สาวท้องลูกแฝด มีเงินติดตัว 50 บาท พาลูกสาว 3 คน หวังมากินทุเรียนคว้าเงินรางวัล

สาวสมุทรปราการท้องลูกแฝด มีเงินติดตัว 50บาท พาลูกสาว 3 คน  หวังคว้ารางวัลจากการกินทุเรียน 4 กิโลกรัม ภายใน 3 ชั่วโมง รับรางวัล 5,000 บาท จากร้านชัยชนะ ทุเรียนเว้ยเห้ย ที่กำลังโด่งดังในโลกโซเชียล สรุปทำไม่ได้ ไม่มีเงินจ่ายค่าแท็กซี่จนถูกทิ้งไว้ที่ชลบุรี เจ้าของร้านทุเรียน โวยมาหลอกกิน แต่สงสารไม่เอาเงิน และยังเลี้ยงข้าวเด็กด้วย ก่อนอุณภูมิในตัวสาวท้องขึ้น นำส่งโรงพยาบาล

จากกรณีผู้สื่อข่าวได้ติดตามเรื่องดราม่า ร้านชัยชนะ ทุเรียนเว้ยเห้ย ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่มีเพจดัง และผู้เข้าแข่งขันบางคน กล่าวหาว่าหลอกลวง และโพสต์ต่อว่าในโลกโซเชี่ยลนั้น และ นายชัยชนะ เกิดดี ได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น  

 

สาวท้องลูกแฝด มีเงินติดตัว 50 บาท พาลูกสาว 3 คน หวังมากินทุเรียนคว้าเงินรางวัล

 

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. เมื่อวันที่ ( 3 พ.ค. ) ผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้งจาก  นายปัฐติภาร บุญยี่ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าได้ไปรับตัว นางสาวอุมากรณ์ ชมสงค์ อายุ 41 ปีพร้อมลูกสาวอายุไม่เกิน 10 ขวบอีกสามคน  ที่บริเวณร้านขายทุเรียน ชัยชนะ ทุเรียนเว้ยเห้ย ริมถนนสุขาภิบาล 8 บึง- ปากร่วม หมู่ 3 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ผู้เข้าแข่งขันกินทุเรียนเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาให้ไปส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง เนื่องจากมีอาการร้อนจากภายในร่างกายวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เมื่อมาถึงมือแพทย์ทราบว่า นางสาวอุมากรณ์ ชมสงค์ กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดอีกสองคนในท้อง แพทย์จึงให้นอนพักดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง พร้อมกับจัดที่นอนบนเปลคนไข้ให้กับลูกสาวทั้ง 3 คนของนางสาวอุมากรณ์ ชมสงค์ อีกด้วย

 

สาวท้องลูกแฝด มีเงินติดตัว 50 บาท พาลูกสาว 3 คน หวังมากินทุเรียนคว้าเงินรางวัล

 

จากการสอบถาม นายชัยชนะ เกิดดี เปิดเผยว่า ในวันนี้เวลาประมาณ 16.58 น. นางสาวอุมากรณ์ ชมสงค์ ได้มาขอร่วมการแข่งขันกินทุเรียน 4 กิโลกรัม ภายในเวลา 3 ชั่วโมง ทำได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท นั้น โดยนั่งรถแท็กซี่มาจากจังหวัดสมุทรปราการ บอกว่าพบเห็นมาจากในโลกออนไลน์ จึงตั้งใจมาลองกินดู หลังจากนั้น เมื่อเวลาครบ 3 ชั่วโมง นางสาวอุมากรณ์ ชมสงค์ ไม่สามารถกินได้หมด โดยกินไปได้เพียงกว่า 2 กิโล แต่นางสาวอุมากรณ์ สั่งให้ปอกทุเรียนมาให้ครบ 4 กิโลเลย จึงต้องเสียค่าทุเรียนกิโลกรัมละ 350 บาท รวมทั้งสิ้น  1,400 บาท ยังไม่รวมค่าปอกทุเรียนตามกติกาอีก 1,000 บาท แต่เมื่อสอบถามพบว่ามีเงินติดตัวอยู่เพียงแค่  50 บาท และยอมรับสารภาพว่า ตั้งใจมากินทุเรียนเพื่อหวังเงิน 5,000 บาท โดยเชื่อมั่นว่าจะทำได้แน่นอน แต่พอมากินกลับทำไม่ได้ รวมทั้งไม่มีเงินจ่ายค่าแท็กซี่อีกด้วย  โดยแท็กซี่ได้ยึดบัตรประชาชนของตนไว้ ก่อนขับรถกลับไปทันที

 

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า “ หลังจากนั้นตนก็กันตัวไว้ ยังไม่ให้ นางสาวอุมากรณ์ ชมสงค์ และลูกอีก 3 คนไปไหน แต่ด้วยความสงสารเด็กทั้งสามคนจึงเลี้ยงข้าวหมูแดงเด็กทั้งสามคนก่อนด้วย และบอกให้ นางสาวอุมากรณ์ หาเงินมาจ่ายก่อน โดยนางสาวอุมากรณ์ ได้โทรหาใครอีกคนและบอกจะโอนเงินให้ 1,000 บาท พอสักครู่ได้มีเงินเข้ามาและนางสาวอุมากรณ์ ได้ส่งสลิปการโอนเงินออนไลน์ให้ดูว่าโอนเข้ามาแล้ว 1,000 บาท จึงตรวจสอบดูพบว่าเงินเข้าเพียง 10 บาทเท่านั้น ซึ่งพบว่าสลิปเงินที่ให้ดูมีการแก้ไขตัวเลขในสลิปเงิน จึงมั่นใจว่าเป็นพวกมิจฉาชีพมาหลอกกินฟรีแน่นอน

 

สาวท้องลูกแฝด มีเงินติดตัว 50 บาท พาลูกสาว 3 คน หวังมากินทุเรียนคว้าเงินรางวัล

 

หลังจากนั้น นางสาวอุมากรณ์ ได้มีอาการเหงื่อออกเป็นจำนวนมาก วิงเวียนศีรษะ รู้สึกร้อนจากภายใน เนื่องจากการกินทุเรียนมากเกินไป จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มารับตัวไปส่งโรงพยาบาล โดยไม่ได้คิดเงินแม้แต่บาทเดียว จึงอยากจะแจ้งว่า กลุ่มคนพวกนี้เหมือนเป็นคนโลภ พอเห็นตั้งเงินรางวัล ก็มีความโลภ คิดอยากจะได้แต่ของคนอื่น  จึงขอแจ้งว่า ครั้งต่อไปคนที่มีครรภ์ไม่ต้องมาแข่งกินทุเรียนเพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ นายปัฐติภาร บุญยี่ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ ศรีราชา ได้กล่าวว่า หลังจากที่มาส่ง นางสาวอุมากรณ์ ที่โรงพยาบาล ตนได้สอบถามนางสาวอุมากรณ์ และให้การยอมรับว่าไม่มีเงินจริง แต่คิดว่ากินได้ และอยากได้เงินรางวัล 5,000 บาท จึงเสี่ยงมาลองแข่งขันดู  ตนจึงเกิดความสงสารจึงมอบเงินให้ นางสาวอุมากรณ์ เพื่อเดินทางกลับบ้านไปอีก 300 บาทด้วย.

 

ภาพ/ข่าว สิงห์ทอง นามมาลา  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชลบุรี

รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี