- 25 เม.ย. 2562
สะเทือนใจสังคม เฒ่าใจบุญขืนใจเด็กยกครัว พ่อหวั่นกระทบสภาพจิตใจ ไม่ออกห้อง พมจ.ยันฟื้นฟู ผบก.เข้มคดี
จากกรณีนางหญิง นามสมมุติ อายุ 52 ปี บ้านอยู่ตำบลบางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ร้องเรียนผู้สื่อข่าว ลูกสาวอายุ 14 ปี กับหลานชายอายุ 9 ปี และหลานสาวอีก 2 คน อายุ 7 ขวบ อายุ 5 ขวบ ถูกนายสุรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี นายจ้างเจ้าของสวนยางพาราข่มขืนมานานต่อเนื่องหลายครั้ง จนเรื่องมาแดงขึ้นผู้ปกครองได้ไปแจ้งความที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน และจับกุมนายสุรินทร์มาดำเนินคดีและได้รับการประกันตัวในชั้นศาลจังหวัดหลังสวน และออกมาคุกคามข่มขู่จนครอบครัวต้องอยู่กันอย่างหวาดผวาตามข่าวที่เสนอนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 เมษายน 62 นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร ได้สั่งการให้ นางสาววัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.)จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องในท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่บ้านไม่มีเลขที่ในสวนมะพร้าว ตำบลบางมะพร้าว อ.หลังสวน พบกับนางหญิง นามสมมุติ อายุ 52 ปี พร้อมกับหลานชายวัย 9 ขวบ และหลานสาวอายุ 7 ขวบกับ 5 ขวบ ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศส่วน เด็กหญิงสวย นามสมมุติ อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนางหญิงที่ถูกข่มขื่นด้วย ไม่ยอมออกมาพบกับเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูห้องและเขียนข้อความในกระดาษติดไว้ที่ประตูห้องว่า “กูขอร้องอย่าเรียกกูได้ไหม อย่าเคาะอย่าเรียกกู อย่าผลัก ไม่ต้องถามอะไรมาก กูรำคาญ ดูอารมณ์กูด้วย แหกตาดู” ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เคารพสิทธิ์ไม่เรียกออกมาพูดคุยด้วยแต่อย่างใด
ขณะที่เด็กชายวัย 10 ขวบ ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศกล่าวถึงเหตุการณ์ว่าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ก.พ.62 ตนถูกนายสุรินทร์ชักชวนให้ไปกินขนมที่ขนำในสวนยางพาราจากนั้นได้บังคับจับตนถอดกางเกงแล้วจับมือมือไพล่หลังกดคว่ำหน้าใช้อวัยวะเพศสอดใส่ในช่องทวารหนักตนร้องไห้ก็ถูกมืออุดปาก กระทั่งตอนเที่ยงจึงปล่อยตนกลับบ้านแล้วบังคับไม่ให้ไปบอกใครไม่เช่นนั้นจะฆ่าตากับยายที่ตนอยู่อาศัยด้วยให้ตาย ต่อมายังถูกนายสุรินทร์พาไปข่มขืนทางทวารหนักอีก 3-4 ครั้ง จนกระทั่งมาวันที่ 22 มีนาคม 62 ตนเดินกลับบ้านในลักษณะขาถ่างทำให้ยายและตาสงสัยจึงได้คาดขั้นสอบถามจึงบอกความจริงให้รู้และไปแจ้งความกับตำรวจ ขณะที่เด็กหญิงอายุ 7 ขวบ และ 5 ขวบ ก็บอกในลักษณะเดียวกันว่าถูกนายสุรินทร์พาไปล่วงละเมิดทางเพศในขนำในสวนยางพาราหลายครั้งเช่นกัน
นางสาววัลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร กล่าวว่าได้มาพบและพูดคุยเรื่องกับนางหญิงผู้เสียหายที่ลูกสาววัย 14 ปีถูกข่มขืน และแม่ของเด็กชายอายุ 9 ขวบ กับเด็กหญิง อายุ 7 ขวบ อีกและ 5 ขวบ คนในครอบครัวเดียวกันที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพื่อมาให้การช่วยเหลือ ซึ่งพบว่าสภาพบ้านค่อนข้างแออันมีฐานะยากจน และมีโอกาสที่จะถูกกระทำซ้ำเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นคนในพื้นที่ ช่วงแรกผู้ปกครองไม่ยินยอมแต่หลังจากพูดคุยทำความเข้าใจก็ยินยอมด้วยดี โดยจะให้เด็กชายอายุ 9 ขวบ เด็กหญิง อายุ 7 ขวบ อีกและ 5 ขวบ ย้ายไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนราษฎร์ประชานุเคราะห์ 20 อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร
นางสาววัลภากล่าต่อว่า ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่ปิดประตูห้องไม่ยอมออกมาพบปะผู้คนแม้แต่เจ้าหน้าที่เนื่องจากเขาถูกระทำซ้ำหลายครั้งมีผลกระทบด้านสังคมและจิตใจค่อนข้างรุนแรง ซึ่งจะให้นักจิตวิทยามาพบเป็นการส่วนตัวและจะให้ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนราษฎร์ประชานุเคราะห์ 20 ด้วยเช่นกัน หลังจากหยุดเรียนมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งก็ต้องถามความสมัครใจของเด็กด้วย ส่วนเรื่องคดีความก็ได้ติดตามและประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอย่างต่อเนื่อง
นางหญิง แม่และยายของเด็ก กล่าวว่า “เมื่อช่วงกลางคืนนี้ นายดำ พ่อและตาของเด็ก ยังคงมีความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้จะแจ้งความแล้วยังถูกญาติของผู้ต้องหาข่มขู่ จนทำให้เกิดอาการชัก และอัมพฤติกำเริบ ต้องช่วยกันจนอาการดีขึ้น จนถึงช่วงเช้ายังต้องลากสังขารอันเจ็บป่วยออกไปทำงานรับจ้าง ส่วนลูกหลานทั้ง 4 คน มีอาการทางจิตใจ ที่ยำแย่มาก เวลานอนจะมีอาการละเมอหวาดกลัวตลอดเวลา วันนี้รู้สึกอบอุ่นขึ้นเล้กน้อยที่มี จนท.ทางราชการ เดินทางมาพบป้ะพูดคุย”
ด้าน พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่าวันนี้ตนได้สั่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำหลังสวนได้นำสำนวนคดีมาให้ตนดูและสั่งให้ฝ่ายกลุ่มงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เป็นผู้ตรวจสำนวนให้มีความละเอียดรัดกุมมากขึ้นในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซี่งคดีที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงอายุ 14 ปี นานแล้วปีตั้งแต่ พ.ศ.2550-2557 จึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน และผู้ต้องหายังมาก่อเหตุกระทำซ้ำกับเด็กชายและเด็กหญิงอีก 3 คนมีอายุตั้งแต่ 5-9 ปี ซึ่งเป็นญาติในครอบครัวเดียวกัน แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายอย่างถึงที่สุด ส่วนกรณีที่มีการข่มขู่ผู้เสียหายตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน เข้าไปดูแลอย่างเต็มที่แล้ว
ในส่วนการตั้งข้อหาได้ตั้งข้อกล่าวหาไว้4ข้อหาหลักๆคือ 1.พรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 13 ปีไปจากบิดามารดาโดยไม่มีเหตุอันควร 2.กระทำการอนาจาร แก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี 3. กระทำการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง และพยายามกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และ 4.พยายามกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีที่อยู่ในสภาพไม่สามารถขัดขืนได้
ภาพ/ข่าว สาธิต ศรีหฤทัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชุมพร