- 24 ธ.ค. 2561
"มะเร็งตับ" โรคร้ายที่คนไทยมักเจอบ่อยที่สุด!
เเค่ได้ยินคำว่า มะเร็ง เชื่อว่าหลายคนต้องรู้สึกกลัว ไม่มากก็น้อย เพราะต่างทราบกันดีว่า โรคเหล่านี้ เเม้เทคโนโลยีจะก้าวไกลไปไวเเค่ไหน ก็ยากที่จะรักษา วันนี้เราจะมาเปิดถึงโรคชนิดนี้ว่า มันเป็นอย่างไร มีสาเหตุ ระยะของโรค เเละทำไมคนไทยถึงเสี่ยงเป็นลำดับต้นๆ
โรคมะเร็งตับ คืออะไร ?
โรคมะเร็งตับ (Liver Cancer) เป็นโรคมะเร็งที่สามารถพบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งที่เกิดขึ้นในผู้ชายไทย ทั้งยังพบมากเป็นอันดับ 4 ของผู้ป่วยมะเร็งรวมกันทั้งชายและหญิง ส่วนมากมะเร็งตับมักพบในผู้ป่วยที่มีอายุ 30 - 70 ปี และพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2 - 3 เท่า จัดว่าโรคนี้เป็นโรคที่มีความรุนแรงมาก จนอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้เป็นจำนวนหลายราย โรคมะเร็งตับในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ กว่าผู้ป่วยจะได้เข้ารับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคใดก็ต้องพบว่าอยู่ในระยะท้ายของการเป็นมะเร็งตับซะแล้ว ซึ่งไม่โอกาสที่จะรักษาให้หายได้
สาเหตุการเกิดโรคมะเร็งตับ
สาเหตุการเกิดมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ส่วนใหญ่พบว่าการเกิดมะเร็งตับประเภทนี้มีสาเหตุมากจากผู้ป่วยนั้นสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี (ชนิดบีพบได้น้อยกว่า) , ผู้ป่วยที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด และผู้ป่วยตับแข็ง นอกจากนั้นยังพบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า สารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ที่เป็นสารพิษที่พบปนเปื้อนอยู่ในถั่วลิสง (โดยเฉพาะถั่วลิสงบด) พริกแห้ง , กระเทียม , หัวหอม , เต้าเจี้ยว , ข้าวโพด , ข้าวกล้อง , ข้าวซ้อมมือ , แหนม , องุ่นแห้ง , ปลาตากแห้ง , มันสำปะหลัง และธัญพืชเปียกชื้นชนิดต่างๆ ก็อาจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งตับได้เช่นกัน หากยิ่งบริโภคเข้าไปคราวละมากๆ สารนี้ก็จะเข้าไปช่วยเสริมให้เกิดเซลล์มะเร็งตับในผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้ง่ายยิ่งขึ้น
สาเหตุการเกิดมะเร็งท่อน้ำดีในตับ (CCA) ส่วนใหญ่พบว่าการเกิดมะเร็งตับประเภทนี้จะเกิดจากการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับแบบเรื้อรัง ปลาที่ยังสุกๆ ดิบๆ ทีมีพยาธิชนิดนี้เข้าไป ตัวอ่อนของพยาธิก็จะเข้าไปเจริญเติบโตและอาศัยอยู่ในท่อน้ำดีภายในตับอย่างถาวร โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 25 ปี
โรคมะเร็งตับ ระยะที่ 1 ลักษณะของก้อนมะเร็งจะมีขนาดเล็กและมีเพียงก้อนเดียวเท่านั้น
โรคมะเร็งตับ ระยะที่ 2 ก้อนมะเร็งจะลุกลามเข้าสู่หลอดเลือดภายในตับ และ/หรือมีมะเร็งหลายก้อน แต่ก็ยังคงมีขนาดที่เล็กอยู่
โรคมะเร็งตับ ระยะที่ 3 ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่มาก และ/หรือมีการลุกลามเข้าสู่เนื้อเยื่อข้างเคียงตับ และ/หรือลุกลามเข้าสู่หลอดเลือดดำใหญ่ท้อง และ/หรือลุกลามเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ตับ
โรคมะเร็งตับ ระยะที่ 4 เซลล์มะเร็งจะแพร่กระจายไปตามกระแสเลือด โดยมักเข้าสู่ตับกลีบอื่นๆ รวมถึงปวด แต่ก็มีแนวโน้มว่าสามารถแพร่กระจายเข้าสู่อวัยวะอื่นได้เช่นกัน อาทิ สมอง กระดูก หรือแม้กระทั่งต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ไกลออกไปจากตับ เช่น ต่อมน้ำเหลืองภายในช่องท้อง หรือบริเวณไหปลาร้า
ทำไมคนไทยถึงเสี่ยงเป็นมะเร็งตับเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ?
เพราะการใช้ชีวิต และอาหารการกินของคนไทยหลายอย่าง ทำให้คนไทยเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นการดื่มแอลกอฮอล์ จากการทานอาหารดิบๆ สุกๆ หรือปลาน้ำจืดดิบ ที่มีพยาธิใบไม้ในตับ หรือการบริโภคอาหารที่มีเสี่ยงว่าจะมีส่วนประกอบของดินประสิวเป็นประจำ เช่น ปลาร้า ปลาส้ม แหนม ไส้กรอก เนื้อเค็ม กุนเชียง หรือปลาเค็ม เป็นต้น มีคนไทยอีกจำนวนหนึ่งที่เสี่ยงเป็นมะเร็งตับจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี และซี โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคนี้แล้วไม่ยอมไปรับการรักษา จนปล่อยให้ตับติดเชื้อเรื้อรัง ตับอักเสบเป็นเวลานานๆ การได้รับสารพิษที่มีชื่อว่า “อะฟลาทอกซิน” เข้าไปในร่างกายเป็นเวลานาน อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดโรคมะเร็งตับได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยย่อยๆ อีกหลายปัจจัยที่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งตับที่หลายคนอาจไม่ทราบ เช่น การได้รับสารเคมีบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น การรับฮอร์โมนเสริม ยาคุมกำเนิด สารหนู หรือผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และคนอ้วนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ก็เข้าข่ายผู้ที่มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
เเล้วจะลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับได้อย่างไร ?
1.รักษาสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ หากพบว่าตัวเองเป็นโรคอะไร ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
2.ทานอาหารให้หลากหลายมากขึ้น ไม่ทานอย่างใดอย่างหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกินไป
3.ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ และทำจิตใจให้สดใส ไม่เครียด
4.รับประทานที่ถูกสุขลักษณะ สะอาด ปรุงสุก 100% ไม่ผ่านการใส่สารเคมีต่างๆ มากเกินไป ลดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
5.ตรวจสุขภาพทุกปี หรือทุกๆ 6 เดือน
ขอขอบคุณ ศ. พิเศษ นพ. ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ แพทย์ศัลยกรรมมะเร็ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ/ iStock /honestdoc