- 15 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.attarote.com
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2561 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ภายใต้การอำนวยการ ของ พลตรี พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ พ,ต.ท.สมัย พรมพากล รรท.ผกก.สภ.เกาะพะงัน พ.ต.ท.ยศ ชาวเรา รอง.ผกก.ป.สภ.เกาะพะงัน จ.ส.อ.อภิชาติ ร่วมแก้ว เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 4 นายสุทธิพงษ์ ทองเรือง ปลัดฝ่ายปกครอง อำเภอเกาะพะงัน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เทศบาลเพชรพะงัน
ได้นำกำลังเข้าทำการตรวจสอบ บ้านพักสองชั้น ชื่อโฮสเทล วากาบอนด์ เลขที่ 200/20 หมู่ 1 ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน หลังจากที่ได้รับการร้องเรียน ว่ามีการลักลอบดัดเเปลงอาคารเป็นห้องพัก เปิดเป็นโรงแรม หรือโฮสเทล มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักกันอย่างแออัด
จากการตรวจสอบ พบนางโอลิน่า ซีส อายุ 46 ปี สัญชาติยูเครน และ นางสาวเยริซา เวด้า ซีส อายุ 20 ปี สัญชาติยูเครน เป็นลูกสาว นางโอลิน่า โดยทั้งสอง มีหน้าที่ดูแลบริหาร ได้ออกมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบพบสมุดบันชีรายชื่อลูกค้า 4 เล่ม พร้อมนำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ ที่พัก ซึ่งเป็นบ้านพักแบบสองชั้น เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังตรวจสอบ แทบผงะ! พบว่า “บ้านดังกล่าว มีจำนวน 12 ห้อง และพบว่าทุกห้องมีการดัดแปลงนำเตียงนอน มาต่อเติมเป็นชั้นๆ จำนวน 150 เตียง นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักอยู่กันอย่างแออัด และพบว่าภายในยังเปิดเป็นร้านจำหน่ายสินค้า มีเครื่องดื่มต่างๆ ไว้บริการ”
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก ให้ออกมาด้านนอกพร้อมทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก พร้อมเชิญนางโอลิน่า ซีส มาทำการสอบสวน ในเบื้องต้น นางโอลิน่า เปิดเผยว่า สถานที่ดังกล่าวได้เปิดเป็นบริษัท โดยใช้ชื่อว่า บริษัท วากาบอนด์ เฮ้าส์ และทั้งสองเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ซึ่งนางโอลิน่า ซีส เปิดเผยว่า ได้เปิดให้เป็นที่พักชาวต่างชาติเข้าพัก แบบรายวัน วันละ 250 บาท ต่อ 1 เตียง
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ได้ขอให้นำเอกสารการขออนุญาตมาแสดง แต่ทั้งสองไม่สามารถนำเอกสารในการประกอบกิจการมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนาญาต เป็นบุคคลต่างด้าว ร่วมกันประกอบธุรกิจโรงแรม และจำหน่ายเครื่องดื่ม ที่คนไทยไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขัน ในการประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร” พร้อมควบคุมตัว นางโอลิน่า ซีส และ นางสาวเยริซา เวด้า ซีส ทั้งสองแม่ลูกส่งให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเปิดเผยว่า ลักษณะการเปิดโฮสเทลดังกล่าวของชาวต่างชาติรายนี้ สุ่มเสียงต่อการเกิดเหตุ เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักอยู่กันอย่างแออัด หากเกิดเหตุไฟไหม้ อาจส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินได้มาก และไม่มีความปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก : siamnews