- 09 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
อาถรรพ์บาตรแตก
อดคิดถึงวันเก่าๆไม่ได้ เรื่องบาตรแตกเคยเขียนลงเว็บบอร์ดไสยศาสตร์แห่งหนึ่ง ประมาณกลางปี ๔๙ จนเป็นบ่อเกิดของเรื่องราวดีๆขึ้นกับผู้เขียน แต่ที่เขียนตอนนั้นไม่ได้เขียนละเอียดขนาดนี้โดยทั่วไปแล้วเชื่อว่าบาตรแตกไม่ใช่ของมงคล แต่ถ้าผู้ที่รู้จริงแล้วนั้น สามารถเปลี่ยนอาถรรพ์เป็นปาฏิหาริย์ได้ คือเอาแผ่นบาตรแตก มาทำเป็นตะกรุดผูกเอวชนิดหนึ่ง ซึ่งมีไม่กี่ตำรับที่ทำกัน ท่านอาจารย์กับคุณพ่อ ของผู้เขียนนิยมมาก แขวนที่เอวตลอด ส่วนบาตรแตกที่เอามาทำนั้นขุดมาจากวัดร้าง ส่วนตัวผู้เขียนเคยสร้างขึ้นมาดอกหนึ่งเป็นพระ ก็ลืมไปเลยว่าให้ใครไป
บาตรแตกนั้นนิยมนำมาทำคุณไสยเป็นหลัก เห็นปรากฏมีในคัมภีร์อักขระ (ผูกพยนต์) ประเภทสร้างความฉิบหาย ให้แตกแยกเฉพาะบุคคลหรือเป็นครอบครัว หรือใช้ทำลายคู่ศัตรู ให้เดือดร้อนเล่นๆ หรือใช้ขัดแข้งขัดขา ถ้าทำพิธีได้ถูกต้องฝังลงผืนแผ่นดินใด ที่ดินผืนนั้นจะทำมาหากินไม่ขึ้น คนอยู่ไม่ได้ ปลูกผักก็ไม่โต เลี้ยงสัตว์ไม่แพร่หลาย มีแต่ป่วยตายไป ประกาศขายที่ดิน ก็ขายไม่ออก จะอยู่อาศัยก็อยู่ไม่ได้ เจ็บปวดจริงๆ
รูปแบบการใช้บาตรแตกมัก ปรากฏมีหลายตำรา หลากหลายเรือนยันต์ การแต่งคุณไสยตามตำราโดดๆมักไม่ได้ผล เพราะตำราไม่บอกรายละเอียดรวมถึงเคล็ดลับสำคัญ ส่วนตัวเคยถูกว่าจ้างทำคุณไสยประเภทนี้ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีความคิดเท่าไร โดยเอาบาตรแตกที่ตัดแต่งเสร็จแล้วเอามาตั้งพิธี ทำการลงยันต์ตามสูตร นำไปตั้งกลางวิหาร นิมนต์พระมาสวด๙รูป โดยไม่บอกว่าคืออะไร (บาปกรรมๆ) เสร็จแล้วก็ส่งไปสังหารได้
อาจมีคำถามว่า บาตรแตก ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร
คำตอบของคำถามนี้ มีอยู่ ๒ คำตอบ เป็นคำตอบหลักและคำตอบรอง แต่สามารถตอบได้เพียงแค่คำตอบรองเท่านั้นถึงแม้นจะไม่ใช่เหตุผลอันแท้จริงแต่ก็ใกล้เคียง ส่วนคำตอบหลักเปิดเผยไม่ได้
การรู้วิธีทำคุณไสยมักจะร้อนวิชา เพราะใครทำอะไรแก่เราเพียงเล็กน้อย หรือขัดหูขัดตา พูดไม่เข้ารูหู ติดเงินไม่ยอมคืน เราก็กระสันอยากจะทำคุณไสยใส่แทบจะทันทีซึ่งบางครั้งมันก็เกินไป เพราะมีผลกระทบเป็นวงกว้าง คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ก็โดนหางเลขไปด้วย คุณไสยเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก ถ้าปล่อยไปแล้วก็ สุดแต่บุญกรรมที่ทำกันมา
ความเสี่ยงของการทำคุณไสย (เหมือนเล่นกับไฟ) มี ๒ ประการ
๑.ปล่อยคุณไสยแล้วมันไม่ยอมไป คุมมันไม่ได้ คุณจะเอาอะไรมารู้ว่ามันไปหรือไม่ไป
๒. ถ้ามันดีดกลับมาเพราะเข้าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้หรือถูกฝ่ายนั้นแก้ทางได้ ระวังจะมอดไหม้! ถ้าเตรียมรับมือไว้แล้วก็รอดไป
