- 11 ส.ค. 2563
"นาย เดอะคอมเมเดี้ยน" เกือบน้ำตาตก เล่าประสบการณ์เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะไปเล่นตลกในหน่วยราชการ
นาย เดอะคอมเมเดี้ยน ตลกรุ่นใหม่ไฟแรง ที่วันนี้มาเผยบทเรียนชีวิต หนีออกจากบ้าน ทำผู้หญิงท้อง พ่อ แม่ เสีย น้ำตา เป็นหนี้หลักแสน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร พร้อมเผยประสบการณ์เฉียดตายถึง 2 ครั้ง เพราะเล่นตลก
เห็นว่าเป็นตลกคุณพ่อไม่โอเค เขาอยากให้เราเป็นพระเอก ?
นาย : จริง ๆ มันเป็นการปลูกฝังของหัวหน้าคณะลิเกทุกคนอยู่แล้ว เขามีความหวังว่าอยากให้ลูกเป็นพระเอกจะได้ดูแลคณะต่อไป
พ่อก็เลยไม่อยากให้เป็นตลก อยากให้เป็นพระเอกลิเก ?
นาย : ก็พยายามปลูกฝังเรามา ตั้งแต่เด็กก็ไม่อยากเป็นลิเกอยู่แล้ว ก็พยายามไปแอบ ไปเล่นดนตรีไทย จนตอนหลังเขายอมให้ไปเรียนดนตรีไทยอย่างจริงจัง พออยู่มาสัก 14-15 เริ่มละคุณพ่อเริ่มให้กลับไปเล่นลิเกละ ผมว่าไปก็ไป ก็เลยไปเล่น พอไปเล่นกลับดี แรก ๆ เล่นแค่เสาร์-อาทิตย์ อยู่ไป อยู่มามันชนเป็นวันธรรมดาด้วย ถ้าเป็นช่วงเทศกาล งานจะเยอะ ผมเรียนตั้งแต่เช้าจนถึง 4 โมง ต้องรีบนั่งรถมาฟิวเจอร์ เพื่อนั่งรถตู้ไปนครสวรรค์แล้วไปเล่นลิเก เล่นลิเกเลิกตี 1 กลับมาให้ทันตี 2 เพื่อนั่งรถทัวร์กลับไปเรียน
เป็นแบบนี้นานขนาดไหน ?
นาย : หลายปี 4-5 ปี
แล้วเขามาเริ่มเห็นความสามารถในการเป็นตลกเมื่อไหร่ ?
นาย : พ่อไม่เคยเห็น จนผมเป็นพระเอกลิเกมา 9 ปี วันหนึ่งผมขอเปลี่ยนอยากเล่นเป็นตลก อยากเล่นเป็นโจ๊กลิเก ไม่ได้ ๆ ผมก็ฝืน อันนี้เป็นความเชื่อนะ ไปดูดวงอะไรกันมา หมอดูทักว่ามันต้องเป็นโจ๊กนะ ถ้ามาเป็นพระเอกลิเกไม่ได้ พ่อเขาก็ไม่พอใจ ผมเล่นเป็นพระเอกมา 9 ปี ผมไม่เคยได้รางวัลหน้าเวทีเลย ผมเป็นโจ๊กคืนแรกผมได้รางวัล 2,800 บาท ค่าตัวพระเอกลิเกตอนนั้นอยู่ประมาณ 500 บาท โจ๊กก็เท่า ๆ กัน
แล้วจุดไหนที่เรามาเข้าสมัครเดอะคอมเมเดี้ยน ?
นาย : เป็นลิเกได้ 2 ปีแล้ว แล้วมีประกาศผ่านจานดาวเทียม ก็เลยมาสมัคร ผมเลือกที่จะไปสมัครภาคกลางที่เป็นภาคสุดท้าย คิดอย่างเดียวถ้าดวงมันเป็นตลกเอาภาคสุดท้ายนี่แหละ คนเรามันอยู่ที่ดวง ทุกอย่างโชคชะตาก็จะพาไป มันประกวดทั้งหมด 4 รอบ 3 รอบ พ่อไม่แฮปปี้เลย
แล้ว 2 แสนที่พ่อแม่ทุ่มโหวตนี่มาจากไหน ?
