หนุ่มใหญ่ดับปริศนาใกล้กระท่อมนา ผิดสังเกตตามลำตัวมีรอยเขียวช้ำและรอยเล็บ

วันที่ 5 เมษายน  62  เวลา 08.30 น. ร.ต.อ.สุพัตร บุญเรือง รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี   ได้รับแจ้งว่า มีคนเสียชีวิต อยู่ที่บริเวณกระท่อมนา ท้ายหมู่บ้านหนองนาคำ หมู่1 ตำบลหนองนาคำ  ห่างหมู่บ้านไป 2กิโลเมตร จากนั้นพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ,แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต โดยญาติได้นำมาไว้บนแคร่ไม้หน้ากระท่อมนา ทราบชื่อนายอุทร  มาตะยา อายุ56ปี อยู่บ้านเลขที่421 หมู่1 ตำบลหนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี  โดยลูกสาวคือ  น.ส.อุบล  มาตะยา  อายุ32ปี ได้พาตำรวจไปชี้จุดที่พ่อนอนตะแคงเสียชีวิต อยู่ที่พื้นดิน ห่างจากกระท่อมนาไป 50 เมตร โดยมีเพื่อนบ้านได้โทรมาบอกว่าเห็นพ่อนอนอยู่ที่พื้น ไม่ไหวเคลื่อนไหว หรือขยับตัว จึงได้ออกมาดูพบว่า พ่อเสียชีวิตแล้ว จึงได้นำร่างของพ่อไว้บนแคร่ ก่อนโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

 

 

 

 

 

 

นางประไพ  มูลสาร  อายุ60ปี  เพื่อนบ้าน ให้การว่า เมื่อเช้าตนเผาขยะ อยู่ในบริเวณบ้าน เห็นผู้ตายนอนอยู่ที่พื้นดิน จึงได้ตะโกนร้องเรียกอยู่นาน แต่ก็ไม่ลุกขึ้นมาหรือขยับตัว ตนจึงได้โทรหาญาติผู้ตาย ให้ออกมาดู ในตอนแรกตนคิดว่า ผู้ตาย อาจจะเวียนศีรษะแล้ว หน้ามืดทำให้ล้มลง  ซึ่งตนก็ไม่ได้เดินไปดู  ปล่อยให้ญาติของเขามาดูกันเอง  ถึงมาทราบภายหลังว่า ได้เสียชีวิตแล้ว เพราะปกติจะเห็นผู้ตาย จะนำควายมาเลี้ยงและนอนอยู่ที่กระท่อมนาเป็นประจำทุกวัน เมื่อวานนี้ผู้ตายได้บ่นว่าปวดศีรษะและปวดตามเนื้อตามตัว มาได้2-3 วัน เหมือนว่าตนเองจะไม่สบาย ซึ่งผู้ตายจะนอนที่กระท่อมนาเพียงลำพังคนเดียวเท่านั้น

 

 

 

 

 

 

น.ส.อุบล  มาตะยา  ลูกสาวของผู้ตาย  ให้การว่า โดยทุกวันพ่อจะมากระท่อนนานำควายมาเลี้ยง เมื่อวานนี้พ่อได้ออกจากบ้าน เวลา20.00 น. บอกว่ามานอนที่กระท่อมนา จนกระทั้งเพื่อนบ้านได้โทรมาบอกให้ตนออกมาดูพ่อ เพราะเห็นพ่อนอนอยู่ที่พื้นดิน จึงได้พากันรีบออกมา  ในตอนแรกคิดว่าพ่ออาจเป็นลม แต่ปรากฏว่าพ่อได้เสียชีวิตแล้ว ปกติแล้วพ่อร่างกายแข็งไม่มีโรคประจำตัว เนื่องจากพ่อไม่เคยไปตรวจสุขภาพเลยทำให้ไม่ทราบว่าจะมีโรคประจำตัวหรือไม่  

แพทย์ร่วมกับตำรวจได้ชันสูตรพลิกศพ ผู้ตายเสียชีวิตมาได้ประมาณ 3-5 ชั่วโมง แต่ผิดสังเกต เนื่องจากตามใบหน้า ลำคอ หน้าอก แขนทั้งสองข้าง มีรอยเขียวช้ำ และรอยเล็บด้วย จึงให้มูลนิธิฯ นำศพผู้เสียชีวิต เอาไปไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ เพื่อจะทำการชันสูตรศพ อย่างละเอียดเพื่อ หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ต่อไป

นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ภูมิภาค สำนักข่าว ทีนิวส์