- 23 ธ.ค. 2561
ผอ.การศึกษาเทศบาลฯรับแล้วไปเจอเด็ก แต่ไม่ได้พูดบีบคั้นให้ลาออก ขอเห็นใจอย่าฟังความข้างเดียว
ถือเป็นประเด็นที่คนในสังคมจับตามองและติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีที่เด็กหญิงอายุ 12 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นชายจำนวน 5 รายก่อเหตุรุมข่มขืน ภายในร้านขายของแห่งหนึ่งพื้นที่จ.สระบุรี โดยในเวลาต่อมาพ่อของเด็กหญิงผู้เสียหายได้ร้องขอความเป็นธรรมและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการเอาผิดกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุต่างรับสารภาพว่าได้ลงมือรุมข่มขืนเด็กหญิงจริง
โดยพ่อของเด็กหญิงวัย 12 ปี ผู้เสียหาย ได้เปิดใจว่าตนเองและลูกทุกข์ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้มีชาวเน็ตและคนในสังคมต่างเข้ามให้กำลังใจอย่างมากมาย และมีการโอนเงินช่วยเหลือในการสู้คดีอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือดาราหนุ่ม แทค ภรัณยู ที่ประกาศยืนอยู่ข้างฝ่ายพ่อเด็ก พร้อมโอนเงินช่วยเหลือจำนวน 1 แสนบาท และให้กำลังใจสู้ต่อไป ขณะที่ในเวลาต่อมา พ่อของเด็กเปิดใจโดยการไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กอีกว่าลูกสาวตนเองเครียดถึงกับจะฆ่าตัวตาย
ทั้งนี้ได้มีเรื่องราวที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เมื่อในเฟซบุ๊กเพจ ล่า ได้โพสต์ข้อความระบุว่า Story เดือด #ทรชนข่มขืนเด็กหญิง ผอ.รร./ เทศบาล / ตำรวจ / พม.จังหวัด ... #ทราม #ศาลโซเชียล มาช่วยกันตัดสิน "ผอ.เขาเป็นผู้หญิง เขาพาป้าแก่ ๆ 2 คน ทำงานที่เทศบาล มาคุยกับหนู ให้หนูลาออก เพราะหนูทำโรงเรียนเสียชื่อเสียง" "หนูคิดอะไรไม่ออก หนูบอกพ่อ หนูฆ่าตัวตายได้ไหม"
ขณะที่ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กของ มณฑล ทองคำ เป็นอดีตนักการศึกษา ภายในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ที่ทนไม่ได้กับสภาพความจริงที่เกิดขึ้นในแวดวงการศึกษา เลยลาออกมาประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ได้ไลฟ์สดและพูดถึงเรื่องนี้และรูัจักสนิสนมเป็นการส่วนตัวกับพ่อเด็กสาวที่ต้องกลายเป็นเหยื่อขืนใจด้วย ด้วยความรู้จักกันนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวจึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยพ่อของเด็ก ซึ่งคลิปไลฟ์สดดังกล่าว มีคำพูดภายในคลิประมาณว่า "มีป้า 2 คนเข้ามาในรร.รู้แล้วว่าทั้ง2คนคือใคร มีผอ.โรงเรียน จะเล่าให้ฟังทีละประเด็น ประเด็นคือแรก ผอ.เป็นคนดีครับ เพราะมีคนพูดถึงมากกว่าคนไม่ดี คนไม่ดีก็ไม่มีแต่ผมไม่อยากพูดว่าใคร แต่ผอ.เป็นคนดี ซึ่งถ้ามีคนที่ใหญ่กว่าผอ.มาบังคับ ผอ.ก็กลัวจึงเข้าไปคุย สมมุติว่ามี10 ดรงเรียน คิดดูว่าเกี่ยวกับการศึกษาเทศบาลคือใคร ผมไปตามเช็คมาจากศูนย์ดำรงค์ธรรม ผมจะสาวไปให้หมดเลย
ในเรื่องของการเอาพนักงานจ้างมาแต่เอาไปใช้ส่วนตัว อย่าไปด่ามั่วครับ อีก2คนอาจจะไม่ดีก็ได้คือ คุณไปเรียกเด็กมาคุยได้ยังไง ถามพ่อแม่เด็กหรือยัง อีกอย่างคือมีนักจิตวิทยาไปนั่งคุยด้วยมั้ย เข้าไปคุยแบบไม่มีนักจิตวิทยาอยู่ด้วย จะลาออกจะอะไรก็เรื่องของพวกเรา คุณมีสิทธิอะไรไปคุย ไปสอบ คุณไม่มีสิทธิ์ไปพูด"
ทั้งนี้เพจล่า ยังมีการแฉข้อมูลใหม่เกี่ยวกับคดีดังกล่าวอีกด้วยว่า มีผอ.ที่ได้สอบถามเด็กวัย 12 เหยื่อทรชน ด้วยสีหน้าที่ไม่ยิ้มแย้ม ด่าทอและบ่นว่าทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง บังคับให้ลาออกสถานเดียว ซึ่งเด็กวัย 12 ได้ชี้ตัวชัดเจนแล้วว่า คนไหนที่เป็นคนพูดทำร้ายจิตใจขนาดนี้
อ่านข่าว : ด.ญ.เหยื่อทรชนลุกทวงความเป็นธรรม ชี้ภาพผอ.เทศบาลคนไหนเบะปากใส่ กดดันลาออกบอกทำโรงเรียนเสื่อมชื่อ
