- 03 ม.ค. 2562
คลื่นหนักซัดทะเลใต้ ทหารเร่งอพยพชาวบ้าน หลังกรมอุตุฯแจ้งล่าสุด"พายุปาบึก"จ่อขึ้นฝั่งเมืองคอน นักเที่ยวตามเกาะหนีอุตลุด
จากรายงานพยากรณ์อากาศนอกชายฝั่งเกี่ยวกับสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก (PABUK) ซึ่งเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณอ่าวไทย ในขณะนี้พายุดังกล่าวกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกไปอย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน และเคลื่อนลงอ่าวไทยในวันที่ 3 มกราคม 2562 และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี ในช่วงค่ำของวันที่ 4 มกราคม 2562 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยมีผลกระทบดังนี้ ในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ในช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 2562
(น้องบึกมาแล้ว)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมอุตุฯแจ้งล่าสุด"พายุปาบึก"เคลื่อนลงอ่าวไทย ทิศทางขึ้นฝั่งนครศรีธรรมราช ค่ำวันที่ 4 ม.ค.นี้
ล่าสุด ทวิตเตอร์ชื่อ นัท ราชสีห์อีสาน ได้ออกมาโพสต์อัพเดตความคืบหน้าของสถานการณ์พายุปาบึก ซึ่งเป็นคลิปที่ประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชที่อยู่ริมฝั่งทะเล ที่เสี่ยงอันตรายของพื้นที่ ม.1 ต.ทุ่งใส่ อ.สิชล ชาวไทย 2400 คน พม่า 200 คน ไปพักที่ รร.ห้วยทรายทองและรร.วัดสุชนกองร้อยฝึกรบพิเศษ4 ช่วยเหลือในการอพยบชาวบ้าน
(ทะเลสิชลคลื่นซัดแรงมาก)
(ทะเลสิชลคลื่นซัดแรงมาก)
(ทะเลปากพนังคลื่นซัดแรงมาก)
โดยทวิตเตอร์ส่วนตัวดังกล่าวได้ระบุข้อความว่า "นครศรีธรรมราช เพื่อความปลอดภัย กองร้อยฝึกรบพิเศษ4 ช่วยอพยบประชาชนพื้นที่เสี่ยงชายฝังทะเล ม.1 ต.ทุ่งใส่ อ.สิชล ชาวไทย 2400 คน พม่า 200 คน ไปพักที่ รร.ห้วยทรายทอง รร.วัดสุชน เตรียมรับ #พายุปาบึก"
ถ้าดูจากภายในคลิปนั้นจะเห็นได้ว่าผู้คนที่อพยบออกจากพื้นที่นั้นมีทั้งผู้ใหญ่ วัยกลางคน และยังมีหนูน้อยตัวเล็กๆที่ต้องทำการอพยบหนี อันตรายเนื่องจากอิทธิพลของพายุปาบึกที่ทำให้เกิดคลื่นสูงลมแรง ซึ่งเป็นอัตรายต่อชาวบ้านที่อยู่ในแถบริมทะเลมากๆ
(เร่งอพยบชาวบ้านออกจากพื้นที่)
(เร่งอพยบชาวบ้านออกจากพื้นที่)
(เร่งอพยบชาวบ้านออกจากพื้นที่)
และจากการประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ อำเภอสิชล ได้จัดตั้งจัดตั้งศูนย์อพยพประชาชนหลังจากที่ประชาชนได้อพยบออกมาจากบ้านที่เป้นพื้นที่เสี่ยงภัยและอาจจะได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก ซึ่งศูนย์อพยบในแต่ละตำบลมีดังต่อไปนี้
1. ตำบลทุ่งใสมี โรงเรียนห้วยทรายทอง ศาลาแม่ของแผ่นดิน โรงเรียนเขาตาสัก
2. ตำบลสิชลมี หอประชุมเทศบาลตำบลสิชล อบต.สิชล ศูนย์ถ่ายทอดฯ คลองตาโป
3. ต.สี่ขีดมี โรงเรียนบ้านช่องเขาหมาก อบต สี่ขีด กองร้อยฝึกรบพิเศษสิชล
4 ตำบลเขาน้อยมี ศาลาหมู่บ้านสำนักเนียน อบตเขาน้อย ศาลาหมู่บ้าน หมู่ที่ 7
5. ตำบลฉลองมี อบตฉลอง วัดสุธรรมาราม วัดเจดีย์
6. ตำบลเทพราชมี อบตเทพราช โรงเรียนบ้านเผียน โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์
7. ตำบลเปลี่ยนมี อบตเปลี่ยน วัดชนสังขรณพิจิตร โรงเรียนบ้านไสเหรียง
8. ตำบลเสาเภามี วัดขรัวช่วย วัดคงคาวดี วัดสโมสรสันนิบาต อบตเสาเภา
9.ตำบลทุ่งปรัง วิทยาลัยเทคนิคสิชล โรงเรียนสิชลคุณาธาร วิทยา หอประชุมอำเภอสิชล
ทั้งนี้ ยังประกาศให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน นำประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง มาพักอาศัยชั่วคราว ตามจุด อพยพ ที่ได้กำหนดไว้ โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล
ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวที่อยู่ในจ.ใกล้เคียง และเป็นจังหวัดที่อยู่ในประกาศเตือนของกรมอุตุฯ อย่างสุราษฎร์ธานี ได้มีการทยอยนทท.ต่างชาติ ออกจากเกาะสมุย เช่นกัน โดยมีการอพยบนทท.จากท่าเรือราชา อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี และจะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวที่ได้ไปเที่ยวที่เกาะสมุยนั้นมีจำนวนเยอะมากๆ ซึ่งไม่ได้มีแค่ชาวต่างชาติเท่านั้น ยังมีคนไทยที่ได้เดินทางไปเที่ยวเกาะสมุยในช่วงหยุดยาวปีใหม่อีกด้วย ซึ่งนทท.บางส่วนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ส่วนอีกบางส่วนได้เดินทางกลับเข้าฝั่ง จ.สุราษฎร์ธานี
(อพยบนทท.ออกจากสมุย)
(อพยบนทท.ออกจากสมุย)
(อพยบนทท.ออกจากสมุย)
ขอบคุณ Chonyuen Wisutthipat นัท ราชสีห์อีสาน นครออนไลน์