- 14 มิ.ย. 2562
ล่าสุดทางคุณแม่สุขใจ ถิรเมธีกุล คุณแม่ของน้ำตาล พร้อมทั้งพี่สาวและพี่เขย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
จากกรณีของนางสาว บุตรศรัณย์ ทองทิว หรือ น้ำตาล เดอะสตาร์ ดาราสาวชื่อดัง ที่มีอาการเลือดออกจากปากจมูกและกระเพาะอาหารเป็นจำนวนมากก่อนจะหมดสติ และถูกปั๊มหัวใจถึง 2 ครั้งก่อนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ยื้อชีวิต น้ำตาล the star
โดยทีมแพทย์ได้ทำการตรวจพร้อมวางแผนการรักษา เริ่มจากปรับเปลี่ยนกระตุ้นหัวใจและยาเพิ่มความดัน พร้อมให้ยาแก้ไขสภาวะความเป็นกรดด่างของเลือด รวมทั้งมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการเฝ้าระวังสัญญาณชีพอย่างต่อเนื่อง 24 ชม. จนสัญญาณชีพของผู้ป่วยคงที่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แพทย์ศิริราช เผยขั้นตอนเดินหน้ารักษา น้ำตาล The Star
กระทั่งในเวลาต่อมาผู้ใช้ facebook ที่ชื่อว่าฮีโร่เก่าญี่ปุ่น ซึ่งเป็น facebook ของนายวิโรจน์ ทองชิว ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังบิดาของน้องน้ำตาล ได้โพสต์ข้อความว่า "ลูกน้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว จากไปแล้วอย่างสงบและสวยงาม 02.17 น. ขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใย สงสารลูกจับใจ หมวดรัน น้ำตาล เดอะสตาร์"
ทั้งนี้คุณพ่อวิโรจน์ ทองชิว บิดา น้ำตาล เดอะสตาร์ ได้แจ้งข่าวการเสียชีวิตด้วยความอาลัย พร้อมทั้งระบุว่า "ด้วยความปราถนาดีของครอบครัว จึงได้อนุญาต ให้ทางทีมแพทย์ศิริราช นำชิ้นส่วนภายในของน้อง น้ำตาล โดยมีบางชิ้นที่ทางแพทย์สงสัย ไปศึกษา ชันสูตร ต่อไป..เพื่อวันข้างหน้า จะได้มีวิธีรักษา หากมีใครมี อาการแบบเดียวกับโรคน้ำตาล"
อ่านข่าว : พ่อน้ำตาล The Star อนุญาตทีมแพทย์ศิริราช ตรวจสอบเพื่อศึกษาเป็นแนวรักษาคนอื่น
ต่อมาทางด้าน ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แถลงข่าวการเสียชีวิตของน้ำตาล ระบุว่า สำหรับประเด็นเรื่องสมองบวม เกิดจากออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอจึงอักเสบ โดยมีเวลาที่สมองจะบวมขึ้นเรื่อยๆ คือ 72 ชั่วโมง ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่เมื่อรักษาได้อาการบวมจะค่อยๆ ลดลง แต่ระหว่างนั้น อยู่ๆ ความดันเลือดตกลง อาการต่างๆ เริ่มแย่ลง และอาการเข้าสู่วิกฤติ
