- 18 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
หากจะพูดถึงเรื่องของอาหารที่บำรุงสุขภาพ และช่วยให้หน้าเด็กลง หลายคนคงจะให้ความสนใจมาก และคงไม่มีใครที่จะปฏิเสธได้เลยว่าไม่อยากหน้าเด็ก ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านไปดู 10 อาหารที่ช่วยทำให้หน้าเด็ก บำรุงร่างกาย หากได้ทานบ่อยๆ ล่ะก็ ผิวพรรณก็จะดีหน้าตาก็จะดูเด็กลงไป 10 ปีเลยล่ะ แถมอาหารแต่ละอย่าง ก็เป็นอาหารที่ใกล้ตัวของทุกคน หาซื้อง่าย หากินง่าย สะดวกสบายอีกด้วย
เคล็ดการทานอาหาร สำหรับคนอยากหน้าเด็กและกำลังมองหาวิธีทำให้หน้าเด็กอยู่ตอนนี้ วิธีทำให้หน้าเด็ก ทำตามได้ง่ายๆ แค่กินอาหารที่ทำให้หน้าเด็กก็ดูอ่อนกว่าวัย ใสๆ คล้ายกับโดยการเลือกทานอาหารให้ถูกก่อน นอกจะจะช่วยให้หน้าดูเด็กเบบี๋ลงแล้ว ยังช่วยในเรื่องของผิวพรรณ สุขภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย ว่าแต่จะต้องกินอะไรให้หน้าเด็กดูอ่อนกว่าวัย ตามไปดูกันเลย
1.น้ำเต้าหู้
น้ำเต้าหู้ หรือ นมถั่วเหลือง เครื่องดื่มคู่คนไทยมาตั้งแต่อดีต ณ ปัจจุบันนี้มองไปทางไหนก็จะก็จะเจอน้ำเต้าหู้อยู่ทุกที่ ทุกเวลาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะตลาด รถเข็นข้างทาง เซเว่น และยิ่งไปกว่านั้นเดี๋ยวนี้มีแบบผงชงดื่มเองที่บ้าน สะดวกสบายกันเลยทีเดียว
เป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย ในถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน AB, B1, B2, B6, B12 ไนอาซิน และวิตามิน C, D, E และในเมล็ดถั่วเหลืองยังมี “เลซิทิน” อันเป็นสารบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ลดไขมันและลดโคเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย ให้โปรตีนเกือบเท่านม มีไขมันที่ดีกว่า คือให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่านมช่วยลดโคเลสเตอรอลและลดไขมันในร่างกาย สำหรับคนที่ไม่ดื่มนมเพราะเหตุใดก็ ตาม จะได้รับคำแนะนำให้ดื่มนมถั่วเหลือง
2.เต้าหู้
เต้าหู้เป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เต้าหู้ทำมาจากถั่วเหลือง ซึ่งในถั่วเหลืองนั้นมีทั้งคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน AB, B1, B2, B6, B12 ไนอาซิน และวิตามิน C, D, E และในเมล็ดถั่วเหลืองยังมี “เลซิตินหรือฟอสโฟไลปิด”
เป็นสารบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ และที่สำคัญยังช่วยลดไขมันและลดโคเลสเตอรอลในร่างกาย ที่สำคัญคือมีองค์ประกอบใกล้เคียงกับของเซลล์ผิวของเรา พอนำมาสกัดเป็นเนื้อครีม ก็จะทำให้เนื้อครีมซึมเข้าผิวได้ดี ทำให้ผิวนุ่ม เด้ง เนียนละเอียด
3.งา
งานั้นมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า มีธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และทองแดง และยังมากด้วยวิตามินบีชนิดต่างๆ ซึ่งดีต่อระบบประสาท ช่วยทำให้นอนหลับ ร่างกายกระฉับกระเฉง พร้อมกันนั้นยังมีสารบำรุงประสาทด้วย และวิตามินอีเป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยต้านมะเร็ง
แถมยังมี โปรตีน ที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย คือ กรดอะมิโนเมธิโอนีน นอกจากนี้ เรายังสกัดน้ำมันจากงาออกมาได้อีกด้วย ซึ่งน้ำมันที่ได้นั้นเป็นน้ำมันงาที่มีคุณสมบัติเยี่ยม คือ มีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูง ทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า 6 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดคลอเลสเตอรอล จึงช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรง นอกจากนี้ ยังมีกรดไขมันไลโนเลอิค ที่ช่วยทำให้ผมดกดำ บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น
4.น้ำมะพร้าว
น้ำมะพร้าวช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ขาวนวลขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ และยังมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้เป็นอย่างดี และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและการแบ่งเซลล์ได้อีกด้วย
