ศาลอุทธรณ์เลื่อนพิพากษา บังฟัตพร้อมพวก

จากคดีสุดสะเทือนขวัญ เมื่อปี 2560 กรณีคนร้ายแต่งชุดพรางคล้ายทหารบุกเข้าตรวจค้นภายในบ้าน และใช้อาวุธปืนจ่อยิงคนในบ้านรวม 11 คน ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 8 ราย ประกอบด้วย 1. นายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ 2. นางดวงพร สังหลัง อายุ 35 ปี ภรรยา 3.ด.ญ เพชรดาว สังหลัง อายุ 4 ปี 4. ด.ญ แพรไหมทอง สังหลัง 13 ปี 5. ด.ญ กิ่งเทียน สังหลัง อายุ 8 ปี 6. นายสุริยา พัฒแก้ว อายุ 30 ปี 7. นายสุทธิพงศ์ พริกดำ อายุ  28 ปี 8. นางสาว แอนนา บุตรเติบ 26 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บประกอบด้วย 1. นางอัญชลี บุตรเติบ อายุ 30 ปี 2. ด.ญ รัญชิดา พริกดำ 13 ปี และ 3. ด.ญ รยิดาน์ พริกดำ 5 ปี 

 

 

โดยสาเหตุเกิดจากความแค้นเรื่องที่ดิน ที่ นายวรยุทธ (ผู้ใหญ่)นำไปจำนองกับคนร้าย แต่คนร้ายกลับเอาไปจำนองต่อกับธนาคาร โดยที่เจ้าของเดิมไม่รู้ไม่เห็นเมื่อเอาเงินไปไถ่ถอนเรียบร้อยแทนที่จะคืนใบโฉนดให้แก่กันกลับไม่ดำเนินการคืนให้ จนกลายเป็นความแค้นฝังใจ นำมาสู่การฆ่ายกครัว โดยผู้ต้องหาแต่งกายชุดลายพราง ก็เพื่ออำนวยความสะดวกเวลาเจอด่านตรวจไม่ใช่คนมีสีที่ไหน

 

 

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบด้วย 1.นายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต หรือ โทริ บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41 ปี หัวหน้าแก๊ง 2.นายประจักษ์ บุญทอย 3.นายธนชัย จำนอง 4.นายอรุณ ทองคำ, 5.นายธวัฒชัย บุญคง 6.นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ 7.นายคมสรรค์ เวียงนนท์ และ 8.น.ส.ชลิดา สังข์โชติ ภรรยาอีกคนของบังฟัต ต่อมา ศาลจังหวัดกระบี่ พิพากษาสั่งประหารชีวิต บังฟัต พร้อมพวก 6 คน

 

 

ต่อมา นายจรีย์ บุตรเติบ พ่อตานายวรยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้ทางครอบครัวเตรียมเดินทางไปฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดกระบี่ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ โดยทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนยุติธรรมว่าศาลจะพิพากษายืนโทษตามศาลชั้นต้น คือให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 6 คน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่เหี้ยมโหด และเพิ่มโทษจำเลยอีก 2 คนที่พ้นโทษไปแล้วคือ น.ส.ชลิดา สังข์โชติ ที่ได้รับโทษจำคุก 12 เดือน และนายธวัชชัย บุญคง รับโทษจำคุก 1 ปี 9 เดือน

 

ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ภาค 8 เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว เนื่องจาก บังฟัต และพวก 6 คน ที่อยู่ในเรือนจำนครศรีธรรมราช ไม่ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดกระบี่

 

ทั้งนี้ นายจรีย์ กล่าวอีกว่า ยังเชื่อมั่นในความยุติธรรมของศาลอุทธรณ์ จะยืนคำตัดสินตามศาลชั้นต้น คือ ประหารชีวิต บังฟัต และพวก ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมาเกือบ 2 ปี แต่ตนยังจำเหตุการณ์และความสูญเสียได้ดี