- 04 เม.ย. 2562
ตำรวจเรียกตัวอาสาตร.และพยานสอบปากคำ ยืนยันว่า หนุ่มรับจ้างขับรถบรรทุก บาดแผลเกิดจากคู่กรณี ใช้ขวดทุบหัวแล้วถูกเศษแก้วบาด ไม่ใช่ถูกไม้กระบองฟาด
วันที่ 4 เมษายน 62เวลา11.00 น. ที่สภ.เมืองอุดรธานี ฝ่ายงานป้องกันและปราบปราม 191 พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รองผกก.ป. เรียกตัวอาสาตำรวจและพยาน ที่อยู่ในเหตุเกิดการณ์ จากกรณี ที่นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา อายุ28ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่10 ตำบลเขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี อาชีพรับจ้างขับรถบรรทุก พร้อมภรรยา คือน.ส.สุปราณี นิจพจน์ อายุ 37ปี อยู่บ้านเลขที่181 /1 หมู่2 บ้านม่วง ตำบลหมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี เข้าแจ้งความว่า ถูก อส.ตร. เข้าไประงับเหตุการณ์ ขณะที่ตนเองชกต่อยกับแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ เหตุเกิด ที่หน้าเวทีหมอลำ วัดโปร่งราษฎรบูรณะ หรือวัดบ้านม่วง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ในระหว่าง คืนวันที่1 เมษายน 62 ที่ผ่านมา ช่วงเวลา เวลา 00.30 น. ใกล้งานจะเลิก แล้วถูกอาสาตำรวจ ได้ ใช้ไม้กระบองฟาดสลบ
โดยได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจหัวหน้าเขตงานธรรมศักดิ์, เขตงานบ้านเลื่อม ,เขตงานสินชัย ที่ให้ อาสาตำรวจ ไปดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้ง3 เขตงาน ในคืนวันนั้น มาชี้แจง พร้อมกับ อาสาตำรวจ ของเขตงานธรรมศักดิ์ ที่เป็นผู้ไปควบคุมตัว นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา ขึ้นรถบรรทุก6 ล้อ ตราโล่ ของ สภ.เมืองอุดรธานี และอยู่ในเหตุการณ์ ด้วย จำนวน4 คน ประกอบด้วย นาย ธีระศักดิ์ บุญยืน อายุ23ปี อยู่บ้านเลขที่57 หมู่15 ตำบลหนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรฯ ,นายธวัชชัย หินอ่อน อายุ20ปี อยู่บ้านเลขที่179 หมู่5 ตำบลสะแบง อ.หนองหาน จ.อุดรฯ ,นายอภิชัยสิทธิ์ ทองคำ อายุ24ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่8 ตำบลกุมภาปี อ.กุมภวาปี จ.อุดรฯ และ น.ส. วารินี ขันธรรม อายุ25ปี ราษฎร ตำบลทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรฯ เพื่อให้ปากคำ โดยทั้งหมดยืนยันว่า เข้าไปควบคุมตัว นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา ขึ้นรถ ยืนยันไม่ได้ใช้ไม้กระบองฟาดหรือทำร้ายร่างกายเลย
นายธวัชชัย หินอ่อน และ นายอภิชัยสิทธิ์ ทองคำ ได้ให้การว่า ก่อนที่จะเข้าไปควบคุม เห็นชายใส่เสื้อขาวทะเลาะชกต่อยกับนายอนุสรณ์ หล่อนจำปา จึงได้เข้าไประงับเหตุ ด้วยการจับคอเสื้อเท่านั้น แยกทั้งสองคน ออกจากกัน แล้วนำทั้งคู่ไปขึ้นรถบรรทุก6 ล้อ ตราโล่ โดยไม่ได้มีการใช้ไม้กระบองตีใครเลย ซึ่งนายอนุสรณ์ หล่อนจำปา ก็ยังมีการชกหน้าอาสาตำรวจด้วย แล้วถึงนำตัวไปส่งที่โรงพัก ในตอนแรกทั้งสองฝ่าย คือ นายนายอนุสรณ์ หล่อนจำปา กับชายใส่เสื้อขาว ไม่ติดใจเอาเรื่องกัน จึงได้มีการปล่อยไปกลับทั้งคู่ ไม่มีการดำเนินคดีกับใคร แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไม นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา ถึงมาแจ้งความว่า อาสาตำรวจ ใช้ไม้กระบอง ทำร้ายร่างกายเขา จนได้รับบาดเจ็บ
