- 22 ก.ค. 2563
ศบค.แถลงล่าสุด 22 ก.ค. 2563 พบผู้ติดเชื้อไฟลต์อียิปต์เพิ่มเป็น 15ราย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ประจำวัน มีผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย อยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ไม่มีผู้ป่วยในประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 3,261 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในกลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 324 ราย ยังรักษาอยู่ 92 ราย รักษาหาย 3,105 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ คงที่ 58 ราย
ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่
-เดินทางมาจากอียิปต์ 4 ราย ทั้งหมดเป็น น.ศ. เดินทางมาถึงไทย วันที่ 8 ก.ค. เที่ยวบินเดียวกันที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว 11 ราย เข้าพบที่สถานกักตัวของรัฐ พบเชื้อวันที่ 21 ก.ค.
-เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 36 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 10 ก.ค. ตรวจพบเชื้อวันที่ 20 ก.ค.
-เดินทางมาจากเยอรมัน 1 ราย หญิงอายุ 57 ปี เดินทางถึงไทย 16 ก.ค. ตรวจพบเชื้อวันที่ 20 ก.ค.
ทั้งนี้ที่ประชุม ศบค. ได้มีการประชุมในหลายประเด็นเพื่อจะนำไปสู่การเสนอครม.ต่อไป
-กรณีเคสทหารอียิปต์ ลูกทูตซูดาน ที่ จ.ระยอง และ กทม. มีการตรวจหาเชื้อเชิงลึกแล้ว 7,207 ราย ไม่พบเชื้อทั้งหมด
-กรณีความคืบหน้าวัคซีน มีการรายงานความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน ในประเทศไทย และต่างประเทศในที่ประชุม ซึ่งพบว่ามีความคืบหน้าทั้งในสองส่วน
-ประเด็นเพื่อพิจารณาได้พิจารณาการขยาย พรบ.ฉุกเฉิน เลขา สมช. ได้รายงานว่า สถานการณ์แพร่ระบาดในระดับโลก ยังคงอยู่ในรุนแรง และมีผู้ที่ได้รับการผ่อนผันให้เดินทางเข้าประเทศยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จึงต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการระบาดในประเทศ
โดยที่ประชุมระบุว่า มีความจำเป็น คือ
-จำเป็นต้องมีอำนาจตามกฎหมายในการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
-จำเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการวิกฤตในลักษณะรวมศูฯย์ เพื่อให้ปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว
-อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ทำให้เกิดความพร้อมให้กับประเทศในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ฐานวิถีชีวิตใหม่