และไม่สามารถผ่านช่วงดังกล่าวไปได้ เมื่อสมองบวม สมองขยายออกไม่ได้เพราะมีกระโหลกศีรษะ ทำให้สมองจะเคลื่อนลงด้านล่าง ซึ่งมีการควบคุมการทำงานของหัวใจ ปอดอยู่บริเวณนั้น ทำให้อาการทุกอย่างแย่ลง จน น้ำตาล จากไปอย่างสงบเมื่อเวลา 02.17 น. ทุกคนพยายามทำเต็มที่แล้ว แต่สถานการณ์เป็นแบบนี้
ขณะที่ทางครอบครัวได้นำศพของน้ำตาลกลับบ้านเกิด ใน จ.สมุทรสาคร เพื่อทำพิธีทางศาสนา โดยจะมีกำหนดการสวดพระอภิธรรมของที่วัดป้อมวิเชียรโชติการาม จ.สมุทรสาคร ในเวลา เวลา 19.00 น. และจะมีการฌาปนกิจในวันที่ 18 มิ.ย. เวลา 17.00 น.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กำหนดการพิธีบำเพ็ญกุศลศพ น้ำตาล เดอะสตาร์
ล่าสุดทางคุณแม่สุขใจ ถิรเมธีกุล คุณแม่ของน้ำตาล พร้อมทั้งพี่สาวและพี่เขย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ ศาลา 2 เทพกาญจนา วัดป้อมวิเชียรโชติการาม พระอารามหลวง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เชื่อว่าลูกจากไปอย่างมีความสุข เพราะเขามาลาพวกเราอย่างสดใส ทำให้ครอบครัวสบายใจมากขึ้น แม้จะยอมรับว่า การสูญเสียในครั้งนี้ มันกะทันหันเกินไป
เสร็จพิธีรดน้ำศพไปเรียบร้อยแล้ว เราได้พูดอะไรกับน้องบ้างไหม
คุณแม่ : ก็บอกให้น้องไม่ต้องเป็นห่วงแม่ แม่แข็งแรง แม่อยู่ได้ พี่ผึ้งดูแลแม่ได้ เพราะว่าไม่อย่างนั้น น้องจะเป็นห่วง กลัวเขาจะกังวล เราก็อยากให้เขาหมดห่วงหมดกังวล”
เมื่อคืนก่อนที่น้องจะไป มีลางสังหรณ์อะไรไหม เพราะตอนนี้เหมือนสัญญาณมันเริ่มดีขึ้นแล้ว
คุณแม่ : “ไม่มีเลย เพราะส่วนใหญ่น้องเขาจะนิ่ง คือไปเรียกไปอะไรก็ไม่มีการตอบสนอง”
พี่สาว : “ก็คือเหมือนที่คุณหมอบอกไป ว่าอาการของน้องยังจะต้องเฝ้าระวังเป็นนาที ถึงจะดีขึ้นแล้ว แต่เราไม่มีทางรู้เลย ว่ามันจะไปในทิศทางไหน ซึ่งเราก็ไม่คิดว่าเราจะเป็นแบบนี้ เมื่อคืนเราก็เรียกชื่อเขาค่ะ ทำทุกอย่างที่คิดว่ามันจะทำให้เขากลับมาได้ เราก็คิดว่าเขารับรู้ค่ะ ถึงเขาจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง อย่างตอนที่คุยกับเขา เราก็มีเปิดเพลงที่เขาเคยสอนหลาน น้องไอริช ในเพลง You are my sunshine นานแล้ว ก็เป็นเพลงที่เขาจะร้องกันประจำ ซึ่งเขาจะรักหลานมาก เราก็เอาเพลงนี้มาเปิด คือผึ้งอัดไว้นานแล้ว แต่เขายังไม่เคยได้ฟังเลย เราก็ลองเอามาเปิดดู เผื่อว่ามันจะมีปฏิหาริย์ ว่าเขาจะรับรู้ เขาจะอยากกลับมา”
ถือว่าครอบครัวทำเต็มที่ที่สุดแล้วใช่ไหม
คุณแม่ : “ใช่ คุณแม่ก็ทำเต็มที่แล้วค่ะ มอบสิ่งดีๆให้น้อง”