ส่วน น.ส. วารินี ขันธรรม อาสาตำรวจ. ที่เห็นเหตุการณ์ ได้บอกว่า ชายใส่เสื้อสีเขียวคือ นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา ได้ไปกระโดดถีบ ชายใส่เสื้อขาวก่อน แล้วชายใส่เสื้อขาว ได้เอาขวดฟาดหัว นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา จนทำให้เศษแก้วไปบาดที่แก้มของเขา จนเลือดไหลออกมา ส่วนบาดแผลที่แขน อาจจะเกิด ช่วงชุลมุน แล้วเขาล้มเอง
นอกจากนี้ตำรวจ ได้ทำการปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์คือ วัยรุ่น อายุ17ปี และ ด.ช. 12 ปี ที่ไปเที่ยวงานบุญดูหมอลำ ในคืนนั้น ทั้งสองคน ได้ให้การว่า ชายใส่เสื้อเขียว คือ นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา ไปก่อเหตุเริ่มก่อน ได้ไปกระโดดถีบ ชายใส่เสื้อ ขาว แล้วคนที่โดนเขาถีบ ได้เอาขวดไปฟาดหัว ชายใส่เสื้อเขียวคือ นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา ก่อนที่อาสาตำรวจ เข้าไประงับเหตุ ทำการควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุทั้งสองคน ขึ้น รถบรรทุก6 ล้อ ตราโล่
ส่วน นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา พร้อมภรรยา ได้เดินทางมาพบตำรวจ แต่ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่า บาดแผลที่แก้มด้านขวา ถูกอาสาตำรวจ เป็นผู้กระทำให้ได้รับบาดเจ็บ ด้วยไม้กระบอง โดยในตอนนี้ ต้องไปปรึกษากับญาติเสียก่อน เกี่ยวกับเรื่องการเยียวยาพร้อมกับค่ารักษาพยาบาล ว่าจำนวนเท่าไร ส่วนชายใส่เสื้อขาวตนก็อยากให้ตำรวจ ติดตามมาดำเนินคดีให้ด้วย
พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ในตอนนี้ ได้มีการสอบปากคำ อาสาตำรวจ ทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าข้อมูลเป็นเช่นไร รวมถึงพยานหรือคนที่ไปเที่ยวในคืนนั้น เพราะ ก่อนหน้านี้นายอนุสรณ์ หล่อนจำปา ได้มาแจ้งความว่าถูกอาสาตำรวจ ทำร้ายรางกาย โดยเบื้องต้นข้อมูลบางอย่างขัดแย้งกัน ส่วนชายใส่เสื้อขาว ตำรวจทราบตัวแล้ว เป็นใคร ที่เป็นคู่กรณีกับนายอนุสรณ์ หล่อนจำปา อยู่ระหว่างติดตัว เพื่อมาสอบปากคำ รวมถึงรอผลตรวจยืนยันจากแพทย์ ในเรื่อง บาดแผล ที่แก้มด้านขวา ของนายอนุสรณ์ หล่อนจำปา ว่าเกิดจาก ถูกไม้กระบองฟาด หรือ ถูกเศษแก้วของมีคม ทำให้เกิดแผลขึ้นมา เพราะเรื่องนี้ต้องทำให้กระจ่าง เนื่องจากสังคมให้ความสนใน คดีนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ในการดำเนินการต่อไป
นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ภูมิภาคสำนักข่าว ทีนิวส์