- 01 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม โรงแรมแกลเลอรี่ ดีไซน์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย และ นางจีรนันท์ วงษ์มงคล ที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้นำคณะผู้แทนกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือล่าง 2 ประกอบด้วย จังหวัดศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, ยโสธร, อำนาจเจริญ ประชุมร่วมกับคณะผู้แทนจากประเทศกัมพูชา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางการค้า การลงทุนของกลุ่มจังหวัดเชื่อมโยนประเทศในกลุ่มอาเซียน และพัฒนาความร่วมมือทางการท่องเที่ยว ระหว่างประเทศไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา จากนั้น หลังจากเสร็จการประชุมร่วมกันแล้ว คณะหอการค้าไทยได้เดินทางไปที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเปิดป้ายโครงการนำร่อง “1 หอการค้า 1 ศูนย์เรียนรู้” แห่งแรกของไทยที่จังหวัดศรีสะเกษ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความเจริญก้าวหน้าด้านการเกษตร เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งได้ปลูกต้นไม้พะยูงร่วมกันด้วย โดยมีนายวิทยา วิรารัตน์ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ และคณะให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการประชุมร่วมกันในครั้งนี้
นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เป็นการสานต่อข้อตกลงความร่วมมือด้านการค้าที่เคยตกลงกันไว้และเป็นการเจรจาธุรกิจด้านต่างๆกับผู้ประกอบการของไทย เพื่อส่งเสริมให้มูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งทางด้านกัมพูชาก็ได้ขอให้นักลงทุนไทยได้เข้าไปลงทุน สร้างโรงงานการผลิตในประเทศกัมพูชาบ้าง ไม่ใช่ให้แต่ประเทศจีนเข้าไปลงทุน สร้างโรงงานฐานการผลิต เนื่องจากอย่างให้คนไทยซึ่งถือเป็นพี่น้องเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันควรที่จะเข้าไปลงทุนมากกว่าประเทศที่อยู่ไกล และขณะนี้สัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับกัมพูชาดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ หอการค้าไทยจึงได้มีการเสนอขอให้รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้พิจารณาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปเที่ยวชมความสวยงามของปราสาทเขาพระวิหารทางด้านฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชาได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ช่วงนี้ไทย – กัมพูชามีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมามีการเปิดปราสาทพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมได้ ปรากฏว่าได้มีนักท่องเที่ยวพากันมาขึ้นไปชมปราสาทพระวิหารโดยผ่านทางจังหวัดศรีสะเกษ เป็นจำนวนมาก และขณะนี้ปราสาทพระวิหารได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศควรที่จะเปิดปราสาทพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมได้ เพราะจะเกิดประโยชน์ทางด้านการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ ทางหอการค้าไทยจะได้มีการเสนอไปยังรัฐบาลไทยเพื่อขอให้ประสานงานกับทางฝ่ายรัฐบาลของกัมพูชาต่อไป
ชยงค์ มณีพันธุ์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ศรีสะเกษ