เปิดภาพนาทีชีวิต แม่เฒ่าซิ่งเก๋งชนประสานงารถกระบะกลางเมือง พร้อมเปิดใจผู้ได้รับบาดเจ็บถูกท้าให้ไปฟ้องร้องเอง

จากกรณีเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า   แก้มบุ๋ม แร้วงัยอ่ะ  ได้โพสต์ข้อความว่า รถทำเงิน 3วัน4000บาท มาพังเพราะความประมาทของคุณคนเดียว เเถม ยังต้องมาเจ็บตัวเพราะความประมาทของคุณเช่นกัน # แม้แต่คำขอโทษก็ไม่มีเเถมยังมาพูดอีกว่าถ้าอยากได้ค่าทำขวัญค่าชดเชยค่าสินไหมก็ไปฟ้องเอาเดียวมันจะหาทนายคอยไว้สู้คดี นี้หรือเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากผู้เป็นอาจารย์ที่เกษียณอายุแล้ว

 

 

วันนี้ นายอวิรุทธิ์ จินาสาย อายุ 36 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะพร้อมด้วย นางสาวขนิษฐา มูลประหัส อายุ 27 ปีสองสามีภรรยา และนางสุภาพร  จินาสาย อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ของนายอวิรุทธิ์  ทั้งหมดประกอบอาชีพเปิดแผงขายส่งผลไม้ในตลาดโพธิ์หวาย เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี  ได้นำคลิปภาพการเกิดอุบัติเหตุถูกเก๋งชนประสานงาจนรถพังและภรรยาเจ็บพร้อมเปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงการโพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊คเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจที่ถูกคู่กรณีเป็นฝ่ายผิดและไม่ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น แถมยังท้าทายว่าถ้ายากได้เงินค่าสินไหมการดูแลผู้บาดเจ็บก็ให้ไปฟ้องร้องเอา 

 

 

โดยนายอวิรุทย์ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุตนขับรถมาจากสี่แยกการุณมุ่งหน้าไปสามแยกหนองบัวขณะรถกำลังจะหน้าร้านไก่ทอดชื่อดังจู่ๆรถคู่กรณีขับรถแซงรถคันหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเลนของตน ตนตกใจจึงได้ชะลอรถและเยียบเบรค  แต่รถคู่กรณีพุ่งออกมาด้วยความเร็วและชนประสานงากับรถของตนเข้าอย่างจัง จนภรรยาตนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ซึ่งในตอนแรกตนก็มีอารมณ์เพราะพังเสียหายมากเมื่อเห็นว่าเป็นผู้สูงอายุเป็นผู้ขับขี่ และทราบภายหลังว่า อายุ 74 ปี จึงไม่ได้ต่อว่าอะไรมากนัก เพียงคาถามว่าทำไมป้าจึงขับรถแบบนี้   แต่หลังเกิดเหตุแล้วป้าอยู่ในอาการตกใจและคุยไม่รู้เรื่อง   ต่อมาทางตำรวจได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและลงบันทึกประจำวันว่าคู่กรณีเป็นฝ่ายผิดขับรถโดยประมาทขับรถมาชนรถตนเอง  ซึ่งทุกอย่างก็ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยโดยทางประกันของคู่กรณีเป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมรถให้  ซึ่งหลังจากจบการเจรจาแล้ว ขณะที่ออกจากห้องพนักงานสอบสวนคู่กรณีได้พูดถึงเรื่องการดูแลผู้บาดเจ็บว่าหากยากได้ค่าทำขวัญหรือค่าสินไหมก็ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง  ซึ่งทีแรกทางฝ่ายตนติดใจอะไรเพียงแต่อยากได้ยินคำขอโทษจากคู่กรณี ซึ่งคู่กรณีเป็นฝ่ายผิดแต่คำขอโทษกลับไม่มีแถมยังถ้าทายยากได้เงินก็ให้ไปฟ้องร้องเอา หรือเห็นว่าร่างกายของตนเต็มไปด้วยรอยสักอาจจะมองว่าไม่มีความรู้ไม่มีอะไร มองว่าเราเป็นคนชั้นต่ำ ก็เป็นไปได้ จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้องสำหรับผู้มีความรู้ จึงโพสต์ข้อความขึ้นในเฟสเพื่อให้สังคมได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนภรรยาที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกอัดกับคอนโซนหน้ารถ วันนี้แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว แต่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังอาการเจ็บที่ดวงตา และริมฝีปากยังกินข้าวไม่ได้

 

 

ด้านนางสุภาพร  จินาสาย อายุ 52 ปี แม่ของนายอวิรุทธิ์ ได้บอกว่าทีแรกก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ ยากจะฝากบอกไปถึงลูกๆหลานๆของคู่กรณีให้ดูแลกันหน่อยอย่าปล่อยให้คนอายุ 74 ปีมาขับรถบนถนน อุบัติเหตุครั้งถือว่าโชคดีที่เป็นรถกระบะ หากเป็นรถบรรทุกคู่กรณีถึงตายได้  เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วยากได้ยันคำขอโทษจากคู่กรณี แต่คำที่ได้ยินกับเป็นคำท้าทายให้ไปฟ้องร้องเอาเองจึงคิดว่าต่อไปนี้จะให้ทนายความดำเนินการต่อไป

 

 

ภาพข่าว   ณัฐธิดา  เริ่มฤกษ์  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุราษฎร์ธานี