- 10 พ.ย. 2564
คลิประทึกมวลน้ำชีทะลัก พนังกั้นแม่น้ำชีขาดเเล้ว บริเวณอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง
จากมวลน้ำแม่น้ำชีที่ไหลมาจาก จ.ขอนแก่น และจ.มหาสารคามที่ส่งผลให้มีปริมาณน้ำในแม่น้ำชีสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในวันที่ 10 พ.ย.64 ส่งผลให้พนังกั้นแม่น้ำชีพัง บริเวณบ้านแจ้งจม ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยได้พังทลายขาดเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร ทำให้มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชนเเละท่วมนาข้าวในพื้นที่
เบื้องต้นยังไม่สามารถซ่อมได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรง และพนังเริ่มขาดยาวมากขึ้น คาดว่าจะต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง ทั้งนี้หากไม่สามารถซ่อมได้จะมีผลกระทบหลายหมู่บ้าน พร้อมกับแจ้งเตือนประชาชนในเขตพื้นที่รับน้ำ ต.เจ้าท่า และต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เฝ้าระวังมวลน้ำและเตรียมขนย้ายสัตว์เลี้ยงไปอยู่ที่ปลอดภัย และนำสิ่งของไว้ที่สูง โดยขณะนี้หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเรือเข้าประจำการในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมการให้ความช่วยเหลือแล้ว
ทั้งนี้ทาง เพจ หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ MTK Command & Control Center ได้เปิดเผยคลิปเหตุการณ์ว่า ด่วน พนังกั้นน้ำชีขาดแล้ว “คลิประทึกมวลน้ำชีทะลัก”
เตือนประชาชนพื้นที่รับน้ำ ขนของขึ้นที่สูง เหตุพนังกั้นน้ำชีท้ายบ้านแจ้งจม ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ขาดแล้ว เตือนประชาชนพื้นที่รับน้ำเขต ต.เจ้าท่า ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เฝ้าระวังมวลน้ำ ขณะนี้มวลน้ำมีผลต่อพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง
ชาวบ้านกำลังเร่งซ่อมด่วน หากเอาไม่อยู่มีผลต่อหลายหมู่บ้าน ล่าสุดทีมเรือกู้ภัยเมตตาธรรม เข้าประจำการในพื้นที่เตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มที่
ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 10 พ.ย. 2564 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง
โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู มหาสารคาม อุบลราชธานี นครราชสีมา ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม 30 อำเภอ 279 ตำบล 1,644 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 76,563 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 23 ราย (ลพบุรี 11 ราย เพชรบูรณ์ 2 ราย ชัยนาท 2 ราย นครสวรรค์ 3 ราย สิงห์บุรี 3 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย) แยกเป็น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด รวม 8 อำเภอ 36 ตำบล 211 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,487 ครัวเรือน ได้แก่
1.หนองบัวลำภู ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอโนนสัง รวม 6 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 210 ครัวเรือน
2.มหาสารคาม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม รวม 12 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,627 ครัวเรือน
3.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 577 ครัวเรือน
4.นครราชสีมา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง และอำเภอพิมาย 14 ตำบล 129 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,073 ครัวเรือน
ภาคกลาง 6 จังหวัด รวม 22 อำเภอ 243 ตำบล 1,433 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 72,076 ครัวเรือน ได้แก่
5.ลพบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอเมืองลพบุรี รวม 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 800 ครัวเรือน
6.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง รวม 20 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,011 ครัวเรือน
7.อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก และอำเภอวิเศษ ชัยชาญ รวม 29 ตำบล 143 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,670 ครัวเรือน
8.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอลาดบัวหลวง รวม 106 ตำบล 380 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,385 ครัวเรือน
9.ปทุมธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 56 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,301 ครัวเรือน
10.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 61 ตำบล 475 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครัวเรือน
ขอบคุณ
หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ MTK Command & Control Center
nationonline – จักรพงษ์ ระวิวรรณ