มอเตอร์รับจ้าง ส่งข้อความถึงนายกรัฐมนตรี

จากกรณีคดีทะเลาะวิวาทของกลุ่มวิน จยย. ปากซอยสุขุมวิท 103 สองวินรถจยย.ยกพวกทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธปืนยิงกันจนมีผู้ถูกลูกหลงเสียชีวิต คือ นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : วินจยย. ปิดถนน ก่อเหตุ ต่อหน้าตำรวจ

ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.บางนา ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก นายเจริญ เจริญผล ผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 1 ราย โดยแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เนื่องจากมีพฤติการณ์ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า เพื่อข่มขู่คู่กรณีไม่ให้เข้ามาในซอย จากนั้นผู้ต้องหาได้กพอาวุธปืนไปซุกซ่อนไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดอาวุธปืนดังกล่าว 

 

 

ผู้ต้องหารับว่าเป็นของตนจริง และไม่มีใบอนุญาต จึงแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ศาลพิจารณาและสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 แล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปคุมขังที่เรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ ตามกฎหมายต่อไป

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : วินยกพวกทะเลาะวิวาท ตร.ยันรวบแล้ว 3 ราย

 

 

ต่อมา ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำชาวบ้าน 1 ราย ที่อาศัยอยู่ในซอยอุดมสุข ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุจักรยานยนตร์รับจ้างทะเลาะวิวาท จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมีเจ้าหน้าที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เป็นผู้รับหนังสือ
 

 

ทั้งนี้ นายรณณรงค์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หวาดกลัวอย่างมากว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นมาอีก จึงเดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ 3 ข้อ คือ 1.ขอให้นายกฯ ส่งทหารมาคุ้มครองความปลอดภัยคนในพื้นที่จนถึงออกมาตรการคุ้มครองพยาน 2.ขอให้สั่งตั้งคณะกรรมการที่ทหารร่วมด้วยเข้าแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 3.ขอให้ตรวจสอบ ปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทั้งนี้อันที่จริงแล้วเมื่อช่วงเช้าชาวบ้านได้เตรียมตัวเดินทางมายื่นหนังสือกันราวๆ 10 คน แต่หลายรายได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงอยู่ระหว่างการสอบพยานหลักฐานไม่มาก

 

 

ด้านตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ตนมีอาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้างในซอยอุดมสุข แต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุทะเลาะวิวาทด้วย ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องอิทธิพลมานานแล้ว แต่ไม่ถึงกับขนาดนี้ และที่ต้องมายื่นหนังสือร้องเรียนในวันนี้ เพราะว่าหลังจากที่เกิดเหตุ ในซอยเงียบมากจนน่ากลัว ชาวบ้านต่างก็หวาดกลัว จึงอยากให้นายกฯ ช่วยสิ่งทหารเข้าไปช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ด้วย ซึ่งการที่เราเรียกร้องให้ทหารเข้าไปดูแลไม่ได้เป็นเพราะไม่ไว้เข้าใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียวไม่น่าจะคุมสถานการณ์ได้ หากมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปจะได้อุ่นใจ

 

 
และเมื่อถามว่า ผู้ร้องเป็นคนในพื้นที่หรือไม่ ด้านผู้ร้อง กล่าวว่า ตนเป็นเป็นญาติของผู้เสียชีวิต และเมื่อถามต่อว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ร่วมก่อเหตุจริงหรือไม่ ผู้ร้องตอบว่า “ใช่”

 

 

นอกจากนี้ ผู้ร่วมก่อเหตุอีก 8 คน ได้เข้ามามอบตัวแล้ว ซึ่งทุกคนเป็นคนที่มีภาพปรากฎในคลิปวีดีโอ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สน.บางนา อยู่ระหว่างสอบปากคำทั้งหมด ก่อนจะนำผู้ต้องหาไปส่งศาลดำเนินคดี

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : วินาทีฝากขัง ผู้ต้องหาคดีวินจยย.

 

 

 

ทั้งนี้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนยังอยู่ระหว่างการประชุม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอออกหมายจับผู้ต้องหาที่มีส่วนร่วมในการวางแผนก่อเหตุในคดีนี้อีกหลายคน ซึ่งยังไม่ระบุจำนวน และมีกระแสข่าวว่า นายประมุข ได้ส่งทนายความไปพบตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าจะเข้ามอบตัวหลังอาการบาดเจ็บทุเลาลง

 

 

 

ด้าน พล.ต.ต.มงคล สุวรรณโณ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาสำหรับผู้ต้องหาที่เข้ามามอบตัวแล้วทั้ง 8 คนแล้ว อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เพื่อพิจารณาว่าจะต้องแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ จึงยังต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ก่อนและยังไม่นำตัวไปส่งศาลในวันนี้ ส่วนนายประมุข วิเชียรดิลกกุล ซึ่งเป็นหัวหน้าวินซอยอุดมสุข 1 และมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพลนั้น ยังไม่ได้มีการติดต่อมามอบตัวแต่อย่างใด ซึ่งในขณะนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างการพิจารณาขอหมายค้นบ้าน นายประมุข ในวันนี้ต่อไป

 

 

 

พลตำรวจตรีมงคล วรุณโณ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 นำหมายค้นเข้าค้นบ้านของนายประมุข วิเชียรดิลกกุล ในซอยอุดมสุข 26 หัวหน้าวินรถจักรยานยนต์หนึ่งในผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี โดยเป็นการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีพร้อมกับหาหลักฐานอื่นๆ ซึ่งการตรวจค้นไม่พบสิ่งที่เป็นเป้าหมาย และจากการพูดคุยกับญาติ ทราบว่านายประมุขพร้อมที่จะมอบตัว แต่อยู่ระหว่างเตรียมหลักทรัพย์ในการประกันตัว

 

 

 

ขณะที่อีกหนึ่งจุดบริเวณ ซอยเฉลิมพระเกียรติแยก 10 ตำรวจเข้าตรวจสอบบ้านผู้ต้องสงสัย และควบคุมตัวมาสอบปากคำ 1 คน คือ นายคาม กลุ่มวินอุดมสุข 1 ที่เชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นว่าใครเป็นผู้วางแผน จัดเตรียมอาวุธไปใช้ก่อเหตุ   

 

 

และในรายการโหนกระแส ช่อง 28 วินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาท เปิดใจยอมรับว่าเป็นวินที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนจริง ซึ่งทางกลุ่มยื่นขอขึ้นทะเบียนมาแล้วหลายรอบ แต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีที่ตั้งวิน ส่วนสาเหตุทะเลาะวิวาท มาจากที่นายประมุข หัวหน้าวิน ข่มขู่และเรียกเก็บค่าเช่า และยังพาพวก 80 กว่าคน จะมายึดวินจึงเกิดเหตุขึ้น 

 

 

ขณะที่แม่ของนายประมุขให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ไปทางแม่ของนายประมุข ซึ่งปฏิเสธว่าลูกชายไม่ได้แย่งวินมาเป็นของตนเอง และยืนยันว่าอดีตเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับบ่อนจริง แต่เลิกมานานแล้ว ไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพล  

 

 

 

ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กำชับ ที่ประชุม ครม.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเอาผิดให้ถึงที่สุด เหตุวินมอเตอร์ไซต์ยกพวกตีกัน เผยรับไม่ได้ตีกันในพื้นที่สาธารณะ ต้องลงโทษโดยเด็ดขาด หาตัวผู้กะทำผิดให้ได้