บิ๊กตู่ตรวจรอบ 2 ให้กำลังใจจนท.คุมด่านเคอร์ฟิว เห็นเองเคสชาวบ้านเดือดร้อน

จากที่ทั่วโลกเจอวิกฤตโควิด -19 เข้าถาโถม จนทำให้ใครหลายๆ คนเดือดร้อนไปตามๆ กัน ซึ่งข้อมูลจากทั่วโลก ณ วันที่ 19 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น. เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 2,330,937 ราย มีผู้เสียชีวิต 160,755 คน ในจำนวนนี้มีผู้รักษาหายแล้ว 596,537 ราย ซึ่งสหรัฐอเมริกายังคงครองอันดับหนึ่งของโลกที่มียอดผู้ป่วยสะสมพุ่งไปถึง 738,830 ราย รองลงมาคือสเปนที่มียอดผู้ป่วยสะสมที่ 194,416 รายอันดับสามเป็นอิตาลีอยู่ที่ 175,925 ราย อันดับสี่เป็นฝรั่งเศสที่ 151,793 ราย อันดับที่ห้าตกเป็นของเยอรมันที่ 143,724 ราย อันดับที่หกเป็นสหราชอาณาจักรที่ 114,217 ราย อันดับเจ็ดเป็นจีนมีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 82,735 ราย อันดับที่แปดเป็นตุรกีที่ตัวเลข 82,329 ราย อันดับที่เก้าเป็นอิหร่านที่ 80,868 ราย และอันดับสิบเป็นเบลเยียมที่ 37,183 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 19 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น.)

แน่นอนว่าทีมแพทย์ของไทยเรานั้นเก่งมากจนทำให้รักษาผู้ป่วยหายแล้วกว่า 1,689 ราย แต่ทว่าด้านนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข และ โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ย้ำเตือนอยู่เสมอว่าแม้ตัวเลขจะเริ่มลดลงแต่ยังไม่อยากให้คนไทยประมาท

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำ ของวันที่  18 เมษายน 2563  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค .เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจ ในพื้นที่เขตปทุมวัน ทองหล่อ สุทธิสาร ห้วยขวาง ตามลำดับ พร้อมขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน และเข้มงวดตามข้อกำหนดและมาตรการ จากการตรวจเยี่ยมพบว่า ประชาชนให้ความร่วมมือไม่ออกนอกเคหะสถาน และไม่มีข้อน่ากังวลใจเกี่ยวกับความเข้มงวดของมาตรการ

 

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สอบถามพูดคุยกับประชาชนที่จำเป็นต้องออกจากบ้านช่วงเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากต้องพาลูกไปโรงพยาบาล เพราะมีบาดแผลจากการเล่นกันภายในครอบครัวโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นกรณีที่ยกเว้น ด้วยมีเหตุจำเป็น และนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงอาการและการรักษา ทารบว่าเรียบร้อยดีไม่มีอะไรรุนแรง และกำลังเดินทางกลับที่พัก