประชาคมหนึ่งถามว่าราคานี้เป็นราคากลางที่ใช้การจำหน่าย ณ ปากบ่อ ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ทุกส่วนได้ร่วมกัน
                                  ขณะที่ ดร.ชำนาญ พงษ์ศรี รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การที่จะต่อสู้กับตลาดต่างประเทศให้เป็นทิศทางเดียวนั้นคงไม่เหมาะสมมากนัก จะต้องพยายามขยายตลาดในประเทศให้มากขึ้น ซึ่งทางกรมประมงเองได้ทำงานรวมกับกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ พยายามเปิดตลาดช่วยกันขาย แม้แต่กรมประมงเองก็หันมาขายกุ้งกันแล้ว เริ่มจากขายกันในกรมประมง โดยเปิดให้จองกุ้ง เมื่อแนวโน้มตลาดดีขึ้นก็จะขยายตลาดสู่ภูมิภาค ถ้ายังมีผลผลิตมาก ภาครัฐก็จะสนับสนุนอย่างเต็มที่

ภาพ/ข่าว สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ตรัง