- 02 เม.ย. 2564
ศาลปกครองกลางมีคำสั่ง ให้เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลังว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ ที่ให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้เงินจำนวนสินไหมจำนวน 35,000 ล้านบาท พร้อมทั้งให้เพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์ของนางสาวยิ่งลักษณ์
จากกรณีเมื่อวันที่ (29/04/2564) ศาลปกครองกลาง นั่งบัลลังก์พิจารณาคดีที่อดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวก รวม 9 คน เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหาย โดยศาลรวม 4 สำนวนคดี เพื่อพิจารณาในคราวเดียวกัน
โดยทางด้านของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกเรียกค่าสินไหมทดแทน 35,000 ล้านบาท ในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ฐานปล่อยให้เกิดการทุจริต และเพิกเฉยไม่ยับยั้งความเสียหาย โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ (2 เม.ย.) เวลา 09.00 น.
สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ในวันเดียวกันนี้ ศาลปกครองกลางมีคำสั่ง ให้เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงการคลังว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ ที่ให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้เงินจำนวนสินไหมจำนวน 35,000 ล้านบาท พร้อมทั้งให้เพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์ของนางสาวยิ่งลักษณ์
โดยระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องมาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่ย่อมจะมีประสบการณ์และเล็งเห็น ถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น กระทบต่อระเบียบวินัยการเงินการคลังในขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่สามารถ ดำเนินการสั่งให้ระงับยับยั้งโครงการได้เพียงคนเดียว
โดยทางด้านของ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินการบังคับคดีกับทรัพย์สินของนางสาวยิ่งลักษณ์ ตามคำสั่งกระทรวงการคลัง ทั้งการอายัดเงินในบัญชีธนาคาร หน่วยลงทุนและกองทุนต่าง ๆ กว่า 7.9 ล้านบาท รวมถึงยึดที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ห้องชุดเพื่อดำเนินการขายทอดตลาดอีก 199 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง ยกคำฟ้องของอดีตข้าราชการประจำ และอดีตรัฐมนตรีในกระทรวงพาณิชย์ ที่ขอให้ถอนคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ฟ้องทั้ง 5 แบ่งหน้าที่กันในลักษณะจงใจทำให้เกิดความเสียหายกว่า 20,000 ล้านบาท จึงชอบแล้วที่จะต้องชดใช้สินไหมทดแทน 15,000 ล้านบาท