สภาพจิตใจของคุณพ่อตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
คุณแม่ : “คุณพ่อตอนนี้เขาก็เซนซิทีฟเยอะนะ ก็เหมือนกัน พยายามเก็บให้มากที่สุด เพราะเขาก็ไม่อยากให้น้องเห็นไง ว่าไม่ไหว”
ภายในครอบครัวให้กำลังใจกันเองอย่างไรบ้าง
พี่สาว : “จริงๆที่บ้านพูดไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นะคะ ไม่ค่อยจะหวานอะไรเท่าไหร่ เราจะใช้วิธีการอยู่ด้วยกัน คือผึ้งรู้แหละว่าแม่กับตาลสนิทกัน แทบจะตัวติดกัน 24 ชั่วโมง เพราะว่าผึ้งแต่งงาน แล้วก็ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับเขา ก็จะมีแค่แม่กับตาล บวกกับช่วงนี้น้องสาวคนเล็ก น้องน้ำทิพย์ไปอยู่ต่างประเทศ ก็เลยรู้ว่าเขาต้องการใครสักคน ตอนนี้ก็เลยมาอยู่กับเขาก่อน ก็ให้กำลังใจไป”
ขออนุญาตถามถึงน้องสาวคนเล็กจะกลับมาร่วมพิธีไหม
พี่สาว : “เขาอยากกลับมาค่ะ แต่คงไม่ได้มา”
คุณแม่ “เขาเพิ่งไปด้วย แล้วกว่าจะมา ไม่รู้จะมาถึงทันไหม แต่เขาก็อยากมา”
น้ำผึ้ง “ตอนแรกผึ้งไม่ได้จะบอกเขา แต่ด้วยความที่มันปิดไม่มิด ก็เลยตัดสินใจบอกเขา เขาก็ร้องไห้ เพราะเขาก็สนิท เพราะมีกันอยู่แค่นี้ แต่ผึ้งก็เลือกที่จะบอก แล้วก็บอกอาการเขาเป็นระยะ เขาก็เลยค่อยๆพอจะทำใจได้
ยังติดใจสาเหตุของโรคไหม
พี่เขย : “คือตอนนี้ในเรื่องโรค เมื่อตอน 02.17 น. เราก็ได้คุยกับทางแพทย์ แล้วรู้ว่าโรคที่เกิดถ้ามันหาคำตอบได้ คือเอาตามตรงตัวเราไม่ได้ติดแล้ว เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดที่เราคาดหวังมันก็ผ่านจุดนั้นไปแล้ว แต่เราอยากให้เรื่องนี้เป็นวิทยาทานต่อไป สำหรับคนอื่นๆ อย่างน้อยเขาจะได้ป้องกันได้ ว่าทำยังไงให้มันไม่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเราตัดสินใจแบบนั้น เราทราบอยู่แล้วที่คุณหมอบอกคุณหมอไม่ได้ติดตรงนี้ (ปอด) เพราะสแกนหมดแล้ว
ติดแต่ตรงช่วงระบบทางเดินหายใจ ซึ่งตอนนั้นวิธีการทำก็คือการผ่า แล้วมันเป็นเรื่องที่คุณแม่หรือตัวน้องเอง ไม่ชอบอยู่แล้ว ที่นี้เราก็เลยลองคุยกันดูว่ามีวิธีอื่นอีกไหม สุดท้ายวิธีที่เหมาะสมที่สุดคือการสอดแล้วก็ตัดเนื้อเยื่อส่วนที่น่าสงสัยออกไป ซึ่งเราทำไปเรียบร้อย แล้วตอนนี้คุณหมอก็ได้เจ้าอันที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้อาการนี้เกิดขึ้น มาจากระบบหายใจแล้ว ที่คิดว่าน่าจะเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ แล้วคุณหมอก็กำลังวิเคราะห์กันอย่างเต็มที่หลังจากตัดชิ้นส่วนนั้นไปแล้ว ว่ามันคืออะไร