เข้ม6จุดตรวจโควิด สกัดป้องกันเคลื่อนย้ายเเรงงานออกนอกพื้นที่ กทม. เริ่ม4โมงเย็นวันนี้

   28 มิ.ย.64 อัพเดตสถานการณ์เชื้อโควิด-19ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ เพิ่มอีก 5,406 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อใหม่ 5,397 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 9 ราย หายป่วยกลับบ้าน 3,343 ราย ผู้ป่วยสะสม 220,990 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน2564) เสียชีวิต 22 ราย  พร้อมกันนี้ในส่วนของพื้นที่กทม. ทางบชน.ได้ตั้งจุดตรวจโควิด-19 เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายเเรงงาน จำนวน6จุดเริ่มวันนี้ ตั้งเเต่เวลา 16.00น.เป็นต้นไป

 

ทาง  พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง รอง ผบช.น. เป็นผู้แทนประชุมหารือร่วมกับ กทม. โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และฝ่ายเทศกิจ กทม. โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการตั้งจุดตรวจโควิด-19 จำนวน 6 จุด เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่ ในบริเวณดังนี้

1.ใต้สะพานข้ามแยกมหานคร ถนนสุวินทวงศ์ ขาออก พื้นที่ สน.ลำผักชี, บก.น.3
2.ตรงข้ามร้านอาหารครัวเจ้ง๊อ ถนนบางนาตราด ขาออก พื้นที่ สน.บางนา บก.น.5
3.ใต้สะพานข้ามแยกพุทธมณฑล สาย 3 ถนนบรมราชชนนี ขาออก พื้นที่ สน.ธรรมศาลา บก.น.7

4.หน้าสำนักงานเขตหนองแขม ถนนเพชรเกษม ซอย 70 ขาออก พื้นที่ สน.หนองค้างพลู บก.น.9
5.หน้าปั๊มน้ำมันบางจาก กม.4.5 ถนนพระราม 2 ขาออก พื้นที่ สน.แสมดำ บก.น.9
6.บริเวณหน้าสถานีรถไฟดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก พิ้นที่ สน.วิภาวดี บก.จร.

ซึ่งการตั้งด่านตรวจสกัดในครั้งนี้ มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามแต่ละด่านต่อผลัดจำนวน 10 นาย แบ่งเป็นตำรวจ 4 นาย ทหาร 4 นาย และเจ้าหน้าที่เทศกิจ 2 นาย โดยมีกำหนดเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 ของวันนี้ 28 มิ.ย.64 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง นอกเหนือจากนี้ทางสถานีตำรวจในสังกัด บช.น. ได้จัดกำลังตำรวจเข้าประจำแคมป์คนงานก่อสร้าง จำนวน 2 นายต่อผลัด รวม 6 นายต่อวัน ต่อ 1 แคมป์คนงานก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม บช.น. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำการไว้ทั้งหมดแล้ว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป

  ความคืบหน้าในส่วนของ สำนักอนามัยพิจารณาสนับสนุนกระทรวงแรงงาน ตรวจค้นหาเชิงรุกและฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้กับแรงงานที่พักอาศัยอยู่ในแคมป์หรือไซต์งานก่อสร้าง  และให้ประสานงานกับสำนักงานเขตเพื่อปรับปรุงข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ให้ถูกต้องและตรงกัน  สำนักการแพทย์จัดทำแนวทางปฏิบัติการแยกรักษาตัวที่บ้านและนำส่งผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด  

  ข้อมูล ณ วันที่ 27 มิถุนายน มีแคมป์คนงานก่อสร้าง รวม 575 แคมป์ ปิดแล้ว 77 แคมป์กระจายอยู่ในพื้นที่ 50 เขต ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ  จึงให้สำนักการโยธา  ประสานผู้ประกอบการที่มีแคมป์คนงานก่อสร้างขนาดใหญ่ ให้ปิดแคมป์โดยหยุดการก่อสร้างและงดเคลื่อนย้ายแรงงาน  พร้อมจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทการก่อสร้างที่เข้าข่ายต้องปิดแคมป์  

 พร้อมกับได้มีรายงานอัพเดต คลัสเตอร์ใหม่ ในพื้นที่ กทม.ที่มีการระบาดของเชื้อโควิด-19  ได้เเก่ 

-เขตบางพลัด 1. โรงแรมซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 ผู้ติดเชื้อสะสม 26 คน 2. แคมป์ที่พักคนงาน ซ.รุ่งประชา
ผู้ติดเชื้อสะสม 52 คน
-เขตห้วยขวาง แคมป์ที่พักคนงาน ย่านเทียมร่วมมิตร ผู้ติดเชื้อสะสม 59 คน
-เขตลาดกระบัง โรงงานผลิตเบเกอรี่
ผู้ติดเชื้อสะสม 378 คน


นอกจากนี้ ให้สำนักงานเขต เชิญผู้ประกอบการที่มีแคมป์คนงานในแต่ละพื้นที่เขต ประชุมเพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติในการปิดแคมป์และการปฏิบัติตามข้อกำหนด รวมทั้งให้ประสานศูนย์บริการสาธารณสุข เพื่อปรับปรุงข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ให้ถูกต้องและตรงกันพร้อมทั้งจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลและควบคุมการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างต่อไป 

ทั้งนี้พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี ตามที่รัฐบาลได้ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25) มีผล 28 มิ.ย.64 โดยกำหนดพื้นที่ 10 จังหวัด เป้าหมายเฉพาะในเขตพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล(นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร) และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้(นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา) เพื่อชะลอและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างเร่งด่วน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้กำชับการปฎิบัติของหน่วยงานความมั่นคง สาธารณะสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและจริงจัง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส

ด้านพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ให้ประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานทหาร สาธารณะสุข ฝ่ายปกครอง และหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนกำลังเมื่อมีการร้องขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง

พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548(ฉบับที่ 25) การควบคุมการปิดแคมป์แรงงานก่อสร้าง สถานประกอบการ โรงงานในเขต กทม. และปริมณฑล การตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกับหน่วยร่วมปฏิบัติ เพื่อคัดกรองการเดินทางตามเงื่อนไขที่ ศบค. กำหนด ในเส้นทางเข้า-ออก จังหวัดชายแดนใต้, กทม. และปริมณฑล และเส้นทางเข้า-ออกจังหวัดอื่นๆ รวมถึงตรวจสอบสถานประกอบการ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต่างๆ ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนดของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดที่เกี่ยวข้อง อย่างเคร่งครัด พร้อมเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่างๆ

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่ออีกว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้กำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง หน่วยสาธารณะสุข และหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด สนับสนุนกำลังพลในการปฎิบัติภารกิจเมื่อมีการร้องขอ ควบคุมการปิดแคมป์แรงงานและจำกัดพื้นที่การเคลื่อนย้ายแรงงาน อย่างน้อย 30 วัน (เฉพาะ กทม. และปริมณฑล) ออกตรวจสอบการจำหน่ายอาหารหรือของร้านอาหารต่างๆ การเปิด-ปิดห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า ตามเวลาที่กำหนด การห้ามจัดกิจกรรมต่างๆ ตามเงื่อนไขที่ ศบค. และคำสั่งของจังหวัดที่เกี่ยวข้องได้กำหนด หากพื้นที่ใดมีการปล่อยปละละเลย ก็จะพิจารณาความบกพร่องทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูล มายังหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม.