มอบตัวแล้วผัวขี้เมาทำร้ายเมียต่อหน้าแม่ยาย เพราะความหึงหวง ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณีที่มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่(17เม.ย.62) ที่ผ่านมาเวลาทุ่มเศษ ที่บ้านนางลัดดา หมู่บ้านไม้ล่าว หมู่17 ต.เมืองหงส์ อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยนางลัดดา พรมสุบรรณ เหยื่อความรุนแรง ซึ่งคลอดลูกได้ 25  วัน โดนสามีทำร้ายร่างกาย  จนต้องเข้าโรงพยาบาล  เย็บคิ้วไป 3 เข็ม และตามลำตัวมีรอยพกช้ำ ซึ่งถูกผัวขี้เมากระทืบ เตะ ต่อย จับหัวโขกพื้นปูน ต่อหน้าแม่ ที่แก่ชราวัย 70 ปี โดยแม่ได้เอาไม้กวาดตี และห้ามปราม แต่ไม่ฟัง เพราะฤทธิ์ของเหล้า ซึ่งหากลูกน้อยไม่ร้องหิวนม นางลัดดา คงถูกผัวขี้เมากระทืบจมบาทาแน่

ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน  62  นางบุญเลิง อาสาศรี  อายุ 70 ปี  มารดาของ ผู้ถูกทำร้ายร่างกาย ก็ได้เข้าแจ้งควา ร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีกับสามีคือ นายพรหมนิมิต หรือน้อย ปาสานะตา อายุ 36 ปี ที่ทำร้ายร่างกายภรรยาหรือลูกสาวของตน คือนางลัดดา  พรมสุวรรณ อายุ 30 ปีได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังจากรับแจ้งเหตุร้อยตำรวจเอกนิวัติ เสียงสาย พนักงานสอบสวนก็ได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงยังที่เกิดเหตุ โดยพบว่าผู้ก่อเหตุได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป คาดว่าเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดที่อำเภอวาปีปทุมจังหวัดมหาสารคาม จึงได้ประสานกับตำรวจท้องที่ให้ช่วยติดตามควบคุมตัวผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดี สำหรับผิดที่เกิดขึ้นจากการสอบสวนทราบว่า ไม่ได้เป็นเหตุฉกรรจ์ ซึ่งการทำร้ายร่างกายภรรยาได้รับบาดเจ็บ ที่หางคิ้วมีเลือดออกมาก แต่เย็บแค่ 3 เข็มเท่านั้น และในวันเกิดเหตุ ก็ทำร้ายแต่เพียงภรรยา ไม่มีคนอื่นได้รับบาดเจ็บด้วยเนื่องจากลูกและแม่ยายอยู่คนละห้อง ซึ่งแม่ยายได้เข้ามาห้าม แต่ก็ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแม่ยายแต่อย่างใด

 

 

 

 

ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุทำร้ายร่างกายและทะเลาะวิวาทดังกล่าว ขณะเกิดเหตุจากการสอบสวนทราบว่าผู้เป็นสามีดื่มสุรากับเพื่อนในวันสงกรานต์มีอาการเมามายแล้วเกิดความหึงหวงจึงได้ต่อว่าต่อขานภรรยา เกรงว่าภรรยาจะปันใจให้ชายอื่น เนื่องจากตนเองและภรรยาต่างก็มีครอบครัวมาก่อนแล้วและเลิกรากันไป หลังจากคบหากันก็เกรงว่าฝ่ายหญิงจะเปลี่ยนใจ ไปชอบคนอื่น จึงเกิดเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นดังกล่าว

   
และเมื่อวานนี้ (19 เม.ย.62)  ร้อยตำรวจเอกนิวัติ  เสียงสาย พนักงานสอบสวน เจ้าของคดีก็ได้รับแจ้งจาก นายชาติชาย  ปาสานะโก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านนาเลาตำบลหนองไฮอำเภอวาปีปทุม  จ.หาสารคาม  จากกรณีนายพรหมนิมิต ปาสานะตา  หรือนายน้อย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายภรรยา  ซึ่งหลังจากทำร้ายร่างกายภรรยาก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้านของตนเองที่บ้านนาเลา และขณะนี้ ได้ขอให้ตนช่วยแจ้งกับทาง สภ.จตุรพักตรพิมานว่าจะขอมอบตัวสู้คดีในสิ่งที่เกิดขึ้น  สภ.จตุรพักตรพิมาน  จึงได้เดินทางไปรับตัวนายน้อย ผู้ต้องหาที่ บ้านนาเลา มาดำเนินคดี

    
ทางด้าน พันตำรวจเอก ณัฎฐชัย   พูดหล้า ผู้กำกับการ  สภ. จตุรพักตรพิมาน  กล่าวว่า   ตอนนี้ทางผู้ต้องหาก็ได้มอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ในทางการสืบสวนสอบสวนได้แจ้งมาว่าก่อนการเกิดเหตุทำร้ายร่างกายภรรยา ผู้ต้องหาได้เสพยาบ้าเข้าไปด้วย ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการมึนเมา จนมีอาการที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจปัสสาวะ และปรากฏเป็นสารสีม่วง ทางตำรวจจึงส่งผลตรวจไปที่โรงพยาบาลซึ่งอยู่ในระหว่างการรอผลตรวจยืนยัน ซึ่งตอนนี้ได้เเจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหารับทราบ  3 ข้อหาคือ 1 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น อันเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายทางกายและจิตใจ    2 ข้อหา ผิด พรบ.การกระทำความรุนแรงในครอบครัว   3 ข้อหามีสารเสพติดในร่างกายด้วยอีกส่วนหนึ่ง    ทางการสืบส่วนสอบส่วนก็กำลังรอผลการยืนยันสารเสพติดอยู่ ขณะนี้ได้ทำการฝากขังไว้ที่  สภ.จตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงทำการดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

 

 

โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และบ้านพักเด็กได้เข้าไปให้คำปรึกษาที่จะช่วยเหลือเบื้องต้นในเรื่องการศึกษาของลูกของนางลัดดา  ซึ่งมีอยู่กัน 3 คน (2 คนเป็นลูกแฟนเก่า) มีอยู่ในวัยเรียน 2 คน ถ้าเกิดไม่พร้อมในเรื่องของการส่งเสริมในเรื่องของการเรียนหนังสือ  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และบ้านพักเด็ก  ก็จะช่วยเหลือนำเด็กทั้งสองคนที่อยู่ในวัยเรียนไปเรียนที่โรงเรียนสงเคราะห์ธวัชบุรี  อำเภอธวัชบุรี  จังหวัดร้อยเอ็ด แต่ในส่วนนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนางลัดดา  ด้านในเรื่องของการดูแลนางลัดดา ก็คงจะเป็นในเรื่องการกระทำความรุนแรงในครอบครัว  ส่วนเรื่องของการดำเนินคดีคงต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ โดยนางลัดดา ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะได้ทำกับตนแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และครั้ง นี้ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย และจะไม่ยอม ถึงแม้จะมีการมาขอขมาแม่ ตนก็ขอยืนยันว่าจะไม่ขอร่วมเป็นครอบครัวอีกต่อไป

 

 

 

ภาพ/ข่าว น.ส.โชติกา  ทวนชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ร้อยเอ็ด