- 18 ม.ค. 2562
เปิดคำสั่งศธ. สมัยพระเจ้าเหา ระบุชัด กล้อนผมเด็ก ครูทำเกินกว่าเหตุ!
จากประเด็นดราม่าสุดเดือด เมื่อครูโรงเรียนหญิงล้วน แห่งหนึ่งในจ.กาญจนบุรี ที่มีการหั่นผมนักเรียนหญิง ม.ปลาย โดยชาวโซเชียลต่างเกิดคำถามว่า "ครูมีสิทธิอะไรถึงมาตัดผมเด็กขนาดนี้"
เมื่อคลิปวิดีโอที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยเรื่องราวดังกล่าวนั้น ได้มีเพจเฟซบุ๊ก "Black Hat" ได้โพสต์คลิปที่เด็กนักเรียนกำลังถูกครูใช้ไม้บรรทัดวัดแล้วตัดผมที่ไว้ยาวถึงบ่าออก ให้ตัดสั้นเหนือต้นคอ โดยทางเพจได้ตั้งข้อสังสัยว่า การตัดผมนั้นเข้าใจว่าเป็นกฏของโรงเรียน แต่ในคำว่ากฏนั้นควรมีขอบเขต และถ้าเกิดเด็กฮึดสู้ก็กลายว่าเด็กความก้าวร้าวอีก
ซึ่งล่าสุดทางโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดที่เกิดเหตุการณ์ตามในคลิปดังกล่าว ซึ่งทาง นางภาวดี จิตตามัย ซึ่งเป็นผู้ช่วยรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 17 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ถนนหลักเมือง ต.บ้านเหนือ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เกิดเหตุในคลิปเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น นางภาวดี จิตตามัย ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารกิจการนักเรียน โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ได้เล่าว่า เหตุการณ์เกิดวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ทางโรงเรียนกำลังตรวจระเบียบการแต่งกายของเด็กนักเรียนซึ่งตรวจเป็นประจำทุกเดือน ในคลิปที่มีครูผู้หญิงคนหนึ่งใช้กรรไกรตัดผมของเด็กนักเรียนหญิงจนสั้น แท้จริงแล้วเป็นการทำตามกฎระเบียบของโรงเรียนที่ระบุไว้ในคู่มือนักเรียนว่า นักเรียนหญิงทุกคนสามารถไว้ผมยาวได้ไม่เกิน 9 นิ้ว นับจากหูส่วนบนและจะต้องมีการมัดผมให้เรียบร้อยเมื่ออยู่ในโรงเรียน ทางโรงเรียนชี้แจงกับทั้งตัวเด็กนักเรียนและผู้ปกครองตั้งแต่วันปฐมนิเทศแล้ว รวมถึงในการโฮมรูมทุกวันคุณครูก็จะมีการย้ำเรื่องกฎระเบียบดังกล่าว
ส่วนเด็กที่ถูกคุณครูตัดผมนั้น เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ไว้ผมยาวเกินกฎระเบียบ และคุณครูว่ากล่าวตักเตือนหลายครั้งแต่ยังไม่มีการตัดให้ถูกต้องตามระเบียบ เมื่อถูกตรวจพบคุณครูจึงตัดผมเพื่อเป็นการลงโทษ ซึ่งในระหว่างนั้นมีเพื่อนของนักเรียนที่ถูกลงโทษใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปแล้วนำไปโพสต์ลงในโซเชียล จนมีการแชร์ต่อๆ กันไปและเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ หลังเกิดกระแสดังกล่าวทางโรงเรียนได้เรียกนักเรียนในคลิปเข้าพูดคุยทำความเข้าใจและชี้แจงว่าคุณครูทำตามกฎระเบียบของโรงเรียน
แต่การที่นักเรียนนำคลิปไปโพสต์ในโซเชียลจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นการทำให้เสียชื่อเสียงของโรงเรียน จะมีการ หักคะแนนความประพฤติของนักเรียนคนดังกล่าวตามระเบียบ หลังการพูดคุยเด็กนักเรียนคนดังกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ลบโพสต์ในเฟซบุ๊ก แต่มีเพจแชร์เรื่องราวออกไปจนบานปลาย ด้านผู้ปกครองได้โทรศัพท์เข้ามาพูดคุยกับทางผู้อำนวยการแล้ว ทางโรงเรียนย้ำว่าจะมีการลงโทษโดยการตัดคะแนนความประพฤติของเด็ก แต่ไม่ได้มีการลงโทษรุนแรงถึงขั้นไล่ออก
ขณะที่บรรยากาศภายในโรงเรียนหลังเกิดเหตุการณ์ นักเรียนไม่ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด เพราะเข้าใจถึงกฎระเบียบของโรงเรียนเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า นักเรียนส่วนใหญ่ของโรงงานกาญจนานุเคราะห์ ต่างก็ปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียน มีเพียงนักเรียนบางส่วนที่พยายามฝ่าฝืน ซึ่งทางอาจารย์ฝ่ายปกครองได้เรียกมาตักเตือนหลายครั้ง จนมีการตัดผมให้เป็นไปตามระเบียบและมีการเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยเพื่อร่วมกันดูแลเด็กในปกครอง.
ในฝั่งทางด้านของกระทรวงศึกษาธิการนั้น เคยได้ร่างกฏระเบียบเอาไว้ในเรื่องของทรงผมนักเรียน ซึ่งจะว่าไปแล้วก่อนหน้านั้น เคยเกิดประเด็นดราม่าของการตัดผมของนักเรียนมาแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ตามกฏระเบียบของทรงผมนั้นมีมาแล้วอย่างยาวนาน และทุกโรงเรียนก็จะมีกฏของโรงเรียนในระเบียบของทรงผม และก็อยู่ที่ดุลยพินิจของโรงเรียนว่า ระดับไหนไว้ผมยาวได้และไว้ผมยาวไม่ได้ อย่างเช่นกฏระเบียบทรงผมนักเรียนที่ทางกระทรวงศึกาษาธิการได้ร่างไว้
กฎกระทรวงเกี่ยวกับทรงผมนักเรียน โดย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เคยเปิดเผยความคืบหน้าในการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับแบบทรงผมของนักเรียน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2556 รมว.ศธ.กล่าวว่า ขณะนี้กฎกระทรวงที่ใช้อยู่คือ กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ซึ่งระบุว่า ห้ามนักเรียนชายตัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้างและด้านหลังยาวเลยตีนผม ซึ่งได้สอบถามราชบัณฑิตยสถานแล้วว่า "ตีนผม" หมายถึงอะไร เพราะในพจนานุกรมไม่ได้เขียนไว้ชัดเจน ซึ่งราชบัณฑิตยสถานได้บอกว่า ตีนผมคือ ผมด้านหลังที่อยู่บนคอ แสดงว่าการไถเกรียนด้านข้างไม่ใช่อย่างแน่นอน ตีนผมหากพูดถึงรองทรงคือใช่แน่นอน เพราะผมยาวไม่เกินตีนผม
ในส่วนนักเรียนหญิง กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2518) ระบุให้ตัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ยาวเกินกว่านั้นก็ให้รวบให้เรียบร้อย ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติบอกว่า หากปล่อยเช่นนี้โรงเรียนก็ไปกำหนดเอง เกิดความลักลั่น เราจึงจะแจ้งไปยังโรงเรียนต่างๆ ว่า ในส่วนนักเรียนหญิงหากต้องการไว้ผมสั้นก็ไว้ได้ หรือหากต้องการไว้ผมยาวก็ต้องรวบให้เรียบร้อย โดยให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติเหมือนกัน และจะไม่ขัดกับที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติติงมา