- 07 ม.ค. 2562
"ทนายตั้ม" พา 2 ผัวเมีย โร่แจ้งความเอาผิด "อัจฉริยะ-พ.ต.ท." ข้อหา"ร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จ-ปลอมเอกสารราชการ"(คลิป)
จากกรณีที่ น.ส.รักชนก เจริญมากสุวรรณ และ นายเศรษฐ์ เดชสุภา สองสามีภรรยา ได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.บางปะอิน ภายหลังถูก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และตำรวจยศ พ.ต.ท. ร่วมกันนำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ไปเผยแพร่ในโลกโซเชียลจนเกิดความเสียหาย เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี 2561 ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
(แจ้งความเอาผิด)
ล่าสุด ที่กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมด้วยนายเศรษฐ เดชสุภา และนางสาวรักชนก เจริญมากสุวรรณ ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (กก.2 บก.ป.) ให้ดำเนินคดีกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และ พ.ต.ท.เรืองยศ เกษรบัว รองผู้กำกับสืบสวน สภ.บางประอิน ในข้อหา “ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการและร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จ-ปลอมเอกสารราชการ” หลังร่วมกันทำพยานหลักฐานทางคดีและเอกสารทางราชการอันเป็นเท็จจนเกิดความเสียหาย
(แจ้งความเอาผิด)
โดยทนายตั้ม ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "หลังจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับนายอัจฉริยะ และ รองผู้กำกับ สภ.บางปะอิน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังถูกคัดลอกข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ไปเผยแพร่ พบว่ามีพิรุธ ในการลงบันทึกประจำวันย้อนหลังกลับไปเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งมีข้อน่าสงสัยหลายประการที่ผิดไปจากระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) คือ หลักฐานทางให้ระบุเรื่องร้องเรียนได้1 คนต่อ 1 หน้าเท่านั้น และเมื่อหมดฉบับแล้วต้องขึ้นหน้าใหม่"
"จะไม่มีการเขียนทับซ้อนจนเกินหน้า อีกทั้งยังมีเรื่องความไม่ต่อเนื่องของเวลา จากบันทึกในฉบับที่ 1 ลงเวลา 13.30น. แต่ข้อต่อมากลับเป็นฉบับที่ 100 พร้อมระบุเวลาเป็น 15.00น. พร้อมลงลายมือชื่อของรองผู้กำกับไว้ ซึ่งผิดไปจากระเบียบของ ตร. เช่นกัน ที่กำหนดให้เป็นหน้าที่ของ ร้อยเวร หรือสิบเวรสอบสวน เท่านั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าสาเหตุที่คู่กรณีร่วมกันกระทำการดังกล่าว เป็นเพราะเกรงจะมีความผิด จึงต้องทำบันทึกย้อนหลังไว้"
(แจ้งความเอาผิด)
ส่วนทางด้าน นายเศรษฐ์ ผู้เสียหายได้กล่าวว่า "เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากตนได้ไปคอมเมนต์บนเพจกะโหลกแดงหรือ Red Skull ในฐานะลูกเพจเท่านั้น ซึ่งเข้าใจว่าเพจนี้คงจะมีปัญหากับนายอัจฉริยะมาก่อนแล้ว จากนั้นจึงพบว่า ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของแฟนสาวของตนได้ถูกคัดลอกไปเผยแพร่ในกลุ่มไลน์และบนเฟซบุ๊ก โดยแฟนสาวถูกวิจารณ์รูปลักษณ์หน้าตา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันเลย ตนจึงไปปกป้องสิทธิ์ด้วยการไปแจ้งความกับตำรวจแต่กลับพบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว จึงถามว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ ตนยังถูกคนมาคอมเมนต์ข่มขู่ หมายจะทำร้ายร่างกายอีกด้วย"
(แจ้งความเอาผิด)
นอกจากนี้เบื้องต้น นายษิทรา (ทนายตั้ม)ได้เตรียมที่จะแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันสมคบทำพยานหลักฐานเท็จและปลอมแปลงเอกสารราชการกับนายอัจฉริยะ และนายตำรวจ พ.ต.ท. รวมถึงเตรียมที่จะดำเนินการกับผู้คอมเม้นต์ข่มขู่ผู้เสียหายในความผิดฐานหมิ่นประมาทต่อไป
(แจ้งความเอาผิด)