คนไทยเห็นด้วยหรือไม่!!? "ครูเบิร์ด"ซัดหมัดตรง ตรรกะสังคมป่วย? กรณี "น้องเป่าเปา" บอกได้คำเดียวงานนี้มีคนหน้าร้าวไม่รู้ตัวแน่นอน!!!(คลิป)

ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจกับกรณี  น้องเป่าเปา ลูกสาวของ กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ และ บี้ KPN มีมือดีหยิกหลัง จนน้องร้องไห้ ต่อมาชาวโซเชียลฯสืบจนได้ความว่าผู้ก่อเหตุเป็นถึงแพทย์หญิง ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก Arthit Kannikar ได้โพสต์เนื้อหาดังนี้

**** ตรรกะสังคมป่วย? กรณี "น้องเป่าเปา" **** 

...จากข่าวหมอคนนึงหยิกเป่าเปาด้วยความหมั่นเขี้ยวหรือหมั่นไส้ก็ไม่รู้ แต่ทำให้น้องร้อง มีรอยการหยิกฟกช้ำเห็นได้ชัด ทำให้ป้า ทำให้แม่ถึงกับขึ้น รวมไปถึงบรรดาแฟนคลับที่ออกมากระหน่ำหมอจนถึงกับปิดเฟส

...แต่กระแสตีกลับอีกด้านนึง ก็บอกว่าลูกดาราทำไมต้องดูสูงส่งขนาดแตะต้องไม่ได้ เริ่มมีการแบ่งชนชั้น เริ่มมีการเอาไปเปรียบเทียบกับเด็กยากไร้บ้าง อะไรบ้าง ต่อว่าแม่เด็ก ญาติเด็ก ว่าเป็นคนเยอะ โอเวอร์เกินเหตุ กะอีแค่รอยโดนหยิกหน่อยเดียว น้องร้องแปบเดียวก็หยุดร้องแล้ว น้องเป่าเปาเองก็พาลโดนแซะว่า เป็นเด็กเทวดา แตะต้องไม่ได้ พ่อแม่อะไร เอาลูกมาหากิน บลาๆๆๆๆๆ

...ถึงว่า เค้าหยามคนไทยอ่านหนังสือปีละไม่กี่บรรทัด ไม่รู้จักคิดวิเคราะห์ ประเด็นอยู่ไหน ชอบแถ ไม่อยู่กะร่องกะรอย เบี่ยงประเด็น แตกประเด็นไปเรื่อย เขาเถียงเรื่อง ก.ไก่ ข.ไข่ ก็จะลากไปถึง ฮ.นกฮูก ซะให้ได้ คนหรือปลาหมอ แถไปไกลขนาดนั้น (โยงจากเป่าเปาไปถึงเสือดำก็มี)

...ในมุมมองของผม ผมมองว่า ประเด็นเรื่องนี้ คือ!!! เราไม่มีสิทธิ์ไป "ละเมิด" ลูกใคร!!! ไม่ว่าจะเป็นลูกดาราหรือลูกขอทาน เพราะนั่นเป็นสิทธิ์ในความคุ้มครอง ในการปกครองของพ่อแม่หรือญาติเขา ยิ่งในต่างประเทศ แค่เราไปเที่ยวแล้วเห็นเด็กน่ารัก จะยกกล้องมาถ่ายรูปยังผิดกฏหมายเลยด้วยซ้ำ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ในที่นี้ ไม่ได้แบ่งว่า ละเมิดลูกดารา หรือลูกคนธรรมดา นับเป็นการละเมิดทั้งสิ้น!

...เราชื่นชมความน่ารักได้ โดยไม่จำเป็นต้องแตะต้องตัว เหมือนโอตะที่ไม่มีสิทธิ์แตะต้องตัวน้องๆ BNK48 ยกเว้นเค้าจะกำหนดว่า แตะต้องได้ตอนไหน แค่ไหน ยังไง

...เกิดมีคนรักลูกคุณ เห็นแล้วเข้ามาหยิก หนึ่งคน หนึ่งแผล สิบคนสิบแผล คุณเอามั้ยล่ะ ถ้าลูกคุณถูกรุมเอ็นดูจนตัวเขียวตัวช้ำ

...สังคมโซเชียลก็ลากเรื่องนี้กันไปเป็นเรื่องใหญ่โต และพาลเอาเหตุผลบ้าบอที่ไม่เกี่ยวข้องมาเชื่อมโยง ซึ่งต่างๆ นานา นั้นอยู่บนพื้นฐานของการ "ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล" ทั้งสิ้น เราไม่มีสิทธิ์ ถ้าเขาไม่ให้สิทธิ์ จริงๆ เรื่องมันง่ายแค่นั้นเอง ไม่รู้ทำไมคนส่วนนั้นคิดไม่ได้ และเอาไปเชื่อมโยงกับตรรกะที่อ่อนหัด

...หลานสาวผมเป็นลูกครึ่ง ตอนมาเมืองไทยก็ถูกละเมิด ถูกแตะต้องตัว ถูกอุ้ม ถูกเอานิ้วแหย่ปาก ซึ่งน้องสาวผมเองก็ไม่พอใจ และมันก็สุ่มเสี่ยงกับสุขลักษณะ การติดเชื้อโรคต่างๆ ที่น้องไม่มีภูมิคุ้มกัน เนื่องจากมาจากต่างประเทศ ตรงจุดนี้ควรคิดให้มาก ถ้าจะเข้าถึงตัวเด็กเล็กๆ เพราะเวลาป่วย คุณก็ไม่ได้มีส่วนไปช่วยรักษาลูกเค้าหรอก

...ส่วนหมอที่ก่อเหตุ แม้จะขอโทษแล้ว ถ้าเขาจะต้องได้รับโทษใดๆ ไม่ว่าทางการงานหรือสังคม ตรงนั้นไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายน้องเปาๆ เป็นคนกระทำหรือสั่งลงโทษแต่อย่างใด

เขาทำตัวเอง และเขาได้รับกรรมจากการกระทำของตัวเอง ยิ่งในฐานะความเป็นหมอที่ค้ำคอตัวเองอยู่ ยิ่งควรจะรู้เลยว่าอะไรควรไม่ควร

ก็แค่นั้น.. ทำไมคิดกันไม่ได้

ปล. มีคนแนะนำเข้ามา ว่าให้เพิ่มเติมในส่วนของการ "ล่าแม่มด" ที่เกิดขึ้นกับหมอ ซึ่งตรงนี้ ผมก็มองว่าเกินกว่าเหตุ และมันไร้การควบคุม (กระแสโซเชียลยังไม่ได้ถูกควบคุมทางกฏหมายอย่างจริงจังว่าแค่ไหนถือว่าละเมิด) จริงอยู่ที่หมอทำแล้วได้รับผล แต่ผลที่ได้รับ ก็เกินไปไหม สำหรับความผิดหนึ่งครั้ง... ขอบคุณคอมเม้นท์ที่แนะนำให้เพิ่มเติมเรื่องนี้ครับ

ครูเบิร์ด 
วาดภาพ / บทความ