- 21 เม.ย. 2563
นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง MEA ในฐานะโฆษก MEA เปิดเผยว่า ช่วงนี้ผู้ใช้ไฟฟ้าสงสัยว่าค่าไฟขึ้นหรือค่าไฟฟ้าแพงเพราะการไฟฟ้าขึ้นค่าไฟนั้น ไม่เป็นความจริง จึงขอชี้แจงว่า MEA ยังใช้หลักเกณฑ์วิธีการคิดค่าไฟฟ้าจากหน่วยการใช้ไฟฟ้าในอัตราเดิม ส่วนสาเหตุที่ทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นนั้น
นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง MEA ในฐานะโฆษก MEA เปิดเผยว่า ช่วงนี้ผู้ใช้ไฟฟ้าสงสัยว่าค่าไฟขึ้นหรือค่าไฟฟ้าแพงเพราะการไฟฟ้าขึ้นค่าไฟนั้น ไม่เป็นความจริง จึงขอชี้แจงว่า MEA ยังใช้หลักเกณฑ์วิธีการคิดค่าไฟฟ้าจากหน่วยการใช้ไฟฟ้าในอัตราเดิม ส่วนสาเหตุที่ทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นนั้นอาจเกิดขาก 3 สาเหตุ คือ
1.อุณหภูมิของอากาศ หน้าร้อนแต่ละปี ค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้น หากเทียบต้นเดือนกับเดือนนี้ ค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นมาก แต่หากย้อนไปดูช่วงเมษายนปีที่แล้วเทียบกัน จะไม่ห่างกันมากนัก
2. นโยบายของรัฐ ในการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยการส่งเสริมให้อยู่บ้าน และทำงานที่บ้าน (Work From Home :WFH )ทำให้อุปกรณ์แทบทุกตัวถูกใช้งาน แอร์ หรือ การปรุงอาหาร ปั๊มน้ำในบ้านก็ถูกเปิดตลอดทั้งวัน
3. อัตราค่าไฟฟ้า ประเภทบ้านอยู่อาศัย 1.1 หรือ ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย และ 1.2 หรือใช้ไฟฟ้าเกินกว่า 150 หน่วย และประเภท 2 หรือกิจการขนาดเล็ก จะเป็นอัตราก้าวหน้า อัตรานี้เป็นนโยบายรัฐ โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำหนด หมายถึง ยิ่งใช้ไฟมาก ยิ่งจ่ายค่าไฟฟ้าสูงขึ้น ได้แก่
-หน่วยการใช้ไฟฟ้าที่ 1-150 หน่วย ค่าไฟฟ้า 3.25 บาทต่อหน่วย
-หน่วยการใช้ไฟฟ้าที่ 151 – 400 หน่วย ค่าไฟฟ้า 4.22 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 30%
-หน่วยการใช้ไฟฟ้าที่ 401 หน่วยขึ้นไป ค่าไฟฟ้า 4.42 หรือเพิ่ม 36%
ส่วนเครื่องวัดไฟฟ้าตามบ้านนั้น กฟน.มีการปรับปรุงตลอดเวลา มีระยะเวลาตรวจสอบ และเปลี่ยนเครื่องวัดตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตามหากประชาชนไม่มั่นใจ ขอให้แจ้งกฟน. มีบริการตั้งเทียบเครื่องวัด
ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุที่มีหน่วยการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว โดยผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบหน่วยการใช้ไฟฟ้าและคำนวณค่าไฟฟ้าง่าย ๆ ผ่าน MEA Smart Life Application ดาวน์โหลดฟรีทั้ง App Store และ Google Play คลิก http://onelink.to/measmartlife
สำหรับวิธีการที่จะช่วยให้ประหยัดไฟฟ้านั้น MEA แนะนำควรเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานหมั่นดูแลบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่สำคัญควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าจะทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ โดยเปิดประตูหน้าต่างให้ลมถ่ายเท ใช้เครื่องปรับอากาศในช่วงเวลาจำเป็น ปรับเพิ่มอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26 องศาเซลเซียส แต่หากต้องการความรู้สึกเย็นสบายเท่ากับ 24 องศาเซลเซียส ให้เปิดพัดลมช่วยโดยไม่ต้องลดอุณหภูมิของแอร์ การเปิดแอร์พร้อมพัดลมจะประหยัดไฟได้มากกว่าการลดอุณหภูมิของแอร์ เพราะพัดลมช่วยเพิ่มความเร็วลม เพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศ ทำให้รู้สึกเย็นสบายมากขึ้น ล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ควรปิดสวิตช์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่ก่อให้เกิดอัคคีภัยและยังช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลด้านการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ MEA ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line: @meathailand, Twitter: @mea_news, ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถดาวน์โหลด MEA Smart Life Application ฟรี ได้ที่ ได้ที่ App Store และ Google play คลิก http://onelink.to/measmartlife