- 09 ม.ค. 2562
ทุจริตทำกันเป็นขบวนการ โดนสอบสวนขยายผล พบผู้เสียหายอีก13 ราย สั่งลงดาบพนักงานทันที
จากกรณีที่ หนุ่มชาวฉะเชิงเทราโพสต์ร้องทุกข์ เงินหายจากบัญชีเกือบ 3เเสนบาท เเบบไม่รู้ตัว ฝากไว้กับธนาคารธงสีฟ้าเเห่งหนึ่ง โดยบัญชีที่เงินหายนั้น เป็นของเเม่ตนเอง ที่เปิดไว้ ณ สาขา อ. ปาย จ. เเม่ฮ่องสอน ไม่มีการสมัครบัตรเอทีเอ็ม เเละระบบออนไลน์ต่างๆ ทุกครั้งที่ไปเบิก ก็จะเบิกกับธนาคารโดยตรง เเต่อยู่ดีๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เงินในบัญชีของเเม่ 2เเสน9 หมื่นบาท ก็หายไปดื้อๆ ทั้งๆที่ตัวแม่นั้นอยู่ฉะเเชิงเทรา แต่เงินถูกถอนที่อ.ปาย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ทวงถามความรับผิดชอบจากธนาคาร
เรื่องราวดังกล่าวเผยเเพร่ผ่านทางผู้ใช้เฟซบุ๊ค ..กุนฑล ลิมป์ชยานันต์...!!
.
เงินหายจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว 290,000 บาท
เนื่องจากแม่ผมได้ฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง ธนาคารธงสีฟ้าที่ชอบเป็นข่าวบ่อยๆ เคยเห็นในข่าวบ่อยๆคิดว่าเรื่องคงไกลตัวแต่ไม่ใช่อีกต่อไปแล้วครับ
บัญชีแม่ผม เปิดไว้ที่ อ.ปาย ตามประสาบ้านนอกไม่ค่อยรู้หนังสือ เลยไม่มีทั้ง ATM และแอปเกี่ยวกับธนาคารทั้งสิ้น ทุกครั้งที่เบิกก็จะไปเบิกที่ธนาคารด้วยตัวเองทุกครั้ง
แต่ปัญหาก็เกิดจนได้ แม่ผมมาเที่ยวหาหลานๆที่ฉะเชิงเทรา มาอยู่ได้5-6เดือนแล้ว บัญชีและบัตรประชาชนของแม่ อยู่กับแม่ตลอด แต่เงินถูกถอนจาก ธนาคารที่ปายเมื่อวันที่ 29/11/2561 เป็นจำนวนเงิน 290,000 บาท ทั้งๆที่ตัวแม่นั้นอยู่ฉะเเชิงเทรา แต่เงินถูกถอนที่อ.ปาย ซึ่งห่างกันเป็นพันโล โทรไปถามที่ธนาคารปายแล้ว ไม่มีสำเนาใบถอนเงิน แต่เงินถูกถอนไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ รอทางธนาคารติดต่อกลับอยู่ครับ เค้ารับปากจะตามเรื่องให้เร็วที่สุด แม่ผมอายุเยอะแล้วกว่าแกจะเก็บได้ขนาดนี้กะว่าจะเก็บเงินไว้ใช้บั้นปลายของชีวิต เงินฝากไว้ที่ธนาคาร ถึงจะไม่มี ATM ไม่มีแอป ไม่มีเคดิต ไม่มีเดบิต อย่าวางใจว่าเงินของคุณจะไม่หายนะครับ ใครมีเงินในบัญชีเงินฝากเยอะๆตรวจสอบกันด้วยนะครับ
เเละหลังเรื่องราวได้ถูกเเชร์ออกไปในวงกว้าง มีผู้เสียหายหลายราย จนกลายเป็นข่าวใหญ่โตในบ้านเรา จนทำให้มีลูกค้าในพื้นที่จำนวนมาก จะพากันไปถอนเงินเพราะหวั่นถูกกระทำในรูปแบบดังกล่าวอีกเป็นรายต่อไป ทำให้ทาง สุกัญญา สุขสวัสดิ์ ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาปาย จ.แม่ฮ่องสอน ออกมาชี้เเจ้งทันที กล่าวไว้ว่า
หลังจากได้เห็นเฟชบุ๊กที่โพสต์ว่าเงิน จำนวน 290,000 บาท ของลูกค้าหายจากบัญชีธนาคาร สาขาปาย เมื่อทราบเรื่องในฐานะเป็นผู้ดูแลสาขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้แจ้งให้สำนักงานใหญ่รับทราบเกี่ยวกับโพสต์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนขอยืนยันว่าเงินลูกค้ายังอยู่ไม่หายไปไหน เเค่ไม่ปรากฏในบัญชีเท่านั้น โดยการที่ไม่ปรากฏในบัญชีขอเวลาให้ธนาคารตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เมื่อลูกค้าบอกว่าเงินหายจากบัญชี ทางธนาคารก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ต้องห่วงธนาคารพร้อมรับผิดชอบอยู่แล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่8 มกราคม ที่ผ่านมา ทางผู้เสียหาย ..กุนฑล ลิมป์ชยานันต์... ก็ได้โพสต์ถึงความคืบหน้าว่าทางธนาคารได้ทำการคืนเงินมาให้บัญชีของคุณเเม่เเล้ว !!
