"ดร.สามารถ" ยิ่งคาใจหนัก คำอธิบาย ทอท. เรื่องแผนเคิร์บไซด์ เทอร์มินัล 2 สุวรรณภูมิ กระทบความปลอดภัย?

ถึงนาทียังคงมีความชัดเจนในระดับสำคัญ ว่า  บริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.จะเดินหน้าโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ของสนามบินสุวรรณภูมิต่อไป  แม้ว่าจะมีหลายกระแสเสียงคัดค้านในหลายปัจจัยองค์ประกอบ

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ  :  อ่านให้กระจ่าง ทำไม ดร.สามารถ ค้านวิธีคิดแบบ ทอท. ดันเทอร์มินัล 2 ตัดแปะ? )

ล่าสุด   ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ได้โพสต์แสดงความเห็น ต่อประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติม  ในหัวข้อ  สร้างเทอร์มินัล ต้องระวัง  “คาร์บอมบ์” โดยมีใจความสำคัญระบุว่า  "ผมได้ฟังคลิปการให้สัมภาษณ์ของ ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จากรายการเศรษฐกิจ Insight  “North Expansion คุ้มค่า  แก้สนามบินสุวรรณภูมิแออัด”  ทางสถานีโทรทัศน์ TNN  เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562   แล้วพบว่ามีหลายประเด็นที่อยากตอบโต้    แต่หากได้มีโอกาสพูดคุยพร้อมกันจะทำให้ไม่ต้องเสียเวลามาตอบโต้  ผู้ชมผู้ฟังก็จะได้รับข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่ายในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะทำให้สามารถพิจารณาได้ทันทีว่าข้อมูลและเหตุผลของใครน่าเชื่อถือกว่ากัน

 

สำหรับการโพสต์ครั้งนี้ ผมขอโต้แย้งประเด็นที่ ดร.นิตินัย กล่าวโดยสรุปได้ความว่า หากขยายเทอร์มินัล 1 ออกไปทั้งสองด้านแทนการก่อสร้างเทอร์มินัล 2 ตัดแปะ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและองค์กรวิชาชีพหลายองค์กร  เสนอจะไม่มีที่จอดรถข้างขอบทางเท้า (Curbside หรือ เคิร์บไซด์) ซึ่งอยู่ด้านหน้าเทอร์มินัล 1 ดังจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันรถที่ต้องการไปรับญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูง จะจอดรออยู่ข้างทางด้านซ้ายบนทางยกระดับก่อนถึงเทอร์มินัล 1 เนื่องจากเขาไม่มีที่จอดรถที่เคิร์บไซด์นั่นเอง

 

ผมได้ฟังความเห็นของ ดร.นิตินัยแล้ว  ไม่เข้าใจว่าเหตุใด ดร.นิตินัย ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของ ทอท.จึงให้สัมภาษณ์ออกไปเช่นนั้น จะคิดว่าไม่รู้บทบาทหน้าที่ของเคิร์บไซด์ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่อะไรทำให้ท่านให้ความเห็นออกไปเช่นนั้น ไม่อาจคาดเดาได้  ที่น่าเป็นห่วงก็คือจะทำให้ผู้ชมผู้ฟังเข้าใจคลาดเคลื่อนตามไปด้วย

 

ในความเป็นจริง  เคิร์บไซด์มีไว้ให้รถหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารเท่านั้น ไม่ให้รถจอดแช่เป็นเวลานาน ซึ่งหากออกแบบเคิร์บไซด์ไว้ให้รถจอดแช่ก็ไม่สามารถรองรับรถได้เพียงพอ ไม่ว่าเคิร์บไซด์จะยาวแค่ไหนก็ตาม ถึงแม้ว่า ทอท.จะดึงดันพยายามสร้างเทอร์มินัล 2 ตัดแปะให้ได้ ก็จะไม่สามารถมีเคิร์บไซด์ที่ยาวเพียงพอได้หากจะให้รถจอดแช่ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของ ทอท.ที่จะต้องเข้มงวดกวดขันไม่ให้มีรถจอดแช่ที่เคิร์บไซด์ทั้งขาเข้าและขาออก

 

ส่วนกรณีที่ ดร.นิตินัย อ้างว่ามีรถจอดแช่เพื่อรอรับญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงที่ข้างทางด้านซ้ายบนทางยกระดับก่อนถึงเทอร์มินัล 1 เป็นเพราะเคิร์บไซด์มีความยาวไม่เพียงพอนั้น ในความเป็นจริงเป็นเพราะเขาไม่ได้รับอนุญาตให้จอดแช่ที่เคิร์บไซด์หน้าเทอร์มินัล 1 และเขาไม่ต้องการเข้าไปจอดในอาคารจอดรถด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ไม่ใช่เป็นเพราะเคิร์บไซด์มีความยาวไม่เพียงพอ

 

ข้อมูลสำคัญที่ผมอยากจะบอก ดร.นิตินัย ให้เปิดใจรับรู้ก็คือการออกแบบเคิร์บไซด์จะต้องไม่ให้อยู่ติดหรืออยู่ใกล้กับเทอร์มินัล เพราะจะทำให้มีโอกาสเกิดคาร์บอมบ์ได้ง่าย และจะส่งผลทำลายเทอร์มินัลได้สูง ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นว่าเคิร์บไซด์หน้าเทอร์มินัล 1 ของสนามบินสุวรรณภูมิ จึงมีช่องว่างระหว่างเคิร์บไซด์กับเทอร์มินัล 1 เป็นระยะประมาณ 25 เมตร เพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นจาก “คาร์บอมบ์” 

อีกทั้ง สนามบินที่สร้างใหม่ทั่วโลกก็ยึดถือหลักเกณฑ์เดียวกันนี้  กล่าวคือจะออกแบบไม่ให้รถจอดรับส่งผู้โดยสารอยู่ติดหรืออยู่ใกล้กับเทอร์มินัล โดยกำหนดให้รถขนาดใหญ่จะต้องอยู่ห่างเทอร์มินัลมากที่สุด นอกจากนี้ จะไม่นิยมสร้างที่จอดรถใต้เทอร์มินัล เพราะหากมี “คาร์บอมบ์” เกิดขึ้น จะส่งผลทำลายเทอร์มินัลได้สูง

ด้วยเหตุผลดังกล่าว การออกแบบเคิร์บไซด์ของเทอร์มินัล 2 ตัดแปะในพื้นที่แคบๆ ที่อาจจะมีเคิร์บไซด์วนรอบเทอร์มินั  ล จึงเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง นอกเหนือจากปัญหาอื่นๆ ที่ผมเคยกล่าวมาแล้ว  ทั้งหมดนี้ ด้วยความห่วงใย ไม่อยากให้เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ เปิดช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีฉกฉวยโอกาสวางแผนก่อวินาศกรรมด้วย “คาร์บอมบ์”