นาย : มันคือหลังจากที่ประกาศผลเข้าบ้าน 16 คน ผมอยู่กับพ่อมา 20 กว่าปี ตอนนั้นผมอายุ 23-24 พ่อวิ่งมาจากไกลมากอดผม ร้องไห้ แล้วบอกว่าพ่อยอมแล้ว ทีนี้โฮหนักเลย ดีใจกว่าได้เข้าบ้านอีก
พ่อโหวตไป 2 แสนเลย ?
นาย : ใช่ครับ หลังจากที่ผมเข้าไปอยู่ในบ้าน 3 เดือน แล้วดีใจได้ที่ 4 ได้เงินแสนนึง แม่บอกว่าดีใจไหมลูก ดีใจแม่ แม่เป็นหนี้ 2 แสนนะ ก็เอาเงินรางวัลให้แม่หมดเลย ระหว่างนั้นก็ทำงานใช้หนี้ไปด้วย
ได้ข่าวว่าไปรับงานของหน่วยราชการใหญ่ แล้วเกือบเอาชีวิตไม่รอดมา 2 ครั้ง ?
นาย : ก็มีคนติดต่องานมา งานแรกไม่ได้ติดต่อมาทางผม ติดต่อมาทางน้องแล้วบอกว่าเป็นงานของหน่วยราชการหนึ่ง ซึ่งผมเคยไปเล่นงานหน่วยราชการแบบนี้มาแล้ว แต่เล่นแถวสัตหีบ อารมณ์แบบเป็นกันเอง วันนั้นผมเหมือนปากหนักไม่ถามน้องว่าเล่นที่ไหน จนมาถึงวันงาน เราโทร. ไปถามน้องว่าเล่นที่ไหน น้องบอกในกรุงเทพฯ เราก็แวบแล้วในกรุงเทพฯ มันมีศูนย์ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น แต่ก็ไปขับเข้าไปเสร็จปุ๊บ ผมมองแล้วมันไม่ใช่ที่ปกตินะ
นาย : ผมไปนั่งหลังเวที ทำไมบรรยากาศเงียบ ๆ รถที่เข้ามาแต่ละคันไม่ธรรมดา ผมก็มองงานใหญ่ มีโต๊ะอยู่แค่ 5 ตัว ที่เหลือทุกคนยืนหมด ผู้ใหญ่นั่ง ลูกน้องยืน แต่วันนั้นชุดคอมเมเดี้ยนที่ไปเล่นมี 6 คน อีกคนไม่ได้เป็นตลกคอมเมเดี้ยน แต่เป็นรุ่นพี่ของตลกที่ไปกับผม ดันไปพูดกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ก็ไปเล่นศีรษะท่าน เท่านั้นแหละเขาลุกขึ้นมาแล้วชี้เลย ลงไป พวกเอ็งลงไปเลยเดี๋ยวนี้ ผมหยิบของแล้ววิ่งลงเลย เชื่อไหมว่าเขาเร็วกว่าผม ผมลงไป เขาดักรอแล้ว แล้วเรียกผมกลับมา ผมก็สั่งให้พี่คนที่พูดไม่ต้องไปรอที่รถ ผมไปถึงปุ๊บเขาถามถึงคนนั้นก่อนเลย ผมบอกเขากลับไปแล้วครับ แล้วอีกวันเรียกผมเข้าพบเลย ตอนนั้นคิดอย่างเดียว ตาย เจ็บ 2 อย่าง
แล้วเขาเรียกไปทำอะไร ?
นาย : อบรม เขาบอกเขาไม่รู้หรอกนะว่าคนนั้นเป็นใคร แต่ทั้งเวทีจำใครไม่ได้ จำผมได้คนเดียว