แม่ปริ่มจะขาดใจ!! ลูกชายพูดเป็นลางอยากฆ่าตัวตาย เหตุน้อยใจพ่อแม่ไม่รัก ไม่ห่วงใย พูดคำว่าแม่เป็นคำสุดท้าย ก่อนตัดสินใจยิงตัวตาย (คลิป)

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 มิ.ย.61 พ.ต.ต.โอภาส ไชยบุญ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 7 หมู่ 5 บ้านหนองหว้า ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง ภายหลังจากรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับขั้น แล้วเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ตำรวจสายตรวจชุมชน กำลังตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ศูนย์ตรัง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง

ถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ หลังคามุงกระเบื้อง มีชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่รอบตัวบ้าน พร้อมมีเสียงร้องไห้ดังอยู่อย่างไม่ขาดสาย ขึ้นไปบริเวณห้องนอนชั้น 2 พบร่างของนายชัยวิทย์ หรือคิม คงแก้ว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 5 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว สภาพนอนหงายหน้า อยู่บนเบาะรองนอน บริเวณขมับด้านขวามีบาดแผลโดนยิงด้วยกระสุนลูกซอง ทำให้กะโหลกศีรษะเปิด เศษสมองปนด้วยเลือดกระเด็นติดอยู่ทั่วทั้งห้องนอน ใกล้กันพบอาวุธปืนลูกซองพกสั้น ไทยประดิษฐ์ ตกอยู่จำนวน 1 กระบอก ภายในมีปลอกกระสุนชนิดลูกซอง 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

จากการสอบสวน นางประจิม คงแก้ว อายุ 55 ปี มารดาผู้เสียชีวิต มีอาการร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่กันทั้งหมด 3 คน ซึ่งมีตนเอง สามี และลูกชาย (ผู้ตาย) ก่อนเกิดเหตุ ประมาณ 2 วัน ที่ผ่านมา ลูกชายได้บ่นกับตนเองในทำนองตัดพ้อชีวิตว่าพ่อแม่ไม่รัก ไม่เอาใจใส่ และไม่สนใจ อยากจะตายเต็มทีแล้ว จนเกิดมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อนิดหน่อย แต่ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่รักลูก จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (25 มิ.ย.61) ลูกชายได้บอกว่าจะไปนอนบ้านของตา ซึ่งเป็นพ่อของตนเอง ที่อยู่ห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร และได้บอกกับผู้เป็นตาว่าพรุ่งนี้ช่วยมารับศพด้วย กระทั่งก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ขับรถจักรยานยนต์กลับมาถึงบ้าน ขณะที่ตนเองกำลังล้างถ้วย ชาม อยู่ข้างบ้าน ลูกชายก็ได้เรียกตัวเองว่าแม่ 1 ครั้ง แล้วก็ขึ้นไปในห้องนอนบนบ้าน เวลาไม่เกิน 3 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นขึ้น 1 นัด จึงรีบวิ่งขึ้นไปดู ปรากฏว่าลูกชายได้คิดสั้นจบชีวิตลงแล้ว   

 

อย่างไรก็ตาม คนในพื้นที่รวมทั้งพื้นที่รอบนอกต่างก็รู้จักผู้ตายเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่อยู่ทีมเดียวกับวัยรุ่นขาใหญ่ใน จ.ตรัง และชอบขับรถเที่ยวเตร่ประจำ อีกทั้งเป็นคนอารมณ์ค่อนข้างร้อนจะทำอะไรก็ตัดสินใจทำเลยทันที หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการชันสูจน์พลิกศพในที่เกิดเหตุแล้วไม่พบร่องรอยของการต่อสู้หรือขัดขืนใดๆ อีกทั่งทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิต จึงได้มอบร่างให้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.

ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดตรัง