- 16 ก.ย. 2563
ผู้ก่อเหตุชื่อ ปาริชาติ โพธิ์สานันทา หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ ทั้งนี้รอผลตรวจร่างกายจากแพทย์รพ.วิชัยยุทธ ที่จะออกมาในวันที่ 27 กันยายนนี้
16 ก.ย63 เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา ที่สน.พญาไท น.ส.อัมพิกา หนองอุดม อายุ 30 ปี อาชีพข้าราชการ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนไม่ได้คุยกับคนก่อเหตุเลย เขาไม่มองหน้า หรือขอโทษตนกับสิ่งที่ทำไป หรือแม้แต่แสดงความสำนึกผิด ส่วนเรื่องคดีอาญา ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยตำรวจให้ไปตรวจร่างกาย เพื่อนำใบรับรองแพทย์มาประกอบการแจ้งความอีกครั้ง ทั้งนี้ตนได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา ค่าทำขวัญไปจำนวน 50,000 บาท แต่คู่กรณีกล่าวหาว่าการแจ้งความของตนนั้นเกินแก่เหตุ ถามว่าสิ่งที่ตนเรียกร้องนั้นเกินไปหรือไม่เพราะตนก็มีลูกเล็ก หากวันนั้นถูกกระชากตกบันไดเลื่อนเป็นอะไรขึ้นมาจะบาดเจ็บมากกว่านี้หรือไม่ ทั้งนี้ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ตำรวจจะนัดคู่กรณีส่งฟ้องศาลแขวงดุสิตต่อไป
น.ส.อัมพิกา กล่าวว่า ยืนยันว่าขณะเกิดเหตุตนไม่ได้แสดงอาการยั่วยุแต่อย่างใด เพียงแต่ต่อแถวขึ้นรถตามปกติ โดยตนอยู่คิวต้นๆ คู่กรณีอยู่คนสุดท้าย เนื่องจากตนเป็นคนเวียนหัวง่ายจึงเลือกที่นั่งติดประตู แต่คู่กรณีไม่ยอมจะให้เข้าไปนั่งแถวในสุด ซึ่งตลอดเส้นทางที่นั่งรถมาก็ถูกคู่กรณีด่าทอตลอดเวลา ทั้งที่ตนก็ยอมเข้าไปนั่งข้างในแล้วและตนก็ไม่ตอบโต้หรือยั่วยุใดใดเลยจนถึงจุดหมายแล้วลงรถ คู่กรณีก็อาศัยจังหวะที่ตนเผลอ กำลังคุยโทรศัพท์ เดินเข้ามากระชากผมอย่างแรง
สำหรับ ผู้ก่อเหตุชื่อ ปาริชาติ โพธิ์สานันทา หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ ทั้งนี้รอผลตรวจร่างกายจากแพทย์รพ.วิชัยยุทธ ที่จะออกมาในวันที่ 27 กันยายนนี้ ก่อนส่งฟ้อง 6 ตุลาคม 2563 ซึ่งทางพนักงานสอบสวนสน.พญาไท ดำเนินการสอบปากคำที่เกี่ยวข้อง และจะแจ้งข้อหาผู้ต้องหาในความผิดฐาน “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ตามมาตรา 295 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในความผิดฐาน “ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า” ตามมาตรา 393 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ระหว่างที่ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการรับทราบข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันผู้เสียหายเดินทางมาที่สน. พญาไทเพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมรวมทั้งเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางผู้ต้องหา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ที่ห้องสอบสวนชั้น 3 ของสถานีตำรวจ ก่อนที่ผู้ต้องหาเป็นหญิงใส่เสื้อสีชมพูคนนี้จะวิ่งลงมา ทางบันไดด้านข้าง ก่อนออกประตูข้างสน.ขึ้นรถวินจักรยานยนต์ หนีออกไปทันทีโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชนที่พยายามวิ่งตามมาสอบถาม
รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนสน.พญาไท ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุและไล่ตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาเดินทางจนกระทั่งทราบว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นเจ้าของร้านแห่งหนึ่ง จึงให้ชุดสืบสวนไปเชิญตัวมาสอบปากคำที่สน.เมื่อวานนี้ โดยเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุในคลิปจริง โดยสาเหตุที่ทำลงไปเนื่องจากมีอารมณ์โมโห ที่คู่กรณีนั่งขวางที่นั่งซึ่งควรเป็นสิทธิ์ของเธอ ก่อนจะมีปากเสียงกันและก่อเหตุดังกล่าว จากนั้นจึงให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และหมิ่นประมาทซึ่งหน้า ตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา