หนุ่มโพสต์ ขับรถชนคู่กรณี ต้องจ่ายค่าซ่อมไม่เกิน 20,000 แต่พอใบเรียกเก็บเงินมา ไม่เหมือนที่คุยกันไว้?

วันนี้ (28 พ.ย.) เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Jirapong Atispan ได้มีการโพสต์อุทาหรณ์ที่ตัวเองไปเจอมา โดยระบุว่า อยากแชร์ไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ขับรถแล้วไม่มีประกันนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 

ผมกำลังขับรถกลับบ้านช่วงสายๆ แต่เกิดอุบัติเหตุไปชนตูดรถคู่กรณีเข้าอย่างจัง แถวเส้นวิภาวดี รถผมเก๋ง Tiida คู่กรณี Pajero สถาพรถคู่กรณีกันชนหลังล่าง แก้มซุ้มล้อ ฝากระโปงบุบนิดหน่อย ส่วนของผมรถเล็กเป็นค่อนข้างเยอะ และประกันผมหมดด้วย ประกันคู่กรณีมาถึงก็ถามผมว่ารถมีประกันมั้ย และประเมินค่าเสียหายเบื้องต้น แจ้งผมว่า ค่าซ่อมที่จะเรียกเก็บกับผมประมาณ 12,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000 บาทแน่นอน และจะมีเอกสารไปเรียกเก็บหลังจากซ่อมเสร็จ ผมก็โอเคตกลงไป และไปเสียค่าปรับที่สน. 400 บาท ข้อหาขับรถโดยประมาท หลังจากนั้นเรื่องผ่านไปนานจนลืมไปแล้ว ช่วง มิถุนายน 62 มีเอกสารเป็นใบเรียกเก็บเงิน จากบริษัทประกันคู่กรณี คล้ายใบเสร็จมียอดทวงถามพร้อมเลขบชมาเรียบร้อย ยอด 52,xxx บาท 

ผมเห็นว่าเยอะมาก แล้วไม่เหมือนที่คุยกันไว้ เพราะตอนแรกบอกไม่เกิน 20,000 บาทเลยโทรไปสอบถาม เพราะในใบไม่มีแจ้งรายการอะไรเลย ไม่มีรูป ไม่มีการแจ้งก่อนซ่อม มีแต่ยอดเงิน เจ้าหน้าที่ให้แอดไลน์ไป แล้วก็ส่งเอกสารให้ดูว่ามีการซ่อมอะไรบ้าง ผมเห็นว่าบางรายการเป็นการแจ้งซ่อมที่เกินไปมาก และไม่ได้เกิดจากเหตุการที่ผมชนแน่นอน จึงมีการต่อรอง ไปที่ราคา 20,000-25,000 บาท แต่ทางเจ้าหน้าที่ไปประสานมา แล้วแจ้งมาว่าไม่ได้ (ตอบกลับมาจากต่อรองไปประมาณ 2 สัปดาห์) จึงขอส่งฟ้องเรียกค่าเสียหาย ที่ยอด ห้าหมื่นกว่า จนเดือนประมาณเดือนกันยายน 62 มีใบนัดหมายศาลมาให้ไปไกล่เกลี่ยตามยอดแรก ซึ่งผมก็ไปตามนัดไกล่เกลี่ย และต่อรองมาได้เพียงเท่านี้ เจ็บจี๊ดๆ

แค่อยากจะบอกทุกคนว่า ถ้าหากเกิดเหตุการแบบนี้ มีเจ้าหน้าที่พูดแบบนี้ มีวิธีทำคือ สมมติว่า ชนตรงนั้นเจ้าหน้าที่บอกว่า ประเมินมา 12,000 บาท ให้เราเขียนเอกสารขึ้นมาเลย แล้วให้เจ้าหน้าที่เซ็นรับรองไว้ หรือจ่ายเงินแล้วเขียนรายละเอียดลงไปเลย เช่น ข้าพเจ้าได้ขับรถชนท้าย และทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งยอดค่าซ่อมแล้วเป็นจำนวนเงิน 12,000 บาทและข้าพเจ้าได้ชำระแล้ว ถือว่าเอกสารนี้เป็นการยืนยันว่าข้าพเจ้าไม่ติดค้างอะไรกับทางบริษัทและไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายใดๆให้อีก และไปให้ตำรวจที่สน.ใกล้เคียงเซ็นด้วย หรือเซ็นรับรู้ และเขียนยอดไว้ว่าจะไปจ่ายวันไหน เพราะหากปล่อยไว้ คำพูดลมๆแล้งๆ ไม่มีหลักฐาน อาจจะเสียเปรียบ และโดนแบบผมก็เป็นได้ (ท่านผู้พิพากษาแนะนำมา)