แม่ฟอสเปิดใจ ชะตากรรมครอบครัว ช้ำหนัก หลังเสียลูกชาย พ่อทำใจไม่ได้กลับกลายเป็นคนเสียสติ แม่รับภาระหนัก ไร้หน่วยงานเยียวยา!

แม่ฟอสเปิดใจ ชะตากรรมครอบครัว ช้ำหนัก หลังเสียลูกชาย พ่อทำใจไม่ได้กลับกลายเป็นคนเสียสติ แม่รับภาระหนัก ไร้หน่วยงานเยียวยา!

จากคดีสะเทือนขวัญ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน พร้อมพวก เป็นผู้ต้องหาฆ่าน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 20 ปี ที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี  ซึ่งหลังจากที่ ทางการไทยได้ดำเนินการ ประสานงานกับประเทศกัมพูชา เพื่อขอตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ผู้ กลับมาดำเนินคดีในไทย ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา 

 

 

แม่ฟอสเปิดใจ ชะตากรรมครอบครัว ช้ำหนัก หลังเสียลูกชาย พ่อทำใจไม่ได้กลับกลายเป็นคนเสียสติ แม่รับภาระหนัก ไร้หน่วยงานเยียวยา!

 

ล่าสุด นางจอมศรี ชมพูพื้น อายุ 44 ปี แม่ของน้องฟอส ได้เล่าว่า หลังจากตนได้สูญเสียลูกชายไป แม้เวลาจะล่วงเลยมานานกว่า 4 เดือนแล้ว แต่ครอบครัวก็ยังทำใจรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ไม่มีเงินมาจุนเจือครอบครัวเหมือนตอนที่น้องฟอสยังมีชีวิตอยู่

ตั้งแต่เสียลูกชายไป ครอบครัวไม่เคยมีความสุขอีกเลย ขณะที่ผู้เป็นพ่อก็กลายเป็นผู้ป่วยทางจิต แต่ก่อนเคยทำงานเป็นช่าง มีเงินรายได้หาเลี้ยงครอบครัวอีกทางก็ไม่สามารถทำงานหาเงินได้ ภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดจึงตกมาอยู่ที่ตนเพียงคนเดียว

 

แม่ฟอสเปิดใจ ชะตากรรมครอบครัว ช้ำหนัก หลังเสียลูกชาย พ่อทำใจไม่ได้กลับกลายเป็นคนเสียสติ แม่รับภาระหนัก ไร้หน่วยงานเยียวยา!

 

 

ส่วนทางเสี่ยอ้วนตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่เคยมาดูแลหรือเยียวยาครอบครัวแต่อย่างใด มีเพียงเงินช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม 5 หมื่นบาท ที่ทางครอบครัวได้รับการเยียวยาจากภาครัฐมาเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีในชั้นศาล ในเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนตนเองนั้นอโหสิกรรมให้กับทุกๆคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เพราะโกรธแค้นไปก็ไม่สามารถทำให้ลูกชายมีชีวิตกลับคืนมาได้ ขณะที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวของน้องฟอสและน้องสปายก็ยังไปมาหาสู่กันเหมือนเดิม

 

แม่ฟอสเปิดใจ ชะตากรรมครอบครัว ช้ำหนัก หลังเสียลูกชาย พ่อทำใจไม่ได้กลับกลายเป็นคนเสียสติ แม่รับภาระหนัก ไร้หน่วยงานเยียวยา!