- 07 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ถ้าจะพูดถึงอาชีพกำลังมาแรงของเกษตรกรในหน้านี้ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการเลี้ยงหนูพุกขาย ที่ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 250 บาท แพงกว่าเนื้อหมูซะอีก ต้นทุนต่ำ รายได้ดี เพราะหนูนาเป็นที่นิยมบริโภค แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นายสุเทพ ท่วมพุทรา อายุ 51ปี อาจารย์ประจำวิชาเกษตร โรงเรียนเทศบาลสวรรคโลกประชาสรรค์ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ซึ่งใช้เวลาว่างช่วงเช้าก่อนไปสอนหนังสือและหลังกลับจากโรงเรียน เพาะเลี้ยงหนูพุก หนูนา เป็นอาชีพเสริม
อาจารย์สุเทพ เล่าให้ฟังว่าได้เริ่มหันเพาะเลี้ยงหนูพุก และหนูนา เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมาเนื่องจากสนใจทดลองเลี้ยงหนูพุก หนูนา และตลาดยังคงมีความต้องการเนื่องจากมีความต้องการบริโภคมากขึ้น และหนูตามธรรมชาติก็มีปริมาณลดลง สำหรับการเพาะเลี้ยงหนูนานั้นส่วนหนึ่งเนื่องจากการขยายพันธุ์ได้เร็ว ปีหนึ่งสามารถขยายพันธุ์ได้ปีหนึ่งถึง4คลอก คลอกหนึ่งประมาณ 8-12 ตัว เลี้ยงให้กินอาหารที่มีอยู่ตามธรรมาชาติและให้อาหารเพียงวันละหนึ่งครั้งเช่นข้าวโพด ข้าวเปลือก หญ้าขนหรือหญ้าเนียเปียร์ และเสริมด้วยอาหารหมูเพื่อเพิ่มโปรตีน ปัจจุบันผลตอบรับของตลาดถือว่าดีจำหน่ายได้ต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะจำหน่ายเป็นพ่อ แม่พันธุ์ ส่วนหนูตกเกรดไม่ได้คุณภาพก็จะจำหน่ายเป็นหนูเนื้อ ในราคาหนูสดที่ชำแหละแล้วในราคากิโลละ 250 บาท ส่วนที่ย่างแล้วจะขายกิโลละ 300 บาท สำหรับพ่อ แม่พันธุ์ที่พร้อมผสมพันธุ์จะจำหน่ายในราคาคู่ละ 600 บาท
สำหรับการเพาะเลี้ยงหนูนั้นจะเพาะเลี้ยงในวงบ่อซีเมนซ์ 2 วงมาวางคู่กันจากนั้นจะเจาะวงด้านล่างและใส่ท่อเชื่อมกัน โดยจะปล่อยพ่อพันธุ์ 1ตัว ตัวเมีย 3 ตัว จากนั้นประมาณ 21 วันหนูก็จะเริ่มตั้งท้อง เมื่อแม่พันธุ์ตั้งท้องก็จะแยกออกไปอยู่วงบ่อเดียวเพื่อรอคลอด เมื่อหนูคลอดแล้วประมาณ1 เดือน ก็จะแยกลูกหนูที่ได้มาเลี้ยงอนุบาลต่อที่บ่อเลี้ยง ซึ่งส่วนตัวคิดว่าถ้าอนาคตตลาดเปิดกว้างก็จะขยายพื้นที่สำหรับเพาะเลี้ยงหนู สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามได้ในเฟสบุ๊คชื่อสุเทพ ท่วมพุทรา หรือโทรสอบถามได้ที่หมายเลข 089-5686778
ศรีสุดา ชัยวงศ์ศรีอรุณ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสุโขทัย