- 21 ก.ค. 2563
กลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เมื่อหนุ่มอเมริกันรายหนึ่ง เมินคำเตือนพ่อแม่ ออกไปลั้ลลากับแก๊งเพื่อน แถมไม่ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้้อไวรัสที่กำลังระบาดอย่างหนักในอเมริกา สุดท้ายเข้าติดโควิด-19 ทำครอบครัวของเขาติดโรคกันทั้งบ้าน แต่ฝ่ายพ่ออาการหนัก ต้องเข้าไอซียู ใช้เครื่องช่วยหายใจพยุงชีพ
กลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เมื่อหนุ่มอเมริกันรายหนึ่ง เมินคำเตือนพ่อแม่ ออกไปลั้ลลากับแก๊งเพื่อน แถมไม่ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้้อไวรัสที่กำลังระบาดอย่างหนักในอเมริกา สุดท้ายเข้าติดโควิด-19 ทำครอบครัวของเขาติดโรคกันทั้งบ้าน แต่ฝ่ายพ่ออาการหนัก ต้องเข้าไอซียู ใช้เครื่องช่วยหายใจพยุงชีพ
โดย เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ มีรายงานเหตุการณ์ที่ครอบครัวหนึ่งต้องเผชิญท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (COVID-19) เมื่อพ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องลงเอยด้วยการอยู่ในห้องไอซียู ใช้เครื่องหายใจพยุงชีวิต หลังจากที่ลูกชายเมินเฉยคำเตือนจากพ่อแม่ ออกไปรวมแก๊งเฮฮากับกลุ่มเพื่อนแทนที่จะอยู่แค่ในบ้าน แถมยังถอดหน้ากากอนามัยขณะอยู่กับคนอื่น ๆ จนทำให้ตัวเองติดไวรัส และทำให้คนในบ้านอีก 4 ชีวิตได้รับเชื้อเช่นกัน
ด้าน มิเชล ซีเม็ต แม่วัย 42 ปี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเธอมักจะเตือนลูกชายคนโต ซึ่งอายุ 21 ปี อยู่ตลอดว่าเขาควรจะอยู่บ้าน และพยายามห้ามเขาไม่ให้ไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา แต่เขาก็ไม่ยอมเชื่อฟัง เธอยังขอร้องเขาทุกครั้งที่เขาจะออกจากบ้าน ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยและพกเจลล้างมือไปด้วย เธอเตือนให้เขาล้างมือบ่อย ๆ ซึ่งเขาก็ตอบกลับเพียงว่า "อย่าห่วงไปเลยน่าแม่ ผมทำทุกอย่างได้ถูกต้องแหละ ผ่อนคลายน่า ชิล ๆ"
แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ป้องกันตัวเองอย่างรัดกุม จริงอยู่ที่เด็กหนุ่มสวมหน้ากากอนามัยตอนไปบ้านเพื่อน แต่สุดท้ายก็มีบางช่วงที่เขาถอดหน้ากากออก
และผลคือ เด็กหนุ่มติดโรคโควิด 19 ก่อนจะทำให้คนในบ้านอีก 4 ชีวิต คือ มิเชล ผู้เป็นแม่เลี้ยง จอห์น เพลส พ่อวัย 42 ปี กับน้องชายวัย 14 ปี และน้องสาววัย 6 ขวบ ล้วนติดโควิด 19 ไปตาม ๆ กัน แต่คนที่อาการหนักที่สุดก็คือพ่อของเขา ซึ่งมีภาวะน้ำหนักเกินและเป็นเบาหวาน ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อ
ในขณะที่คนอื่น ๆ รวมถึงตัวเด็กหนุ่มใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ก็รักษาตัวจนหายจากโรค แต่จอห์นกลับต้องดิ้นรนด้วยความทรมานอยู่ในโรงพยาบาล เป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้วที่จอห์นต้องอยู่ในศูนย์การแพทย์ในเมืองเพลนตาตัน รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ โดยเขาได้รับการดูแลอยู่ในห้องไอซียู และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจนานถึง 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ มิเชล ซึ่งเล็กเห็นว่ายังมีคนหนุ่มสาวอีกมากที่เมินเฉยต่อคำแนะนำทางด้านสาธารณสุข ยังฝากเตือนใจไปถึงคนอื่น ๆ ด้วยว่า "คุณปล่อยให้การ์ดตกเพียงครั้งเดียวก็จบกัน คุณกลับมาบ้าน แล้วทำให้คนทั้งบ้านติดเชื้อ"
นอกจากนี้ มิเชลยังเผยว่าตอนนี้อาการของสามีเธอดีขึ้นมาก เขาเพิ่งนำเครื่องช่วยหายใจออกได้ แต่หมอก็ยังไม่วางใจนัก เพราะเขายังมีโอกาสที่อาการจะทรุดหนักจนต้องกลับมาใช้เครื่องช่วยหายใจได้ตลอดเวลา หรืออาจจะมีปัญหาอื่น ๆ เกิดขึ้น เขายังอยู่ในสภาพเปราะบางมาก ๆ โดยตอนนี้ทางครอบครัวก็ได้จัดตั้งเพจระดมทุน เพื่อหวังได้รับการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของสามีในการเจ็บป่วยครั้งนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก นิวยอร์กโพสต์