บาตรเป็นหนึ่งในอัฏฐบริขาร และใช้บ่อยในแต่ละวันของพระสงฆ์ การที่พระออกบิณฑบาตรจะต้องมีการสวดให้พรญาติโยม เป็นประจำทุกวัน บาตรจึงเหมือนได้รับการปลุกเสก อยู่เป็นนิจโดยการสวดให้พร ฉะนั้นบาตรจึงมีพลังอยู่ก่อนแล้ว เมื่อนำมาใช้ในทางไสยศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่งง่ายต่อการบรรลุผล บาตรพระสมัยเก่าจริงๆจะทำจากดินเผาเมื่อแตกจึงนำไปทิ้ง เพราะใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว อีกอย่างของใช้เมื่อแตกหักเป็นสิ่งไม่มงคล มาในยุคหลังนิเองไม่กี่ร้อยปีที่พบบาตรโลหะมักเป็นทองเหลือง สมัยปัจจุบันเป็นเหล็กและแสตนเลสซึ่งยากต่อการแตกมากๆ ยุคสมัยนี้ใครจะหาบาตรแตกมาใช้บอกได้คำเดียว ไม่ง่าย เท่าที่เห็นกองอยู่ข้างกำแพงวัดมีแต่บาตรผุ (สนิมกิน) ไม่มีบาตรแตกเลย ถ้าจะเอาไปทำคุณไสยคงต้องอุ้มไปทั้งลูก
(คำเตือน ถึงบาตรแตกจะได้รับการปลุกเสกในทางบังคับเพราะกิจวัตรแห่งสงฆ์ แต่ก็ห้าม! นำมาไว้ในบ้านโดยที่ยังไม่ดับอาถรรพ์โดยผู้ชาญเวทย์ นิเตือนแล้วนะ)
“มนต์สาปแช่ง”
โอม พระอิศวร พระนารายณ์ พระอาทิตย์ พระเสาร์ พระอังคาร พระเคราะห์หาญ ผลาญศัตรูทั้งหลาย หญิงชายผู้ร้ายปราบด้วยอำนาจพระมนต์
โอม พระกาฬท่านจึงให้กูมากำราบหมู่ศัตรูมิให้ทนทานด้วยสารพระมนต์
โอม ประลัยระคอนกัน มหา ประลัยระคอนกัน สารพัดศัตรูให้ระหุยระหาย ระหดระทวย เป็นบ้าคลั่งไคล้ร่ำร้องไห้เรียกผี เป็นกุลีสับสนให้สาละวนนั่งตาขาว ให้ร้อนให้หนาวทั้งตัว คุกให้คุกหัว คุกคลั่งคุกตาราง ตาเหลือกตาขวาง ระงกระงัน เขี้ยวขบฟันทอดตัวตาย ตะเกียกตะกายเข้าน้ำเข้าไฟ ซังเซเร่ไปทุกแห่งทุกหน ด้วยศัสตราพระมนต์พระสักรวามหาเห.
มนต์บทนี้สำหรับแช่งศัตรู ให้มีอันเป็นไปต่างๆ เสกบาตรแตกไปฝังในบ้านมันก็ได้ เขียนชื่อนั่งทับภาวนาสาปแช่งก็ได้ ลงชื่อใส่กระดาษทำเป็นไส้เทียน ภาวนาด้วยมนต์นี้ก็ได้ มันเป็นไปตามที่เราปรารถนาแล
มนต์คาถานี้ถูกตีพิมพ์มานานแล้ว ของ ส.ธรรมภักดี ฉันได้แก้ตัวที่พิมพ์ผิดให้แล้วด้วย เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ คือต้องการชี้ให้เห็นรูปแบบหนึ่งของการทำมนต์ดำ คนที่ศึกษาหรือกำลังโดนอยู่จะได้รู้รูปแบบว่าตนเองกำลังโดนอะไร มีระดับความรุนแรงประมาณไหน
การเอาคุณไสยมาใช้มีอยู่ ๓ เหตุผล
๑.ถูกกดขี่ข่มเหง เอารัดเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างที่สุด (ถ้าโดนแบบนี้ทำไปเถอะเห็นด้วย)
๒.ทำเพื่อหวังในทรัพย์ หวังในผลประโยชน์ที่จะได้รับหลังจากฝ่ายตรงข้ามพินาศ (อันนี้จัญไรที่สุดรับไม่ได้ทุเรศมาก เคยเจอนะหญิงไทยได้ผัวเป็นฝรั่งถูกผีกินจนต้องนอนเป็นผัก ตอนแรกคุยกันจะให้รักษาแต่เอาเข้าจริงๆจะจ้างมาทำของใส่ให้ผัวตาย เขาบอกถ้าทำสำเร็จจะแบ่งให้ส่วนหนึ่ง จ๊ะ! พอรู้ดังนั้นเลยยกเลิกพิธีไม่รับงาน กูรักษาคนนะไม่ใช่ฆ่าคน จะกี่ล้านก็ไม่ทำ )
