- 27 ก.ค. 2563
จตุรงค์ สุขเอียด เดือดไม่ไว้หน้าตำรวจ-อัยการ คดีบอส อยู่วิทยา แฉสิ้นไส้จากปากนักข่าวที่เคยตามคดี
บนเฟซบุ๊ก จตุรงค์ สุขเอียด นักข่าวชื่อดังได้โพสต์ถึงคดีของบอส อยู่วิทยา หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังมีข่าวว่าอัยการสูงสุด (อสส.)ตัดสินยกฟ้อง “บอส” ทุกข้อกล่าวหา จากคดีขับรถหรูชนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายตำรวจท่านหนึ่งและลากร่างไปไกลกว่า 200 เมตร จนนายตำรวจท่านนั้นเสียชีวิต ต่อมานายวรยุทธ อยู่วิทยา ก็ไม่ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตามนัดโดยอ้างว่าอยู่ต่างประเทศ และปล่อยคดีคาราคาซังอยู่กว่า 8 ปี จนเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2563 ก็มีข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำยืนยันจากอัยการสูงสุด เรื่องการพิจารณามีคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อนายวรยุทธ ในทุกข้อกล่าวหา และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ไม่แย้งคำสั่งของพนักงานอัยการ คดีจึงเป็นอันสิ้นสุดตามกระบวนการทางกฎหมาย และพนักงานสอบสวนได้ทำการขออนุมัติศาล เพิกถอนหมายจับในคดีนี้ สร้างความไม่พอใจอย่างถึงที่สุดให้กับประชาชน
โดยเฟซบุ๊กของนักข่าวดังได้โพสต์ข้อความถึงคดีนี้ 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกระบุ
นักข่าวที่เคยตามคดีบอส... มาเล่าว่า เหตุว่าทำไมตำรวจ ไม่เห็นแย้งคดีบอส ก็เพราะตำรวจที่รับทำคดีถูกเปลี่ยนหลายคน ย้ายคนใจกล้าหน้าด้านมาอำพรางคดีแทนคนตรงแล้วจัดฉาก สร้างแผนประทุษกรรม จำลองเหตุการณ์ตาxเสียใหม่ วัดแอลกอฮอล์หลังสร่างเมา พบสารในปัสสาวะ แต่ไม่ฟ้อง ไม่เรียกสอบ ไม่คุมตัว แล้วเปิดทางหลบหนี ในสำนวนเปลี่ยนหลักฐาน พยาน ลบกล้องวงจรปิดและวิ่งเต้นเป่าคดี ผู้เกี่ยวข้องหลายคนจึงร่วมในสตอรี่เรื่องใหม่ด้วย
สำนวนเช่นนี้ถ้าขึ้นศาลไป ใครไปฟ้องว่า นำหลักฐานเท็จ พยานเท็จ เบิกความเท็จจัดฉากหลอกศาล พวกเหล่านี้ก็ต้องติดคุกไปด้วย ส่วนบอส ลอยตัวเพราะไม่ได้กลับมาแน่ๆ.. ครับ ต้องหาสำนวนเน่าๆนี้มาเปิดครับ จะรู้ว่าใครทำ
ต่อมาได้โพสต์อีกครั้งว่า ตำรวจแถลงย้อนนักข่าวว่า คดีดาบวิเชียร์ ตำรวจเป็นผู้เสียหายที่ญาติรับเงินยอมความแล้ว ตำรวจเองก็ถือเป็นผู้เสียหายด้วยเสมือนชาวบ้านอย่างเราเผือกอะไร?
ต้องย้อนตำรวจว่า ถ้าตำรวจไม่ได้กินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชน เราก็คงไม่เดือดร้อนอะไร แต่ที่เราเดือดร้อน ก็เพราะต้องเจียดเงินได้จ่ายภาษีให้ท่านเป็นเงินเดือน และก็เพราะท่านถวายสัตย์ว่าจะปฎิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน แล้วจะรักษากฎหมายด้วยชีวิต จะขจัดภัยพาล อภิบาลคนดีไม่ใช่หรือ....
แม้คนตาxไม่ใช่ญาติเรา แต่ที่เราข้องใจ ทำไม คดีที่รูปคดีตอนเกิดเหตุ กับในสำนวนสั่งไม่ฟ้องมันต่างกันไปมาก ทำไม ปล่อยให้คดีขาดอายุความ... ไปหลายข้อหาต่างจากที่คนเราเห็น หรือว่าเจตนาละเว้นหรือไม่... เพราะอะไร เมื่อเทียบกับชาวบ้านสามัญจะทำอย่างเดียวกันหรือไม่
เช่นเดียวกับท่านอัยการเจ้าของสำนวน ที่สั่งไม่ฟ้องโดยค้านสายตาประชาชน เรา เรียกท่านว่า ทนายแผ่นดิน เป็นความหวังว่าจะช่วยกลั่นกรอง ไม่ให้ตำรวจ ทำสำนวนคดีใส่ร้ายประชาชน แล้วป้องกันไม่ให้ตำรวจทำสำนวนช่วยคนผิดให้อ่อนเพื่อพ้นผิด
คดีนี้จึงถูกฮั้วกันตัดตอน ไม่ให้ขึ้นสู้คดีในศาลหรือไม่ เพราะถ้าขึ้นศาล ท่านต้องแสดง พยาน หลักฐานต่อศาล แล้วผู้ขึ้นให้การต่อหน้าศาลต้องกล่าวคำสาบานตนว่า ข้าพเจ้า(ยศ/ตำแหน่ง.... จะพูดให้การแต่ความจริง หากให้การเท็จ ขอให้ข้าฯ..... และครอบครัว(ผู้เบิกความ)ขอให้มีอันเป็นไป...
โดยเฉพาะพยานใหม่2ปากในสำนวน ที่มาให้การเมื่อไม่นานว่าขับรถตามหลังบอส เห็นขับรถตามหลังดาบด้วยความเร็ว 60/70ก.ม/ชม...แล้วดาบเปลี่ยนเลนจึงถูกชน เป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต ทั้งที่ข่าววันเกิดเหตุศพถูกลากไปบนถนนนับ100เมตรไม่ใช่หรือ
ถ้าขึ้นศาลทั้ง2จะถูกซักว่าวันเกิดเหตุ อยู่ที่ไหน มีหลักฐานยืนยันว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริงด้วยอะไรและทำไม เพิ่งมาให้การเอาตอนนี้ ฯลฯ และคดีถ้า5กระทง ก็จะต้องว่ากันไปทีละข้อหา.....ทุกข้อจะถูกซักจนความแตกก่อนที่ศาลจะปิดการไต่สวนแล้วนัดฟังคำพิพากษา ถ้าเป็นไปเช่นนี้ผลคดีออกมาอย่างไร คนเราก็รับได้เพราะครบองค์ประกอบของการพิจารณาคดี แต่นี่ไม่? เพราะ...
ตกลงเรามีสิทธิ์เดือดร้อน หรือไม่ เรามีสิทธิ์ตรวจสอบว่าที่ท่านทำทุจริตต่อเงินที่ประชาชนจ่ายหรือไม่ เพราะอะไร?
ถ้าถูกถามจะได้รู้ว่าเรามีสิทธิ์ที่จะรู้ไงครับ
ขอบคุณ จตุรงค์ สุขเอียด