- 24 ก.ค. 2563
คำรณวิทย์ ฮึ่ม คดี บอส อยู่วิทยา ค้านสายตาสังคม
จากกรณี "นายวรยุทธ อยู่วิทยา" หรือ "บอส" ทายาทตระกูลอยู่วิทยา ขับรถเฟอร์รารี่ไปชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2555 หลังจากนั้นบอสกลับเข้าบ้าน ตร.ตามรอยรั่วไปถึงบ้าน พ่อบ้านออกมากล่าวรับโทษเอง แต่ตร.ไม่เชื่อ ต่อมาบอสยอมรับว่าเป็นคนขับรถคันดังกล่าวเอง ตร.เรียก 7 ครั้งให้มาให้ปากคำ แต่เจ้าตัวไม่มา สุดท้ายบางคดีหมดอายุความ ล่าสุดอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีสุดท้ายที่เหลืออยู่ จนประชาชนงงเป็นไก่ตาแตกว่าเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนยุติธรรม
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า คดีนี้ผมรู้สึกว่ามีอะไรที่ผิดปกติตั้งแต่แรก เมื่อเกิดเหตุแล้ว เราได้ไปดูที่เกิดเหตุเรารับไม่ได้ ที่ลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชาถูกชน ผู้ก่อเหตุไม่รับผิดชอบละได้หลบหนีเข้าไปในบ้าน และมีการเอาคนที่ไม่ใช่คนขับมามอบตัว ผมจึงรับไม่ได้ ผมต้องเอาคนที่เป็นคนขับจริง ๆ ที่ได้ขับรถชนตำรวจตายเอามาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้
เมื่อเราได้นำตัวผู้ที่ขับขี่จริงมาดำเนินคดี จากนั้นก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไปซึ่งมีหลายข้อหา แต่เมื่อดำเนินการไปแล้วผมเองไม่ทราบเลยว่าได้ขาดอายุความไปแล้วกี่คดี ผมว่าเราต้องคิดกันให้ดีว่ากฎหมายต้องเป็นกฎหมาย หากกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย คนกระทำผิดโทษไม่เท่ากัน บ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร ผมว่าเอกสารชัดเจนถ้าผู้มีอำนาจในบ้านเมือง จะเรียกเรื่องนี้มาเคลียร์ให้ดี ผมว่าเคลียร์ได้ สำนวนคดีก็ยังอยู่ หลักฐานต่าง ๆ ก็มีความชัดเจน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด อยู่ที่ว่าจะตรวจสอบหรือไม่ตรวจสอบ เมื่อพี่น้องประชาชนมีความเคลือบแคลงสงสัย สื่อมวลชน สังคมสังสัยอยากรู้ข้อมูลข้อเท็จจริง ผมว่าแฉไปเลยดีกว่า ว่าตำรวจคุณสั่งไม่ฟ้องและสั่งฟ้องกี่ข้อหาอะไรบ้าง อัยการแทงสำนวน สอบไปสอบมา สอบเพิ่มกี่ครั้ง ให้เห็นไปเลยว่าใครที่รับผิดชอบ แต่เมื่อผลของคดีจบไปแล้วก็คือจบ
โดย พล.ต.ท.คำรณวิท กล่าวอีกว่า ตอนนี้มีเอกสารชัดเจน ผู้ที่มีอำนาจเรียกมาชี้แจงให้ชัดเจน ตอนนี้ยังสามารถตรวจสอบได้ ถ้าพี่น้องประชาชนสนใจ สามารถเอาเอกสารมาตรวจสอบได้ ว่าสั่งฟ้องและไม่ฟ้องกี่ข้อหา จะได้ทราบความจริง
ตอนนั้นผมทำดีที่สุดแล้ว ผมจำได้ว่าลงมาที่ลานจอดรถแล้วเห็นรถของกลางจอดอยู่ ผมรับไม่ได้ที่เห็นเครื่องหมายนายดาบติดอยู่ที่ปัดน้ำฝน คุณไม่สนใจลูกน้องผมเลย ลูกน้องคุณตายทั้งคน เอาคนที่ไม่ใช่ผู้ต้องหามามอบตัว ผมก็ไม่ยอม ตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วนายตำรวจท่านนั้นก็ออกจากราชการไปแล้ว ตอนนั้นเราสลดใจในกระบวนการยุติธรรม การบวนการยุติธรรมต้องยุติธรรม ในเมื่อสังคมสงสัยเรื่องคดี ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ควรชี้แจงให้ทุกคนได้เห็นความจริง
โดยเรื่องคดีนี้ไม่ใช้เรื่องใหญ่ เป็นคดีประมาทเป็นเหตุให้คนตาย ซึ่งมีอยู่ทั่วไปมีเหตุชนชนคนตายเป็นจำนวนเยอะแยะ เพียงแต่พฤติกรรมที่มีการเบี่ยงเบนคดีตั้งแต่ต้น ทำให้สังคมรับไม่ได้ ทั้งนี้ผมเกษียณมา 6 ปี แล้ว แต่น้อง ๆ สื่อมวลชนถึงได้มาถามผมเรื่องนี้ซึ่งผมเองไม่ได้ตามเรื่อง จบแล้วก็คือจบ เมื่ออัยการสั่งไปฟ้องแล้วคดีก็จบไป แต่สังคมยังไม่จบ เรื่องนี้ต้องดูให้ดีมีความละเอียดอ่อน ต้องไปดูว่าเมื่ออัยการสั่งไปฟ้องแล้ว ตำรวจแย้งหรือไม่ หากตำรวจไม่แย้งก็ต้องชี้แจง แต่หากตำรวจแย้งก็ต้องไปที่ท่าน อสส.ตามขั้นตอน ผมคงไปล่วงก้าวไปพูดอะไรที่นอกเหนืออำนาจไม่ได้ ปัจจุบันผมเป็นข้าราชการเกษียณผมรักษาคนไข้วัน ๆ หนึ่งก็เยอะอยู่แล้ว