วันที่ 8เดือนมกราคม เวลา 8.20
ได้รับเงินคืนเรียบร้อยแล้วนะครับ ครบทั้งหมด 290,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 158บาท
แต่อยากได้คำชี้แจงจากธนาคารกรุงไทย สาขาปาย
ว่าระบบขัดข้องยังไง ทำไมเงินถึงหายได้
แล้วระบบที่ขัดข้องได้รับการแก้ไขแล้วหรือยัง
ในสมุดขึ้นชัดเจนนะครับ ว่าถูกถอนจากหน้าเคาร์เตอร์ รหัสพนักงานขึ้นชัดเจน และอยากให้ทางธนาคารมีมาตรการที่ดีกว่านี้ ในการรักษาเงินของลูกค้าเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นกับบุคคลอื่นอีก
#ขอบคุณ ผู้สื่อข่าวทุกๆช่องมากครับ ที่ช่วยเป็นสื่อกลางให้ได้รับความยุติธรรมแก่ครอบครัวผม
#และขอบคุณเพื่อนที่ช่วยแชร์ให้นะครับ
อย่างไรก็ตาม เเม้ว่าจะได้เงินคืนจากธนาคารสีฟ้าเเล้ว เเต่ทางผู้คนในโลกออนไลน์ ที่ติดตามข่าวกรณีดังกล่าว เเละคอยหาทางช่วยเหลือ สืบทุจริตจากธนาคาร ก็ได้คอมเม้นต์พยายาม เชียร์ให้ หนุ่มคนดังกล่าว อย่ายอมง่ายๆ ให้เอาเรื่องให้ถึงที่สุด เกี่ยวกับพนักงานรหัสที่ปรากฏในบัญชี คาดว่าน่าจะมีส่วนในการถอนเงินออกมา
ขอให้ผู้เสียหายอย่ายอมในคดีนี้ เพราะเชื่อว่า ไม่ใช่บัญชีคุณบัญชีเดียวแน่นอนที่โดน ใครมีบัญชีธนาคารสาขานี้ เชคยอดเงินไว้เลยมีหายตอนไหนบ้างที่ไม่ได่ไปถอนเอง .... งานนี้ กรุงไทย ต้องเชือดไก่ให้ลิงดูครับ มาปกป้องไม่ได้ครับคนแบบนี้ ไล่ออกน้อยไป
ทั้งนี้เเม้ว่าทางธนาคาร จะทำการคืนเงินไปเเล้ว เเต่ก็ยังมีการสอบสวนเพิ่มเติม เเละได้ขยายผล พบว่ามีลูกค้าเสียหายจากการกระทำของพนักงานรายนี้อีกจำนวน 13 ราย ซึ่งธนาคารได้สั่งให้พนักงานหยุดปฏิบัติงานและดำเนินการลงโทษตามระเบียบ รวมทั้งได้ดูแลลูกค้าที่ได้รับความเสียหายทุกราย โดยนำเงินต้นและดอกเบี้ยเข้าบัญชีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
ซึ่งทาง ธนาคารขออภัยลูกค้าเป็นอย่างสูง และขอให้มั่นใจในระบบควบคุมภายในและมาตรฐานการตรวจสอบ ตลอดจนระบบงานของธนาคาร ทั้งนี้ได้สั่งการให้ทุกสาขายึดมั่นในการให้บริการตามหลัก Market Conduct อย่างเคร่งครัด และให้ผู้บังคับบัญชาดูแลลูกน้องอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของ นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามปกติสถาบันการเงินจะมีกระบวนการภายในเพื่อดำเนินการสอบสวนเรื่องทุจริต และมีบทลงโทษอยู่แล้ว ในส่วนของ ธปท. จะให้ความสำคัญต่อผลการสอบสวนและสาเหตุที่ทำให้เกิดการทุจริต และการดำเนินการแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก รวมถึงเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้ความสำคัญต่อการดูแลลูกค้าของสถาบันการเงิน อนึ่ง หาก ธปท. ตรวจสอบพบการทุจริตจะมีการออกคำสั่งให้สถาบันการเงินดำเนินการต่อไป
ขอบคุณ
กุนฑล ลิมป์ชยานันต์