- 11 ม.ค. 2561
“ประยุทธ์-ฮุนเซน”หารือสุดชื่นมื่น เร่งสร้างทางรถไฟ“อรัญประเทศ–ปอยเปต”เร่งเปิดจุดผ่านแดน“สระแก้ว-สตึงบท”ขยายพิสูจน์สัญชาติ
พล.ท.วีระชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า วานนี้ ณ สำนักนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา (Peace Palace) กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับ สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ก่อนการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 2 พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและแสดงความยินดีกัมพูชาในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดประชุมผู้นำประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือ แม่โขง – ล้านช้าง MLC ครั้งที่ 2 ได้มีการเร่งรัดความร่วมมือด้านต่าง ๆ ให้มีความคืบหน้า การค้า การลงทุน ความมั่นคงและเศรษฐกิจทุกด้าน ความร่วมมือด้านการส่งเสริมความเชื่อมโยง ทั้งสองฝ่ายจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการเดินรถไฟร่วม โดยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา หน่วยงานทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเพื่อเร่งรัดจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยการเดินรถร่วมเพื่อให้มีการลงนามโดยเร็ว สำหรับการสร้างทางรถไฟเส้นทางจากสะพานรถไฟอรัญประเทศ – ปอยเปต ไปยังตัวเมืองปอยเปต ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรนั้น มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 95 และกัมพูชากำหนดก่อสร้างเสร็จเส้นทางรถไฟและสถานีรถไฟให้แล้วเสร็จในช่วงเดือนมกราคม 2561 และจะดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟจากชายแดนไทย – กัมพูชาไปยังกรุงพนมเปญต่อไป เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศสามารถเดินทางข้ามแดนระหว่างกันได้ภายในปี 2563 ตามเป้าหมายที่วางไว้
จุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน จังหวัดสระแก้ว – สตึงบท จังหวัดบันเตียเมียนเจย มีการเร่งรัดการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร ศุลกากรทั้งในฝั่งไทยและกัมพูชา ตลอดจนสะพานข้ามพรมแดน หรือ “สะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา” เพื่อให้สามารถเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งนี้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องขอบคุณที่กัมพูชาช่วยแก้ปัญหาการนำเข้าเครื่องมือที่จำเป็น การขนส่งสินค้าผ่านแดน ไทยได้ดำเนินการภายในของไทยเกี่ยวกับการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาเสร็จแล้ว และหวังว่าจะสามารถลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ได้เร็ว ๆ นี้ การทำกินของคนไทยบริเวณ ชายแดนไทย-กัมพูชา (หลักเขตแดนที่ 43) นายกรัฐมนตรีทั้งสองได้เคยเห็นชอบร่วมกันให้ประชาชนของทั้งสองประเทศซึ่งอยู่อาศัยและทำมาหากินบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา สามารถทำมาหากินได้ต่อไปได้ตามที่เป็นมา ระหว่างที่การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนยังไม่แล้วเสร็จ โดยต้องไม่ขยายพื้นที่ออกไปมากกว่าเดิม ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เรื่องเขตแดนเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตของประชาชนตามแนวชายแดน
ความร่วมมือด้านแรงงาน ไทยได้ขยายระยะเวลาการพิสูจน์สัญชาติของแรงงานกัมพูชา กลุ่มที่มีใบจับคู่แสดงความสัมพันธ์นายจ้าง – ลูกจ้างให้ถึง 30 มิถุนายน 2561 จึงขอให้มีการเร่งรัดกระบวนการพิสูจน์สัญชาติและการแจกเอกสารเดินทางให้กับแรงงานกัมพูชาที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว ทั้งนี้ ความร่วมมือให้แรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานในไทยโดยถูกกฎหมายอันจะช่วยส่งเสริมและคุ้มครองสวัสดิภาพของแรงงานกัมพูชา ตลอดจนลดความเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ไทยยินดีเปิดให้มีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากกัมพูชาอย่างไรก็ดี ในช่วงที่ทั้งสองฝ่ายมีผลผลิตออกสู่ตลาดปริมาณมาก ไทย อาจมีความจำเป็นต้องจัดระเบียบการนำเข้า เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร ของทั้งสองประเทศ โดยกัมพูชาอาจพิจารณาจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 6 เพื่อให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อหารือแนวทางการนำเข้าในรายละเอียด และหวังว่า กัมพูชาพิจารณานาเข้าสุกรมีชีวิต จากไทยเพิ่มขึ้น โดยไทยมีศักยภาพผลิตสุกรมีชีวิตและมีความพร้อมที่จะส่งออกสุกรมีชีวิตที่มีคุณภาพดี ราคาเหมาะสมให้แก่กัมพูชา
การเปิดจุดผ่านแดนถาวร บ้านป่าไร่ การเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้ว สำหรับพื้นที่บริเวณบ้านป่าไร่ – โอเนียง คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ของทั้งสองฝ่ายควรประสานงานกันเพื่อเริ่มหารือเกี่ยวกับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร ณ พื้นที่ดังกล่าว รวมทั้ง ขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงร่วมหารือมาตรการป้องกันการใช้อาวุธตามแนวชายแดน ในกรณีที่มีการรุกล้ำเขตแดน เพื่อลักลอบตัดไม้ เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุม MLC และยังยินดีที่มูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศเพิ่มสูงขึ้น และหวังว่าไทยจะสนับสนุนสินค้าเกษตรของกัมพูชา รวมทั้งการเชื่อมโยงทางรถไฟด้วย