เอกสารหลุดอื้อ อัยการดัง "ปรเมศวร์" เมาขับเฉี่ยวชนคนเจ็บ กว่าปีสำนวนคดียังไม่สั่งฟ้อง

จากกรณี ในไลน์กลุ่มนักกฎหมายมีการแชร์เอกสารของตำรวจที่ส่งสำนวนคดีของ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ ในความผิดเมาเเล้วขับและชนเเล้วหนี โดนพลเมืองดีตามล็อกตัวได้ในวัด ซึ่งเรื่องนี้ทางอธิบดีอัยการชื่อดัง รับดื่มจริงแต่เล็กน้อย และย้ำว่าไม่ได้หนี ตอนนี้คดีอยู่ระหว่างตำรวจทำสำนวน 

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ขอปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด เนื่องจากยังอยู่ในชั้นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน โดย ความคืบหน้าคดีนี้ไปถึงไหนแล้ว พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง และส่งสำนวนให้อัยการแล้วหรือไม่ นายปรเมศวร์ กล่าวว่า เอกสารที่มีการปล่อยออกมานั้น เป็นเพียงร่างเอกสาร ยืนยันยังไม่มีการนำตัวไปส่งต่อพนักงานอัยการเพื่อสั่งฟ้องตนแต่อย่างใด ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน อย่างไรก็ดีหากคดีมีข้อสรุปอย่างเป็นทางการก่อน จะชี้แจงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง ตอนนี้ขอให้การสอบสวนแล้วเสร็จก่อน

ขณะที่ พ.ต.ท.รพีพงศ์ จิตต์บุญธรรม สว.(สอบสวน) สภ.บางกรวย ผู้กล่าวหาในคดีดังกล่าว ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ปฏิเสธให้รายละเอียดในคดีนี้เช่นกัน โดยระบุว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวน ไม่สามารถให้รายละเอียดทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายได้

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ในร่างเอกสารสั่งฟ้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) คดีอาญาที่ 82/2562 สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ลงวันที่ 24 เม.ย. 2563 ระบุวันเวลาที่เกิดเหตุว่า เกิดขึ้นวันที่ 28 ก.พ. 2562 เวลาประมาณ 22.30 น. ในท้องที่ ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยผู้ต้องหามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2562 หลังจากแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำได้ให้ผู้ต้องหากลับไปในวันเดียวกัน โดยไม่ได้ควบคุมตัวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ในบันทึกการมอบตัวและแจ้งข้อกล่าวหาของ สภ.บางกรวย ลงวันที่ 1 มี.ค. 2562 ระบุว่า บันทึกทำขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2562 พ.ต.ท.รพีพงศ์ จิตต์บุญธรรม สว.(สอบสวน) สภ.บางกรวย พนักงานสอบสวน ได้แจ้งพฤติการณ์แห่งคดี ฐานความผิด และสิทธิของผู้ต้องหาให้นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ทราบว่า พฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาคือ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2562 เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้ต้องหาได้รับขับรถยนต์ เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีนายธรรมรัตน์ ทองทวี เป็นผู้ขับขี่ และรถจักรยานยนต์ มีนายธันณเรศ ร้อยกรอง เป็นผู้ขับขี่ เป็นเหตุให้นายธรรมรัตน์ ได้รับบาดเจ็บและรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย และไม่หยุดลงมาช่วยเหลือ แต่มีพลเมืองดีติดตามไปทันทีบริเวณทางเข้าวัดหูช้าง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงจึงได้เชิญตัวมาที่ สภ.บางกรวย แล้วต่อมาได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจ พบว่า มีปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดคือ 87 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

การกระทำของผู้ต้องหา เป็นความผิดฐาน ขับรถขณะเมาสุรา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่กายจิตใจ และขับรถโดยประมาท อันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์ ขับรถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี และกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแก่กายและจิตใจ

โดยนายปรเมศวร์ ผู้ต้องหาทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาที่แจ้งให้ทราบนี้ดีแล้วให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ด้วยความเต็มใจของผู้ต้องหาเอง ไม่มีผู้ใดให้คำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง ทรมาน ใช้กำลังบังคับ หรือกระทำโดยมิชอบประการใด ๆ เพื่อจูงใจให้ผู้ต้องหาให้การแต่อย่างใด และในการแจ้งข้อกล่าวหานี้ พนักงานสอบสวนผู้แจ้งมิได้ทำให้ทรัพย์สินของผู้ต้องหาเสียหายแต่อย่างใด เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จแล้ว ได้ให้ผู้ต้องหากลับไป โดยไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด

ตามเอกสารผลการตรวจชันสูตรบาดแผลหรือศพของแพทย์ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2562 รายของนายธรรมรัตน์ ทองทวี ที่กล่าวอ้างว่านายปรเมศวร์เป็นผู้ขับรถเฉี่ยวชนในคดีนี้ ระบุว่า มีบาดแผลฉีกขาดที่หน้าผากยาว 1 ซม. บาดแผลฉีกขาดที่คิ้วซ้ายยาว 3 ซม. บาดแผลฉีกขาดที่ท้ายทอยด้านซ้าย ยาว 3 ซม. บาดแผลถลอกที่ต้นแขนขวา ขนาด 2x4 ซม. บาดแผลถลอกที่ขาขวา ขนาด 2x3 ซม. บาดแผลถลอกที่ข้อเท้าขวา และบวมช้ำบริเวณข้อเท้าขวา และบาดแผลฉีกขาดที่ขาซ้าย ยาว 2 ซม. โดยพ.อ.นพ.เสกสรรค์ ชายทวีป แพทย์ผู้ทำการตรวจให้ความเห็ฯว่า ใช้เวลาพักรักษา 15 วัน ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน

สำหรับเอกสารผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของ สภ.บางกรวย ระบุเครื่องวัดหมายเลข T16522 มีนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม เป็นผู้ถูกตรวจวัด และ ส.ต.ท.นฤต โล่ชนทา เป็นผู้ตรวจวัด พบปริมาณแอลกอฮอล์วัดได้ 87 mg/100ml

ทั้งนี้มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายปรเมศวร์ เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องนี้นานเเล้วไม่มีอะไร ตนก็ยังไม่รู้คดีถึงไหน ก็ยังไม่เรียกไป ส่วนที่ถามว่าคดีส่งสำนวนให้อัยการตามเอกสารเเล้วหรือไม่นั้น ขอบอกว่า ยังเป็นเเค่ร่างเฉยๆหรือไม่ เป็นการเฉี่ยวชนกันนิดหน่อยชดใช้ค่าเสียหายเรียบร้อย ยังเปิดเผยอะไรไม่ได้มากเพราะตำรวจกำลังทำสำนวนอยู่ยังไม่มาถึงชั้นอัยการ

ส่วนที่ถามถึงเรื่องเครื่องดื่มเเอลกฮอล์จากนั้นก็ชนเเล้วหนี ขอบอกอีกเลยว่า วันนั้นตนดื่มเล็กน้อยและกำลังขับรถยนต์กลับ พอดีข้างทางมี จยย.เสีย และมีอีกคนคอยช่วยถีบ จยย.ให้ พวกเขาประคองกัน ตอนนั้นมืดมากตนมองไม่เห็นไม่รู้ว่าชน แต่พอมีคนบอกว่าตนชน ตนก็จอดรถยนต์ลงมารอดูจนไปถึงสถานีตำรวจ ไม่ได้หนีตามที่ลือกันจริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไร น่าจะเป็นการดิสเครดิตกันมากกว่า