ตำรวจพาไอ้ฤทธิ์ ทำแผนคดีสาวท้องอ่อน

จากกรณีพบศพหญิงสาวถูกรถจักรยานยนต์ทับร่างซ้ำอีกที โดยสภาพศพถูกไฟไหม้จนเหลือแต่โครงกระดูก และมีเศษเนื้อติดอยู่บางส่วน ส่วนรถจักรยานยนต์ก็ถูกไฟเผาไหม้เช่นกัน ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวจรินยา ช่วยพยัค หรือ น้องปลา อายุ 18 ปี ประกอบอาชีพรับซื้อน้ำยางสด ซึ่งทางญาติได้แจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ผ่านมา

 

 

โดยวันเกิดเหตุ น้องปลาและนายศรายุทธ คงคล้าย หรือ เตอร์ อายุ 35 ปี ผู้เป็นสามีได้ออกไปรับซื้อน้ำยางที่จุดรับซื้อภายในหมู่บ้านตามปกติ ซึ่งจุดรับซื้อน้ำยางห่างจากบ้านพักไปประมาณ 1 กิโลเมตร ต่อมาผู้เสียชีวิตปวดปัสสาวะจึงได้ขับรถจยย.คันดังกล่าว โดยมีหลาน 1 คน ซ้อนท้ายรถกลับมาบ้านเพื่อมาเข้าห้องน้ำ

 

กระทั่ง ตำรวจยังคงพยายามสอบปากคำเค้นความจริงจากสามีของผู้ตาย อายุ 35 ปี เพราะอยู่ด้วยกันก่อนที่ฝ่ายหญิงจะหายตัวไปกลายเป็นศพถูกฆ่าเผา นอกจากนี้ได้เรียกพยานแวดล้อมมาสอบปากคำอีก 7 ปาก ขณะที่ญาติสงสัยว่าสามีน้องปลาจะมีส่วนรู้เห็นกับการตายของภรรยาตัวเอง เนื่องจากที่ผ่านมามักมีเรื่องหึงหวงและเป็นห่วงภรรยามากเกินไป ถึงขั้นไม่ยอมให้ใช้โทรศัพท์ส่วนตัว รวมทั้งไม่อยากให้ออกไปไหนห่างตัวไปไกล และเพิ่งแต่งงานอยู่กินกันได้เพียง 5 เดือนเท่านั้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตร.เจอหลักฐานใหม่โยงเพื่อนบ้านคดีน้องปลา สาวท้องอ่อน
 

โดยก่อนหน้านี้ ชุดสืบสวนได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับ นายพีระพล นวลเสน่ห์ หรือฤทธิ์ อายุ 27 ปี หนุ่มเพื่อนบ้าน หลังพบว่าตามร่างกายมีบาดแผลเป็นรอยขีดข่วนหลายแห่ง เมื่อส่งตัวตรวจดีเอ็นเอก็พบว่าตรงกันกับในที่เกิดเหตุ อีกทั้งกล้องวงจรปิดในร้านทองพื้นที่ สภ.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จับภาพนายพีระพลขณะนำสร้อยทองของเหยื่อไปขาย สุดท้ายเมื่อนายพีระพลถูกจับ จึงยอมจำนนเปิดปากให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าเผาร่าง น.ส.จรินยา จริงๆ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไอ้ฤทธิ์ เพื่อนบ้านจนมุมรับสารภาพคดีสาวท้องอ่อน
 

 ล่าสุด พล.ต.ท.พงษ์วุฒิพงษ์ศรี ผบช.ภ.8  พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์พ.ต.ท.ปิยะวัติ บัวขาว รอง ผกก.สส. นำตัวนายพีระพล นวลเสน่ห์ ผู้ต้องหาฆ่าน.ส.จรินยา ช่วยพยักค์สาว วัย 18 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสภาพ ซึ่งจุดแรกนำตัวไปที่จุดนำทองมาขายที่ร้านทองแม่จำเริญพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.ขุนทะเลอ.เมืองสุราษฎร์ธานี จากนั้นได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุที่อยู่ห่างจากบ้านผู้ต้องหาเพียง 50 เมตร 

โดยนายพีระพล (ผู้ต้องหา) ให้การว่าจุดนี้ ได้ยืนดักรอผู้ตายจากนั้นเมื่อ น.ส.จรินยา ขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุได้เรียกให้หยุดก่อนจะบีบคอและชิงทองไป หลังจากนั้นได้ถีบรถจักรยานยนต์ให้ล้มลงไปในหูข้างทาง และตามไปบีบคอจนแน่นิ่งไป

 

ขณะเดียวกันชาวบ้าน ที่มารอดูการทำแผนเริ่มลุกฮือ เจ้าหน้าที่เห็นแบบนั้นจึงรีบนำตัวต้องหาขึ้นรถตู้ฝ่าฝูงชนหลบหนีออกจากพื้นที่ในทันที โดยทันได้ทำแผนในขั้นตอนของการสังหารและการเผาทำลายศพ

 

นอกจากนี้ ด้านพล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 ได้กล่าวว่า "เบื้องต้นผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริงโดยมีเหตุจูงใจประสงค์ต่อทรัพย์เนื่องจากติดการพนันงอมแงม แต่อย่างไรก็ต้องสอบปากคำและพิจารณาจากหลักฐานอื่นมาประกอบไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้หา และวันนี้ก็มาดูว่าในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีและสถานีตำรวจภูธรกาญจนดิษฐ์ได้ทำการสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญซึ่งในเรื่องนี้ จึงปล่อยไว้ไม่ได้ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด"