- 25 ก.ค. 2563
อดีตตำรวจที่เก็บหลักฐานคดีบอส อยู่วิทยา แฉความจริง 7 ปีก่อน เคยให้คนขับรถมอบตัวแทน
จากกรณีประเด็นที่คนในสังคมกำลังให้ความสนใจ สำหรับ คดีดังของนาย “บอส” หรือ วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทตระกูลดังผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องดื่ม “กระทิงแดง” ที่เริ่มจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเมื่อคืนวันที่ 3 ก.ย. 2555 บนถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกที่การติดตามไต่สวนคดี การยื่นสำนวนส่งฟ้องและการออกหมายจับ กินเวลายืดเยื้อยาวนานหลายปี สุดท้ายวันนี้ (24 ก.ค.2563) หลังเกิดเหตุมาแล้วร่วม 8 ปี มีข่าวว่าอัยการสูงสุด (อสส.)ตัดสินยกฟ้อง “บอส” ทุกข้อกล่าวหา ก่อปัญหาคาใจประชาชนทุกหมู่เหล่าที่รอฟังคำอธิบายด้วยใจจดจ่อ
โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อ้างบทสัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.สน. ทองหล่อ ว่า กระบวนการทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอน หลังจากได้รับทราบความเห็นของอัยการ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ก่อนนำไปสู่เอกสารเรื่อง แจ้งคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2562 และการแจ้งถอนหมายจับก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน
ต่อมามีเอกสารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรากฎเป็นหนังสือที่ ตช.0015 (บก.น.5) 3/5232 อ้างถึงคดีอาญาที่ 632/2555 และหนังสือสำนักอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ที่ อส.0037.1/445 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำยืนยันจากอัยการสูงสุด เรื่องการพิจารณามีคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อนายวรยุทธ ในทุกข้อกล่าวหา และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ไม่แย้งคำสั่งของพนักงานอัยการ คดีจึงเป็นอันสิ้นสุดตามกระบวนการทางกฎหมาย และพนักงานสอบสวนได้ทำการขออนุมัติศาล เพิกถอนหมายจับในคดีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดมีรายงานว่าพ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ ส.ส.ก้าวไกล ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูลด้วยตัวเองและได้พบพยานหลักฐานเอาผิด นายวรยุทธ อยู่วิทยา ได้แน่นอน และเล่าถึงช่วงหนึ่งที่มีการสับตัวคนขับรถจาก นายวรยุทธ เป็น คนขับรถ เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด แต่เรื่องนี้ไม่มีการถูกพูดถึง
โดย พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะอดีตนักวิทยาศาสตร์ (สบ.1) กลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นผู้พิสูจน์หลักคดีนี้ด้วยตัวเอง ทั้งจดบันทึก ถ่ายรูป เก็บร่องรอยหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับคดีนี้ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ย้ำถึงการพบพยานหลักฐาน ที่สามารถเอาผิดนายวรยุทธ อยู่วิทยา ได้โดยยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาขับรถชนท้าย ดาบตำรวจวิเชียร จริง แต่ นายวรยุทธ กลับส่งคนรับใช้มามอบตัวแทน จนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้นต้องนำกำลังไปล้อมบ้าน 200 นาย จนนายวรยุทธมอบตัว พร้อมย้ำถึงหลักฐานที่ยืนยันได้ คือรอยช้ำตามแนวคาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งตนเองเป็นผู้ดูกล้องวงจรปิดและคำนวณความเร็วด้วยตัวเองและพบว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนด
มั่นใจว่าหลักฐานในขณะนั้นสามารถเอาผิดได้แน่นอน โดยกองพิสูจน์หลักฐานขณะนั้นออกรายงานได้ภายใน 1 เดือน แต่พอเข้าสู่ชั้นพนักงานสอบสวนกลับใช้เวลาหลายปี จึงรู้สึกไม่พอใจมากเมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ และควรปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อขจัดปัญหาให้หมดไป