แล้วจะมีวิธีป้องกันยังไง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป เราก็ต้องขอบคุณคุณหมอด้วยที่เลือกวิธีที่ไม่รุนแรงและไม่กระทบต่อร่างผู้เสียชีวิต ทุกคนก็รู้สึกดี เราก็รู้สึกดีใจ ที่มันมีความเป็นไปได้แล้วที่จะเริ่มศึกษาตัวโรคนี้ต่อไป แล้วก็มีประโยชน์ต่อคนอื่นที่ยังไม่เกิดขึ้นกับเขา มันก็เป็นบุญที่น้องได้”
มีข่าวเรื่องบริจาคร่างกายจริงหรือเปล่า
พี่เขย : “ผมก็ไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหน ที่สุดตอนนี้ผมถือเป็นคำตอบคอนเฟิร์มที่สุด 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าเรามีการสอดกล้อง ผ่าตัดแล้วก็เอาชิ้นส่วนที่อันตรายที่น่าจะเป็นสาเหตุของต้นเหตุ ตัดออกไปแล้ว โดยคุณแม่ยินยอมทุกอย่าง แค่ไม่ไปทำลายหน้าของน้อง แต่ที่เหลือทำหมดแล้ว ทั้งการสอด ทั้งการเจาะ ทั้งการผ่า เราอยากให้เขาไปสวยๆ”
ช่วงระหว่างที่น้องเสียชีวิต มีปาฏิหารย์บางอย่างเหมือนโทรศัพท์ดังขึ้น
พี่สาว : “อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร ตัวเพลง You are my sunshine มันอยู่ในโทรศัพท์ และ รับโทรศัพท์มันสามารถลิ้งกับบูทูธในรถ ขับรถจอดอยู่”
พี่เขย : ปกติผมไม่เคยลิ้งบูทูธเลย ใช้โทรปกติ อยู่ดีๆ ได้ยินครั้งแรกผมก็ตกใจ เป็นเสียงคลอเบาๆ ผมก็สงสัยว่าเสียงมาจากไหน ผมหยิบมือถือขึ้นมาผมไม่เจอ ผมหาและรู่ว่ามันไปดังจากบูทูธรถ แล้วมันปิดไม่ได้ จนมันรันเองครบ 2 รอบ มันก็ปิด ผมเลยคิดว่า ตาลคงอยากฟัง ก็คงอยากจะแบบ... เราไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร”
คุณแม่ : เป็นเสียงน้องไอริช มันเหมือนเสียงเร่งดังขึ้น ตอนนั้นเราขับไปจอดที่โรงงาน เรากลับมาจากโรงพยาบาล เราไปเอาชุดมาให้น้องเปลี่ยน พอน้องเสียเราก็รีบ พอเข้าบ้านเท่านั้นแหละ ยังบอกว่าเต้เป็นทำรึเปล่า เต้ก็บอกไม่ได้โดนเลยแม่ เต้พยายามปิดก็ไม่ได้ ดังแล้วก็วนมาใหม่”
พี่เขย : “คิดว่าเป็นสัญญาณที่ดี เขาอาจรับรู้ทุกอย่าง ตอนนั้นอาจจะฟังไม่ถนัด คงอยากฟังอีกรอบสองรอบ”
คุณแม่ : “เต้บอกแม่ว่าไม่ต้องห่วงตาลแล้ว มันไม่ได้เศร้าเลยมันเป็นคนมีความสุข”
พี่เขย: “มันเป็นวิธีการของเขาเลย เป็นวิธีการตลกน่ารักๆ”
คุณแม่ : “ตัวเขาเป็นแบบนี้ บอกลาไปอย่างสดใส นี่คือตัวตนเขา”
ในความเศร้าแต่มีคนรักน้องมาก ส่งกำลังใจเยอะมาก
คุณแม่ : “ก่อนหน้านี้แม่ไม่ได้อะไรนะ แต่ตอนนี้ทำไมคนรักเยอะจัง ดีใจและขอบคุณ ทุกกำลังใจ ของคุณสื่อที่ติดตามข่าวน้อง ขอบคุณมากๆ”