หนุ่มเชียงรายป่วยหนักอาการโคม่า ครอบครัวตัดสินใจเลือกทำบุญกุศลใหญ่ครั้งสุดท้าย

สืบเนื่องจากกรณีที่ เพจ Like Anutin ได้แจ้งข่าวที่น่าชื่นชมว่า "นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ขับเครื่องบินส่วนตัว ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนโปรยปราย นำ นพ.พัชร อ่องจริต แพทย์ศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมคณะเดินทางไปโรงพยาบาลเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

สืบเนื่องจากกรณีที่ เพจ Like Anutin ได้แจ้งข่าวที่น่าชื่นชมว่า "นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ขับเครื่องบินส่วนตัว ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนโปรยปราย นำ นพ.พัชร อ่องจริต แพทย์ศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมคณะเดินทางไปโรงพยาบาลเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

เพื่อผ่าตัดนำหัวใจและไต ของผู้ป่วยซึ่งเสียชีวิต แต่อวัยวะยังใช้งานได้ และได้แสดงความจำนงค์ในการบริจาคอวัยวะ ไปให้ผู้ป่วยซึ่งรอการช่วยเหลือ ซึ่งผู้บริจาค เป็นชาวเชียงราย อายุ 39 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุเลือดออกในสมอง

 

หนุ่มเชียงรายป่วยหนักอาการโคม่า ครอบครัวตัดสินใจเลือกทำบุญกุศลใหญ่ครั้งสุดท้าย


ล่าสุด ที่ศาลาการเปรียญ วัดแหลมหอย ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพสวดพระอภิธรรม นายอนุวัฒน์ ยอดปิน อายุ 39 ปี ภูมิลำเนา อ.เชียงของ จ.เชียงราย ที่ได้ย้ายครอบครัวมาอยู่ที่ อ.เกาะสมุย ซึ่งได้เสียชีวิตด้วยเส้นเลือดในสมองแตก และหากปล่อยไว้จะเป็นเจ้าชายนิทรา ก่อนนายอนุวัฒน์ จะสิ้นใจได้มอบอวัยวะภายในประกอบไปด้วย หัวใจ ไต และปอด ให้แก่สภากาชาดไทย

 

โดย นางชุติรัตน์ คำอ้าย อายุ 62 ปี แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนและลูกชายได้อพยพครอบครัวมาอยู่ที่เกาะสมุย 12 ปีแล้ว โดยลูกชายทำงานเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างทั่วไป ก่อนเหตุเหตุเมื่อคืนวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายอุวัฒน์ ผู้ตายได้บ่นว่าปวดหัวอย่างรุนแรง ตนและนายนพดล ยอดปิน น้องชายผู้ตาย จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเกาะสมุย แพทย์ทำการเอกซเรย์ พบว่าเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้ก้านสมองตาย หากปล่อยไว้จะเป็นเจ้าชายนิทรา ซึ่งทางแพทย์ได้ทำการตรวจอวัยวะภายในของนายอนุวัฒน์ พบว่า แทบไม่น่าเชื่อว่าอวัยวะ หัวใจ ไต และปอด มีความสมบูรณ์มาก และไม่เคยพบอวัยวะผู้ป่วยที่สมบูรณ์แบบในลักษณะนี้มากว่า 7 ปี

 

 

ทางคณะแพทย์ โรงพยาบาลเกาะสมุย จึงได้เชิญนางชุติรัตน์ และนายนพดล ไปสอบถามเพื่อขอบริจาคอวัยวะของนายอนุวัฒน์ ไปศึกษาได้หรือไม่ เนื่องจากอวัยวะของนายอนุวัฒน์ มีความสมบูรณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน ทางนางชุติรัตน์ จึงได้ปรึกษากับนายนพดล ลูกชาย และญาติๆ ซึ่งทุกคนเห็นดีด้วย จึงบอกกับนายอนุวัฒน์ ที่นอนไม่รู้สึกตัว แต่เมื่อแม่ได้บอกเหตุผลนายอนุวัฒน์ เหมือนกับรับรู้ ก่อนที่นายอนุวัฒน์ จะสิ้นใจด้วยความสงบ

 

ทางณะแพทย์จากสภากาชาดไทย จึงได้บินมาจากกรุงเทพมหานคร มาทำการผ่าตัด หัวใจ ไต และปอด ของนายอนุวัฒน์ ที่ได้บริจาคให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปศึกษา และช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป

 

จากนั้น ทางสภากาชาดไทยได้มอบประกาศมีใจความดังนี้ “จากสภากาชาดไทย ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย มีพระราชเสาวนีย์โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า “นายอนุวิฒน์ ยอดปิน ได้อุทิศอวัยวะให้ศูนย์รับบริจาคอวัยว สภากาชาดไทย ซึ่งสภากาชาดไทยได้นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามเจตนารมณ์แล้ว ขอกุศลกรรมที่ได้บำเพ็ญเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วย จึงเป็นอานิสงส์ดลบันดาลให้ผู้อุทิศประสบความเกษมสุขในสัมปรายภพชั่วนิรันดร์ ให้ไว้ ณ วันที่ 7 เดือนสิงหาคม พุทธศักราช 25663 ลงนามโดย นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ปฏิบัติการแทนอุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย

 

ทั้งนี้ นางชุติรัตน์ คำอ้าย แม่ เปิดเผยว่า รู้สึกภูมิใจที่ลูกชายได้บริจาคอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทย และเป็นบุญกุศล ส่งผลดีให้แก่ตัวเองที่ได้มอบอวัยวะให้คนอื่น ถือว่าเป็นบุญใหญ่หลวง และกล่าวว่า ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมผ่าตัดหัวใจจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และทีมผ่าตัดไต จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ทำการผ่าตัดอวัยวะของลูกชาย ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขับเครื่องบินมารับอวัยวะของลูกชายด้วยตนเอง

 

ด้าน นายพนดล ยอดปิน อายุ 36 ปี น้องชาย เปิดเผยว่า รู้สึกภูมิใจว่าในครั้งหนึ่งพี่ชายได้ทำความดี อุทิศอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทย ถือว่าเป็นเกียติอย่างยิ่ง อย่างน้อยพี่ชายที่เสียชีวิตไป แต่ชื่อเสียงแห่งการทำดียังอยู่ในใจคนไทยหลายคน เหมือนกับเป็นการทำบุญ ที่มอบอวัยวะตัวเองเพื่อให้อีกคนหนึ่งได้ต่อชีวิตของอีกคนหนึ่ง

 

ขณะที่ศพของนายอนุวัฒน์ ยอดปิน ทางญาติ ได้นำมาประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดแหลมหอย ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย มีการสวดพระอภิธรรมทุกคืน และจะทำพิธีฌาปนกิจ ในวันจันทร์ที่ 10 ส.ค.นี้ 

 

หนุ่มเชียงรายป่วยหนักอาการโคม่า ครอบครัวตัดสินใจเลือกทำบุญกุศลใหญ่ครั้งสุดท้าย