๓.ทำเพื่อลองวิชา จะดูผลตอบรับว่าดีมากน้อยแค่ไหน บางทีเห็นเเขวนพระเยอะแยะ สวดมนต์ประจำ หรือเห็นมีความรู้ทางไสยเวทย์อยู่บ้าง ก็จะถูกลองของ หรือไม่ก็ปล่อยของออกไปมั่วๆ แล้วแต่อารมณ์ของคุณไสยว่าจะไปสนใจใครเป็นพิเศษ ก็โชคดีไป (อันนี้ก็ไม่รู้จะพูดยังไง)
ส่วนตัวผู้เขียนเคยโดนลองของอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ทำมาแล้วเข้าตัวจังๆเลย คือที่ กัมพูชา (เขมร) ในตัวจังหวัดเสียมราฐ (เสียมเรียบ) ตอนที่อยู่ที่นั้นก็ศึกษาวิชาบ้าง ดูปราสาทบ้าง ทำงานที่ได้รับมอบบ้าง รับสักให้วัยรุ่นแถวนั้นบ้าง สักลายเฉยๆนะ ไม่ใช่สักยันต์ นั่นแหละประเด็น! มันคงนึกว่าฉันเป็นครูสักยันต์มือหนึ่ง เรื่องมันก็เกิด ณ เย็นวันหนึ่ง กำลังจะออกไปกินข้าวนอกที่พัก ถูกเจ้าของบ้านเช่าที่มีบ้านติดกันเรียกไปดื่ม ฉันไม่ใช่คนชอบดื่ม เปล่าถือศีลแค่ไม่ค่อยชอบดื่มเป็นประจำ นานๆทีพอได้เข้าสังคมประมาณนั้น ก็นั่งคุยกันไปสักพัก เข้ายื่นแก้วเหล้าขาวมา (ชายคนนี้เป็นข้าราชการระดับ๗-๙ )
ฉันดื่มไปแค่แก้วเดียวแล้วขอตัวออกไปกินข้าว กลับมาถึงที่พักก็นอนหลับไป หลับไปสักพักรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา อยากอาเจียนมาก นั่งอ้วกในห้องน้ำ ๑ ชั่วโมงครึ่ง มีเศษอาหารปนกับ ของเหลวสีดำออกมาตลอด ลักษณะเหมือนเลือดไหม้เหนียวๆ ลองแตะมาส่องไฟดูสีออกน้ำตาล เหมือนพวกโค๊ก เป็บซี่ ประมาณนั้นมีกลิ่นแปลกๆ ตอนนั้นก็งงๆ คิดในใจฉันเป็นอะไร ก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะอยู่คนเดียว ก็เลยเอาน้ำมาแก้วหนึ่งเสกเองดื่มเอง อาการก็พอทุเลา (ในตอนนั้นได้เรียนอาคมบ้างแล้วแต่ขาดประสบการณ์) กลับมาป่วยกระเสาะกระแสะที่เมืองไทย แถวบางแค กับห้วยขวาง
อีกร่วมเดือน ตอนนั้นก็ยังงงๆว่ากูโดนอะไร ก็กลับไปหาอาจารย์ที่จังหวัดอุดอเมียนจัย ท่านบอกถูกของ (อ้าวเวร!) ก็ถอนของกันใหญ่ ใช้ถึงสองอาจารย์ ก่อนจะมาถอนของอาการก็ดีขึ้นมากแล้ว ตอนหลังก็ครอบครูไป เรียนไสยศาสตร์ไป ลงอาถรรพ์ไป มันก็หายไปเองซะดื่อๆ ทุกวันนี้ยังนึกอยากจะไปแก้มืออีกสักครั้ง ในครั้งนั้นอายุแค่๑๙ ปียังอ่อนโลก ถ้าเป็นอย่างทุกวันนี้ บอกได้คำเดียวว่า มันไม่ง่าย!
ในปัจจุบันยอมรับว่ายังคงมีอยู่เรื่องพวกนี้ สิ่งที่เห็นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด บางคน เห็นหน้าตาติ๋มๆแต่ตัวเหมือนคนรุ่นใหม่ ทำงานในห้างสรรพสินค้า แต่หารู้ไม่ทำคุณไสยเก่งมากอยู่บ้านนอกไล่ผีมาแล้วไม่น้อย บางคนเห็นเต้น B-Boy อยู่แถวสยาม แต่หารู้ไม่เรียกผีเก่งมาก คนที่แต่งตัวนุ่งขาวห่มขาวมีสำนักใหญ่โตก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นของจริงอย่ามองอะไรแค่ภายนอกจำไว้
อ่านเพิ่มเติม...ไม่ต้องผ่านพิธีกรรม "เหรียญบาทตราครุฑ ปี ๒๕๑๗"
ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้
ขอบคุณท่านเจ้าของเรื่อง
AppGeji
เพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทาน