หมอสาวงานเข้า ชี้ชัดตั้งใจ ไม่ใช่วัคซีนทิ้งขยะ เเค่ข้ออ้างโดสที่ 7เหลือทิ้ง

   กรณี พญ.กฤตยาณี พูลเพียร แพทย์ประจำรพ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้พาญาติมาเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ที่ใช้เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมตามมา ซึ่งจากนั้นทาง“หมอกุ๊บกิ๊บ”ก็ได้ออกมาขอโทษทั้งน้ำตา ปมพาพี่สาว ฉีดไฟเซอร์เหลือก้นขวด ยอมรับคิดน้อยเกินไป เสียดายวัคซีนที่เหลือ ทิ้งไปก็เปล่าประโยชน์และอยากให้แม่-พี่สาว

 

 

   ความคืบหน้าล่าสุด  นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้การสอบสวนวินัยเสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในระหว่างการสรุปสำนวนและกำหนดแนวทางการดำเนินการทางวินัย ซึ่งจะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้พิจารณาตามขั้นตอนระเบียบของทางราชการ

    ซึ่งแพทย์หญิงรายดังกล่าวได้แสดงความจำนงในการขอยื่นใบลาออกแต่ภายหลังได้เปลี่ยนใจอ้างว่าได้รับกำลังใจจากผู้บริหารระดับสูง และต้องการที่จะปฏิบัติงานเพื่อชาวนบพิตำต่อไป ทำให้ยกเลิกการลาออกนำเอกสารกลับคืน ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า เอกสารการลาออกที่แพทย์หญิงรายนี้ยื่นมานั้นยังไม่สมบูรณ์ตามระเบียบของทางราชการ ทั้งยังต้องพิจารณาวินัยจากการตั้งกรรมการสอบสวนจึงทำให้การลาออกยังไม่เป็นผล รวมทั้งการยกเลิกการลาออกนั้นเป็นสิทธิส่วนตัวของแพทย์หญิงรายนี้ที่สามารถทำได้

ส่วนกรณีที่แพทย์หญิงอ้างว่าวัคซีนอยู่ในถังขยะนั้น ข้อเท็จจริงแล้วนั้นมีกระบวนการที่สำคัญคือได้จัดซื้อเข็มและหลอดเพื่อใช้วัคซีนให้ครบและประหยัด ลดการสูญเสียในกระบวนการ โดยใช้เข็มที่มีพื้นที่ค้างของยาน้อยที่สุด เรียกว่า โลวเดดสเปชไซริงค์ แอนด์มิดเดิ้ล ทำให้ยาติดค้างในเข็มและในไซริงค์น้อยมาก

 หากติดค้างน้อยจะมีวัคซีนเหลืออยู่ในขวดมาก ดังนั้นวัคซีนไฟเซอร์ปกติจะได้ 6 โดส แต่เราได้ทำให้เพิ่มขึ้นได้เป็น 7 โดส การอ้างว่าโดสที่ 7 เป็นโดสที่ทิ้งนั้นไม่ใช่ แต่เป็นความตั้งใจอยู่แล้ว และเป็นไปในลักษณะเดียวกับแอสตราเซเนก้า ที่ปกตินั้นฉีดได้ 10 โดส แต่เราสามารถดึงฉีดได้ถึง 11 โดสเป็นปกติ

ขอบคุณ
เที่ยงวันทันเหตุการณ์