- 15 ก.พ. 2562
"บิ๊กโจ๊ก" สั่งชุดฉก.บุกทลายเครือข่าย "สจ.เล็ก เมืองนนท์" นายทุนเงินกู้ทวงหนี้โหด ยึดทรัพย์กว่า 200 ล้าน
จากกรณีที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ได้ร่วมนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นตามหมายค้น เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหานายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหดใน กทม.และปริมณฑล จำนวน 14 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 10 ราย พร้อมของกลาง รถยนต์จำนวน 15 คัน บ้านจำนวน 5 หลัง โรงงานขยะรีไซเคิล 1 แห่ง เครื่องเพชร และทอง จำนวน 14 ราย รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
โดยมีพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 และตำรวจ สตม. ตำรวจท่องเที่ยว และชุด ศปอส.ตร. นำกำลังเข้าจับกุมในครั้งนี้
ล่าสุดทางด้านพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เปิดเผยว่า ในการปฎิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีประชาชนผู้เสียหายมาร้องเรียนนายทุนปล่อยเงินกลุ่มของนายไพโรจน์ นพรัตน์ ซึ่งมีการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ และเรียกดอกเบี้ยโหด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลจับกุมนายไพโรจน์ หลังจากที่ดำเนินคดีกับกับนายไพโรจน์แล้ว พบว่า กลุ่มของนายไพโรจน์ ยังมีพฤติการณ์การปล่อยเงินกู้และทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ลูกหนี้ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมกลุ่มนายไพโรจน์ จำนวน 12 ราย ออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่าย จำนวน 28 ราย ในความผิดฐานอั้งยี่ และเป็นสมาชิกอั้งยี่และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
จากการสืบสวนทราบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า มีนักการเมืองท้องถิ่นและเป็นผู้มีอิทธิพลในเขต จ.นนทบุรี ชื่อ สจ.สมคิด มากวงษ์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “เล็ก เมืองนนท์” เป็นนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลังของการปล่อยกู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับเพื่อจับกุมนายสมคิด พร้อมกับพวก 10 คน เป็นการเก็บดอกเบี้ยแบบหมวกกันน็อคของแก๊งรับจ้าง และผู้มีอิทธิพล ที่ผ่านมาในอดีตการปล่อยดอกเบี้ย การให้กู้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเมื่อมีการจับกุม ส่งฟ้องศาล ออกมาก็จะทำใหม่ แต่วันนี้จะไม่ให้มีกำลังที่จะกลับไปทำอีก โดยนำมาตรการของ ปปง. และภาษี ในการยึดทรัพย์ทั้งหมด
แม้ว่าก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจค้นไปกว่า 30 จุด ยึดทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท วันนี้ยึดทรัพย์อีกรอบกว่า 200 ล้านบาท ทั้งบ้าน ที่ดิน รถยนต์ จำนวน 15 คัน รวมถึงโรงงานขยะรีไซเคิล และจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดไล่ไปถึงตัวการน่าจะไปเกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับประเทศ นอกจากนี้ได้สั่งกำชับพนักงานสอบสวนไม่ให้มีการให้ประกันตัวผู้ต้องหาที่กระทำผิดซ้ำซาก และจะคัดค้านการประกันตัวไปจนถึงชั้นศาล
“กลุ่มนายไพโรจน์ นพรัตน์ ลูกน้องนายสมคิด ออกทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่และเรียกดอกเบี้ยโหด หลังดำเนินคดี พบว่ากลุ่มนายไพโรจน์ ยังมีพฤติกรรมซ้ำซากปล่อยเงินกู้และทวงถามหนี้ ข่มขู่ลูกหนี้โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงขยายผลจนพบว่า มีนักการเมืองท้องถิ่นและเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนนทบุรี ชื่อ สจ.สมคิด มากวงษ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ“เล็ก เมืองนนท์” เป็นนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง
จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับและเข้าจับกุม ซึ่งนายสมคิด ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินและดำเนินการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินทั้งหมด ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และเตรียมขยายผลจับกุมนักการเมืองผู้มีอิทธิพล ปล่อยเงินกู้ในพื้นที่ภาคกลางต่อไป สำหรับการเปิดปฏิบัติการ operation กลุ่มนายทุนหมวกกันน็อค มีผู้ต้องหาตามหมายจับเครือข่ายนายสมคิด จำนวน 50 คน จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 34 คน เหลือ อีก 16 คน”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "บิ๊กโจ๊ก"รวบรองนายกเล็กพะเยา ลอบแฮ็คคอมพ์สตช.ฉกทะเบียนราษฎร์ประวัติบุคคลกว่า500ชื่อ(คลิป)
- เด็ดขาด! "บิ๊กโจ๊ก" สั่งเด้งเพื่อนร่วมรุ่น เซ่นอุยกูร์แหกห้องกักตม. (คลิป)