ต่อมาในเฟซบุ๊ก มณฑล ทองคำ ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นล่าสุดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า "ตามความถูกต้อง ใครจะว่ายังไงก็ช่าง
ผมก็เป็นอีก 1 คนที่เคยเจอคนพวกนี้กระทำ ผมเป็นครูนะ ครูจนๆที่ไม่มีตังค์เสียเงินตามที่พวกท่านเรียก และดันออก เพราะความที่ไม่ไหลตามน้ำให้พวกท่าน ใครข้างท่านอยู่ ใครไม่ข้างท่านบีบออก ท่านสั่งให้ครูทุกคนห้ามให้ข่าว แต่ครูที่เกลียดท่าน มีเกิน 70% ของเทศบาลที่ให้ข้อมูลเอาเรื่องพวกท่าน และยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจังเลย! ก็ต้องพลังของประชาชนและก็โซเชียลนี่แหละ กูเชื่อว่าอีกไม่นานเรื่องนี้มันก็เงียบ! ถ้าไม่อยากให้เงียบก็ต้องช่วยกัน ผมมีหน้าที่ทำให้มันถูกต้อง ผอ.เทศบาล1เป็นคนดี#อีกสองคนต้องที่เด็กบอก"
ล่าสุดทางด้านน.ส.ศรีสุนา ตันเจริญ ผอ.กองการศึกษาเทศบาลเมืองสระบุรี พร้อมด้วยน.ส.เบญจมาศ สังข์เพชร นักวิชาการเทศบาลเมืองสระบุรี และนายจิรายุทธ บุญแลบ อาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนเทศบาล 1 (วัดทองพุ่มพวง) ได้เปิดใจ ร่วมชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวโจมตีว่า ผอ.กองการศึกษา เรียกเด็กหญิงวัย 12 ปี เหยื่อถูกขืนใจเข้ามาพูดคุย แล้วกดดันให้เด็กออกจากโรงเรียนนั้น โดยมีการอ้างว่าทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งมีนายภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสระบุรี ร่วมรับฟังคำชี้แจงด้วยนั้น
โดยน.ส.ศรีสุนา ตันเจริญ ผอ.กองการศึกษาเทศบาลเมืองสระบุรี เปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นข่าวออกไปไม่เป็นความจริง เนื่องจากว่าในวันนั้น ตามที่ปรากฎเป็นข่าวคือ (วันที่ 21 ธ.ค.61) ตนได้ไปร่วมงานเปิดกีฬาสีที่โรงเรียนเทศบาล 4
(น.ส.ศรีสุนา ตันเจริญ ผอ.กองการศึกษาเทศบาลเมืองสระบุรี)
จากนั้นตนเองได้เดินทางไปยังโรงเรียนเทศบาล 1 เพื่อไปตรวจโรงเรียน ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปตรวจดูโรงเรียนทุกโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองสระบุรี และได้พบกับ น.ส.นารีรัตน์ ปุวรัตน์ ผอ.โรงเรียนเทศบาล 1 กำลังนั่งคุยอยู่กับเด็กหญิงที่ถูกรุมโทรม จากนั้นผอ.โรงเรียน ได้แนะนำให้ตนได้รู้จักกับเด็กหญิงที่เป็นผู้เสียหาย ซึ่งตนเองยังบอกไปกับผอ.โรงเรียนเลยว่าให้ดูแลให้ดีนะ แล้วตนเองยังบอกต่อเลยไปว่าเด็กนักเรียนต้องมาเรียนทุกวันนะ เนื่องจากว่าเธอนั้นได้ย้ายมาจากที่อื่น เกรงว่าเวลาเรียนจะไม่ ฉะนั้นเธอต้องมาเรียนทุกวัน อายุเพิ่งเท่านี้มาเรียนให้จบ และอย่าขาดเรียนอีกต่อไป
ในโลกโซเชียลบอกว่ามีป้าแก่ๆ เข้าไปในโรงเรียน ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นป้าไหน แต่ตนเองเป็นผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเทศบาลเมืองสระบุรี ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งตนเองจะพูดอย่างนั้นได้อย่างไร ในเมื่อพรบ.การศึกษา บอกเลยว่าการศึกษาภาคบังคับเด็กต้องจบเรียนชั้น ม.3 และก็อายุ 12 ปี นั้นเราไม่สามารถไล่เด็กออกโรงเรียนได้ จะต้องเรียนให้จบ การเรียนจบคือเด็กจะต้องมาโรงเรียนทุกวัน ไม่ใช่มาๆ ไปๆ โรงเรียนไม่มีนโยบายไล่เด็กออก
เนื่องทางเทศบาลเมืองสระบุรี เป็นโรงเรียนท้องถิ่นไม่มีสิทธิ์ไล่เด็กออกมีแต่ต้องช่วยเหลือเด็ก ซึ่งตนเองเป็นผอ.สำนักงานกองการศึกษา จะต้องดูแลเด็ก ถึง 10 โรงเรียน ไม่ว่าเด็กจะเป็นอย่างไร ตนพยายามที่จะเคลียร์กับฝ่ายปกครองตลอด จึงต้องขอความเห็นใจผู้ที่แสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ ว่าอย่าฟังความข้างเดียว และทำให้เสื่อมเสียต่อองค์กร เพราะข่าวมันเผยแพร่ไปไวมาก และทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยเช่นกัน