ในเนื้อและน้ำมันมะพร้าวอ่อนมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกายอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินบี กรดอะมิโน ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม ธาตุเหล็ก และยังมีไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้ภายใน 5 นาที นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์อีกมากมาย แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและโรคไต
5.แครอท
แครอทนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังมีสารสำคัญคือสาร “ฟอลคารินอล” (falcarinol) ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง
6.เมล็ดแฟลกซ์
เมล็ดแฟลกซ์นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่ว่าจะเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 สารลิกแนน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แถมยังมีไฟเบอร์สูง จึงทำให้เจ้าเมล็ดแฟลกซ์นี้มีสรรพคุณที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งช่วยบำรุงหัวใจ ลดน้ำหนัก หรือแม้แต่ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งอีกหลายชนิด อีกทั้งยังสามารถช่วยควบคุมน้ำหนัก และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย
แถมยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรควัยทอง อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงเล็บและเส้นผม ป้องกันภาวะมีบุตรยาก และมะเร็งต่อมลูกหมาก รักษาภาวะซึมเศร้า และบำรุงตับ
7.ข้าวสาลีและโฮลเกรน
โฮลเกรนจะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนตามธรรมชาติ ทั้งเส้นใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และไฟโตนิวเทรียนต์หรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระต่างๆ นอกจากนี้หากบริโภคเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งในทางเดินอาหาร โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และช่วยป้องกันท้องผูก
8.ถั่วต่างๆ
อยากมีผิวกระชับเต่งตึงแนะนำให้กินถั่วเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็นถั่วลันเตา ถั่วเหลือง ถั่วแระ ถั่วแดง ถั่วดำก็กินได้ทุกชนิด โดยเฉพาะหากคุณมีอายุอยู่ในช่วงระหว่าง 30-40 ปี การได้รับไอโซฟลาโวน (Soy Isoflavones) หรือที่เรียกกันว่าอะไกลโคน (Aglycone) มาช่วยบำรุงผิวพรรณและชะลอริ้วรอยแห่งวัยจะเป็นอะไรที่ใช่มาก
9.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
กรดเอลลาจิก (Ellagic Acid) ที่มีอยู่ในผลไม้ตระกูลเบอร์รีจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี หนำซ้ำยังช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้อีกต่างหาก เพียงแค่กินแบล็กเบอร์รีหรือราสป์เบอร์รีประมาณ 1/2 ถ้วยตวงต่อวันก็มีผิวพรรณอ่อนเยาว์ได้แล้วล่ะจ้า นอกจากนี้แบล็กเบอร์รีและราสป์เบอร์รียังช่วยบำรุงผม รวมไปถึงหนังศีรษะได้อีกด้วยนะ
10.ลูกพรุน
ลูกพรุนจะประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้ เหล็ก (Iron) เป็นส่วนประกอบที่ใช้ในการสังเคราะห์ฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง วิตามิน B2 (Riboflavin) ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง กระบวนการสร้างช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ โดยเฉพาะกับผิวหนัง เล็บและผม แคลเซียม (Calcium) ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน รักษาระดับการเต้นของหัวใจ ช่วยระบบประสาทให้เป็นปกติ
วิตามิน C (Ascorbic Acid) สารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) เป็นส่วนประกอบพิเศษที่ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลาย เมื่อเซลล์ถูกทำลายโอกาสการเป็นมะเร็งก็มีสูงขึ้น วิตามิน E เป็น Anti-oxidant ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาของออกซิเจนที่ไม่สมบูรณ์ภายในร่างกาย ช่วยการไหลเวียนของโลหิต ช่วยยืดอายุของเม็ดเลือดแดงทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่มชุ่มชื่น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร ลูกพรุนนั้นอุดมไปด้วยกากใยหรือไฟเบอร์สูงมาก มีคุณสมบัติเป็นยาระบาย บรรเทาอาการท้องผูกได้อย่างปลอดภัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นประโยชน์ทำให้ขับถ่ายได้คล่อง
ขอขอบคุณที่มาจาก : jaomee.com