- 13 เม.ย. 2563
สืบเนื่องจากที่รัฐบาลเริ่มที่จะทยอยโอนเงินมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) ที่เปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ให้กับ ปชช. ไปบ้างแล้ว ซึ่งทำให้มีดราม่าต่างๆ ตามมามากมาย ซึ่งนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท หลังจากการตรวจสอบและคัดกรองตามหลักเกณฑ์แล้วพบว่าในรอบที่ 1 ได้มีการตรวจสอบคัดกรองไปแล้ว 7.99 ล้านรายโดยจากจำนวนนี้สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
สืบเนื่องจากที่รัฐบาลเริ่มที่จะทยอยโอนเงินมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) ที่เปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ให้กับ ปชช. ไปบ้างแล้ว ซึ่งทำให้มีดราม่าต่างๆ ตามมามากมาย ซึ่งนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท หลังจากการตรวจสอบและคัดกรองตามหลักเกณฑ์แล้วพบว่าในรอบที่ 1 ได้มีการตรวจสอบคัดกรองไปแล้ว 7.99 ล้านรายโดยจากจำนวนนี้สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
อ่านข่าว - โฆษกคลัง แจ้งแล้วคัดกรอง เยียวยา 5,000 ชุดแรก เกือบ 8 ล้าน เกินครึ่งรอรับ sms ไม่ผ่านเกณฑ์
ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท เปิดเผยถึง กรณีที่ระบบคัดกรองคุณสมบัติผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาท โดยระบบระบุว่าไม่ได้รับสิทธิ เนื่องจากเป็นเกษตรกร ซึ่งประชาชนบางส่วนมีข้อสงสัยในระบบการคัดกรอง เพราะตนไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกร ตามที่ระบบระบุข้างต้น จึงขอชี้แจงในเบื้องต้นว่า
1.เกษตรกรจะมีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทุกปีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่คือกรมส่งเสริมการเกษตร
2.การขึ้นทะเบียนจะเป็นราย “ครอบครัว” โดยให้หัวหน้าครอบครัวเป็นคนขึ้นทะเบียน
3.ในการกรอกรายละเอียดสมาชิกในครอบครัว จะให้ระบุด้วยว่ามีสมาชิกในครอบครัวกี่คน? เป็นใครบ้าง? และสมาชิกในครอบครัวที่ช่วยทำเกษตรเกษตรกรรมมีกี่คนคือใครบ้าง?
4.มาตรการเยียวยา 5,000 บาท ระบบจะคัดกรองหัวหน้าครอบครัวที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและสมาชิกในครอบครัวเฉพาะที่ช่วยทำเกษตรกรรม ว่าประกอบอาชีพเกษตรกร จึงไม่ผ่านเกณฑ์
5.ที่ผ่านมารัฐบาลใช้ฐานข้อมูลเกษตรกรชุดเดียวกันนี้ในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นค่าเพาะปลูก ค่าเก็บเกี่ยว ค่าปัจจัยการผลิต เป็นต้น
6.จะมีมาตรการเยียวยากลุ่มเกษตรกรโดยเฉพาะออกมาเร็วๆ นี้
เนื่องจากก่อนหน้านั้น โลกออนไลน์มีการโพสต์และแชร์ข้อความของผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 5,000 บาท โดยบางรายได้รับการตอบกลับว่า เป็นเกษตรกรบ้าง เป็นนักศึกษาบ้าง ไม่ได้รับผลกระทบบ้าง โดยหนึ่งในนั้นคือผู้ที่ใช้เฟสบุคชื่อ อำนาจ สายแก้ว ที่บอกว่าตนเองทำอาชีพค้าขาย แต่กลับได้รับข้อความตอบกลับว่าตนไม่ได้รับสิทธิ์ เนื่องจากเป็นเกษตรกร โดยได้โพสต์ข้อความว่า “นี่หรือคัดกรองด้วยระบบ AI ไม่มีไร่ มีนา มีสวน แล้วบอกว่าเป็นเกษตรกร”
โดย นายอำนาจ สายแก้ว อายุ 39 ปี เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพค้าขายตามตลาดนัดต่างๆ ต่อมาโรคโควิด-19 ระบาด รัฐบาลได้ขอให้มีการปิดตลาดนัดชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าจะมีการระบาดและติดต่อโรคเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ตนไม่มีรายได้เลย ต้องหันมาทำอาหารกล่องหารายได้มาใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อรัฐบาลได้เปิดให้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ตนก็ได้ลงไว้ตั้งแต่ในวันแรก
กระทั่งเมื่อวานได้รับ SMS ตอบกลับมาว่า ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท เนื่องจากเป็นเกษตรกร ตนจึงงงเป็นอย่างมาก เพราะตนมีอาชีพค้าขาย ในครอบครัวไม่เคยมีใครเป็นเกษตรกร หรือไปลงทะเบียนอะไรเกี่ยวกับการเกษตรเลย และนอกจากนั้นเพื่อนของตนเองที่ประกอบอาชีพขับรถสองแถวมาตั้งแต่สมัยพ่อ-แม่ ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ โดยแจ้งว่าเป็นเกษตรกร เช่นเดียวกัน
ตนจึงมีความมั่นใจว่า ระบบน่าจะมีความผิดพลาด จึงอยากจะขอให้รัฐบาลทบทวนหรือดำเนินการให้รอบคอบ รัดกุมมากกว่านี้ ขณะนี้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จะไปขอรับความช่วยเหลือด้านเกษตรกรก็ไม่น่าจะได้ เพราะตนไม่เคยไปลงข้อมูลอะไรเกี่ยวกับการเกษตรเลย
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายราย อาทิผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ทำงานภาคเอกชนอยู่ในระบบประกันสังคมมา 15 ปี ออกมาทำกิจการส่วนตัว จดทะเบียนการค้า เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มา 13 ปี มาวันนี้ ผมเป็นเกษตรกรครับ โครงการเราไม่ทิ้งกัน ทั้งที่ตนเองตัดยางไม่เป็น ทำสวนไม่เป็น ปลูกผัก ปลูกผลไม้ไม่เป็น ถางป่าไม่เป็น แต่ซ่อมคอมพ์ นี่คือเกษตรกรยุค 4.0
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กอีกราย ซึ่งเจ้าตัวเป็นอดีตนักข่าวที่เพิ่งว่างงานมาหมาดๆ และมาเปิดร้านขายส้มตำ และขายก๋วยเตี๋ยว ที่จ.มหาสารคาม ระบุว่า “อ๋า เจ้าคือว่าข่อยเป็นเกษตรกรจั่งสั่น เจ้าตรวจสอบแนวได๋นี่ ยืนสงบนิ่ง 3 นาทีให้ระบบ AI ของรัฐ จั่งสั้น เจ้าต้องจ่ายข่อย 15,000 อย่ามีข้อแม้เด้อ”
อย่างไรก็ตามมีชาวบ้านอีกหลายราย ที่มีการถูกระบบตรวจสอบแจ้งว่า ไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากเป็นเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นไกด์ หรือ ช่างตัดแว่นตา เป็นต้น